การสังหารหมู่คาทิน(โหดสัสรัสเซีย)
..ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง..เยอรมันกับโซเวียตรัสเซีย ร่วมกันบุกยึดครองโปแลนด์ ในปี ค.ศ.1939 ดินแดนโปแลนด์ได้ถูกแยกออกเป็นสองส่วน โดยอยู่ใต้การปกครองของโซ เวียตรัสเซียกับเยอรมัน
ในปี ค.ศ.1940 ฝ่ายรัสเซียไม่ต้องการให้โปแลนด์ มีความสามารถที่จะต่อต้านพวกตนได้อีก จึงวางแผนกำจัดนายทหารทั้งหมดของกองทัพโปแลนด์รวมถึงกลุ่มปัญญาชนที่มีแนวโน้มจะต่อต้านโซเวียตรัสเซีย
ปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการโดย หน่วยตำรวจลับของ NKVD หรือ กรมการราษฎร ฝ่ายกิจการภายในของโซเวียตรัสเซีย(เทียบได้กับกระทรวงมหาดไทย)และได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารพรรคคอม มิวนิสต์ ที่มีโจเซฟ สตาลิน เป็นผู้นำ
หน่วยตำรวจลับNKVD ได้เริ่มปฏิบัติการสังหารหมู่ในเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.1940
โดยพวกตำรวจลับของรัสเซีย ได้นำตัวนายทหารโป แลนด์จำนวนมากไปยัง ป่าคาทิน(Katyn Forest) ซึ่งอยู่ในรัสเซียติดกับพรมแดนโปแลนด์ จากนั้น ทุกคนก็ถูกจับมัดมือไพล่หลังและจ่อยิงที่ท้ายทอย ก่อนฝังรวมกันในหลุมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการสังหารหมู่เชลยโปแลนด์ ในเรือนจำที่เมืองคาลินินและเรือนจำที่เมืองคาคิฟด้วย(ในปัจจุบัน คาคิฟเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน)โดยมีผู้เสียชีวิตในการสังหารโดยฝีมือตำรวจลับของรัสเซีย รวมทั้งสิ้น 22,000คน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ถูกเรียกว่า การสังหารหมู่คาทิน (Katyn massacre)เนื่องจากมีการพบหลุมศพขนาดใหญ่ในป่าคาทินเป็นที่แรก จนนำไปสู่การเปิดเผยสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในปี ค.ศ.1943 หลังกองทัพเยอรมันเข้ารุกราน
โซเวียต กองทหารเยอรมันได้พบหลุมศพขนาดยักษ์ ในป่าคาทิน และระบุว่าเป็นฝีมือของพวกรัสเซีย ทว่าทางการรัสเซียได้ปฏิเสธและกล่าวอ้างว่าศพเหล่านั้น ถูกฆ่าโดยพวกเยอรมันต่างหาก
หลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงในปี ค.ศ.1945 ได้มีความพยายามตรวจสอบเหตุการณ์สังหารหมู่ดังกล่าว แต่ทางโซเวียตรัสเซียก็ยังคงยืนกรานว่า การสังหารหมู่คาทินเป็นฝีมือของพวกเยอรมัน จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1991 ทางการรัสเซียจึงได้ยอมรับว่า การสังหารหมู่ดังกล่าว เป็นฝีมือตำรวจลับNKVDและเป็นความรับผิดชอบของสหภาพโซเวียต อย่างไรก็ตาม
ฝ่ายรัสเซียไม่ยอมรับว่า นี่เป็นอาชญากรรมสงครามหรือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.2010 สภาดูมาแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย จึงได้อนุมัติ การประกาศโทษ
สตาลินและเจ้าหน้าที่สหภาพโซเวียตอื่นๆ ที่มีส่วนในการสังหารหมู่ในครั้งนั้น