รมว.พม.สั่งเร่งปลัดกระทรวง ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี บิ๊กโจ๊ก จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่นำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศ 5 ราย
พิษณุโลก จุติ สั่งเร่ง ปลัดกระทรวง ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ‘บิ๊กโจ๊ก’ จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่นำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศ 5 ราย
รมว.พม.สั่งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนกรณีมีผู้บริหารเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในกรณี ‘บิ๊กโจ๊ก’ จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่นำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศ 5 ราย โดยมีผู้ใช้บริการ 11 ราย และมีรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนื ได้โทรศัพท์สั่งเกลี้ยกล่อมเด็กเหยื่อคดีค้ามนุษย์ ช่วยผู้ต้องหาอีกด้วย ทั้งๆที่ควร ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่บ้านเด็ก (บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี) อ้างถึงการใช้ไม้ทุบตีเด็กเพื่อให้เด็กช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ใช้บริการ โดย รมว.พม. ได้กำชับตรวจให้ละเอียดเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันที่ 5 พฤษภาคม ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอล โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ พิษณุโลก นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.ได้เดินทางมา เปิดโครงการพัฒนาคนทุกช่วงวัยในจังหวัดพิษณุโลกอย่างมีคุณภาพฯ กิจกรรมครอบครัววิถีใหม่สู่สังคมเข้มแข็ง รุ่นที่ 5 เพื่อดูแลช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ
จากนั้นนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.ได้เปิดเผยกรณีที่เป็นข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ที่ จ.สุราษฏร์ธานี เรื่องนี้ ให้ความสำคัญ ท่านปลัดฯ สั่งการให้ท่านอธิบดีกิจการเด็กและเยาวชนไปแล้ว จะมีการดำเนินการ 2 ส่วนคือ 1 เข้าไปหาข้อเท็จจริง ในที่สุดคงต้องนำผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อไม่ให้ใครไปยุ่งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานได้ ก็ต้องรอให้ผู้เข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงรายงานเข้ามาที่ท่านปลัด เพราะอำนาจในการย้ายรองอธิบดีฯเป็นของท่านปลัดกระทรวง คงมีได้แค่นี้ แต่ว่า ขอย้ำว่า ได้ย้ำท่านปลัด ทุกอย่างให้ยึดข้อเท็จจริงไว้ ยึดความถูกต้องไว้ ดำเนินการโดยไม่เว้นว่าจะเป็นใครได้ ต้องให้ความเป็นธรรม ความถูกต้องเกิดขึ้น ทุกคนจะได้เชื่อมั่นในระบบและมั่นใจการทำงาน ของ พม.เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ส่วนที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเลยหรือไม่นั้น ให้ไปหาข้อเท็จจริงมาก่อน ว่าเป็นอย่างไร เมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้วท่านปลัด จะดำเนินการต่อไป แต่เท่าที่ทราบ อำนาจในการย้ายรองอธิบดีเป็นอำนาจของ ปลัดกระทรวง ส่วนอำนาจในการย้ายเจ้าหน้าที่ เป็นอำนาจของอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ฉะนั้นในขั้นนี้เท่าที่ได้ฟังจากรายงาน ทุกท่านบอกว่าจะให้ความสำคัญ คือให้เอาคนออกมาจากนอกพื้นที่ เพื่อให้คนนอกเข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ความจริงปรากฏ จะไม่ให้ใครใช้อิทธิพล ปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงอะไรไปได้ ขอให้เชื่อมั่นว่า ผมให้ปลัดกระทรวง และอธิบดีกรม ลงไปดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง
นายจุติกล่าวว่า สำหรับเด็กที่เป็นเหยื่อ ได้รับความคุ้มครองอย่างดี เหยื่อได้รับความคุ้มครองถึงได้นำตัวออกมาจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความหวาดกลัว สำหรับการนำเด็กไปไว้ที่ไหนนั้นขอเป็นความลับ แม้แต่ผมเองยังไม่รู้เลย แต่เรื่องนี้ดังขนาดนี้ ปลัดกระทรวง และ อธิบดีฯ ลงไปดูแลเองขนาดนี้ขอให้เชื่อใจได้ครับ
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องจะมีเท่าไหนกี่คน คงต้องรอข้อเท็จจริง จากคณะที่เข้าไปตรวจสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เพราะข่าวนี้เพิ่งข่าวเมื่อวานนี้ เขาตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงคงเร่งทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด ผมก็ได้เร่งรัดลงไปแล้ว ว่าต้องให้คำตอบให้ประชาชนได้มั่นใจ จะไม่มีการถ่วงเวลา ปกปิดข้อเท็จจริงจะไม่มีบิดเบือนข้อเท็จจริง ทุกคนต้องทราบต้องรู้ ยึดหลักความถูกต้อง หยึดหลักกฏหมาย ขอให้มั่นใจ ส่วนจะใช่เวลากี่วันนั้น เร็วที่สุด ก็ขอให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้ได้ก็ยิ่งดี แต่เรื่องนี้ทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม เราต้องนึกถึงอกเขาอกเรา จะไม่มีการแบ่งใครเป็น เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ใครเป็นเจ้าหน้าที่บริหาร ข้อเท็จจริงจะเป็นการบ่งชี้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการค้าประเวณี การละเมิดในเด็ก อย่างไร รมว.พม. กล่าวว่า อย่าเพิ่งราดน้ำมัน ขอให้ข้อเท็จจริงนิ่ง แล้วเราจะทำอย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ,ท่านพล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ โดยมีกระทรวง พม.เป็นเลขานุการทำเรื่องการค้ามนุษย์ ทำอย่างจริงจังมาตลอด ทำอย่างยากลำบาก เพราะเกี่ยวข้องกับประเด็นต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเมาก ฉะนั้นพูดเอาซะใจไม่ได้ พูดแล้วต้องอยู่บนข้อเท็จจริง ต้องไม่ให้กระทบต่อผลที่เราไปทำงานกับประเทศสหรัฐอเมริกาในเรื่องของการค้ามนุษย์ด้วย เพราะฉะนั้นมันมีหลายมิติ มีความเชื่อมโยงเยอะ ไม่อยากรักษาผลประโยชน์ไม่ให้ประเทศไทยบอบช้ำต้องดูให้ดี ให้ได้รับความเป็นธรรม โปร่งใส่ ถูกกฎหมายและจบโดยเร็ว
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก