ปล่อย "กลไกตลาด" ทำงานเสรี ทางออกสินค้าปศุสัตว์ นักวิชาการแนะ ‘ไก่ ไข่ ปลา’ ทางเลือกผู้บริโภค
ภาวะราคาเนื้อหมูที่ปรับขึ้นในช่วงนี้ ทำให้เกษตรกรต้องตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้งว่าเป็นต้นเหตุ ทั้งที่จริงๆแล้วคนเลี้ยงหมูต้องแบกภาระขาดทุน จากต้นทุนการผลิตที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 99 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ราคาขายหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มอยู่ที่ 96-98 บาทต่อกิโลกรัม แต่เหตุไฉนเมื่อราคาหมูหน้าฟาร์มไปถึงผู้บริโภค กลับต้องซื้อเนื้อหมูราคาแพง
เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในห่วงโซ่การผลิตจนถึงการขายเนื้อหมูไปยังผู้บริโภค ทุกขั้นตอนมีต้นทุนทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่นหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มราคา 96-98 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรจะขายขาดที่หน้าฟาร์มได้กำไรหรือขาดทุนตามแต่จะตกลงกับพ่อคาจับหมูที่มารับซื้อ โดยส่วนนี้พ่อค้าจะทำการขนหมูเข้าโรงเชือดซึ่งมีค่าขนส่งและมีค่าน้ำหนักหมูที่หายไประหว่างขนส่ง (จากส่วนของมูล และปัสสาวะ) ต้นทุนส่วนนี้ประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อถึงโรงเชือด จะมีค่าจ้างเชือดและมีน้ำหนักสูญเสีย (เลือดและขน) กลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 13 บาทต่อกิโลกรัม จากนั้นหมูซีกจะถูกขนส่งต่อไปที่แม่ค้ามีค่าขนส่งอีก 1 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อรวมต้นทุนแม่ค้าและค่าบริหารจัดการ-วัสดุ-อุปกรณ์ในการขาย เช่น ค่าเช่าแผง ค่าลูกจ้าง ค่าน้ำแข็ง ประมาณ 1 บาทต่อกิโลกรัม เท่ากับต้นทุนที่เขียงรวม 111-113 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้การคำนวณราคาเนื้อหมูโดยปกติจะใช้สูตร ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม คูณด้วย 2 เท่ากับราคาหมูเนื้อแดงหน้าเขียงควรจะอยู่ที่ 192-196 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาแต่ละพื้นที่อาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับภาวะตลาด จากอัตราการบริโภคในพื้นที่นั้นๆ กับปริมาณผลผลิตหมูที่ออกสู่ตลาดว่าสอดคล้องกันหรือไม่ โดยการขึ้นหรือลงของราคา เป็นไปตามกลไกตลาดนั่นเอง
มาถึงตรงนี้เราๆท่านๆคงเข้าใจที่มาที่ไปของราคาหมูหน้าเขียงแล้ว และต้องทำความเข้าใจว่าเหตุที่เกษตรกรจำเป็นต้องขายหมูราคานี้ก็เพราะต้นทุนการเลี้ยงที่พุ่งสูงขึ้นไปอย่างไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งสาเหตุหลักๆเกิดจาก ปัญหาโรค ASF ที่พบเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา และความวิตกของเกษตรกรที่มีต่อภาวะโรค จึงมีเกษตรกรเลิกเลี้ยงหมูไปมากกว่าครึ่ง ทำให้ปริมาณหมูหายไปจากระบบ จนถึงวันนี้การเลี้ยงหมูก็ยังไม่ได้กลับมาเต็มกำลังการผลิตของทั้งประเทศ ปัจจุบันปริมาณหมูลดลงไปมากกว่า 40-50% จากภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน ต้นทุนการผลิตทั้งวัตถุดิบสำรหับผลิตเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ต่างปรับราคาขึ้น สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบราคาเมื่อปี 2563 กับปัจจุบัน พบว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศราคาปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ราคาสูงขึ้นถึง 41% ขณะที่ข้าวสาลีนำเข้าราคาปรับไปถึง 76% กากถั่วเหลืองนำเข้าราคาสูงขึ้น 67% และปลาป่น ราคาเพิ่มขึ้นถึง 30% คิดเป็นต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นแล้ว 25-30% และยังมีต้นทุนค่าพลังงาน ทั้งไฟฟ้าและน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก ยังไม่นับผลกระทบภัยแล้งที่ทำให้เกษตรกรต้องซื้อน้ำมาใช้ในฟาร์ม รวมถึงอัตราเสียหายในฟาร์มที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนและหมูโตช้าต้องเลี้ยงนานขึ้น กลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เกษตรกรขอให้ผู้บริโภคเข้าใจในภาระที่ผู้เลี้ยงต้องแบกรับ และขอให้ปล่อยกลไกตลาดทำงานต่อไป เพื่อให้ราคาหมูสะท้อนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างที่แท้จริง หากราคาปรับขึ้น ตลาดจะปรับตัว การบริโภคจะลดลงจนกลับสู่สมดุลเอง วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้ ที่สำคัญ กลไกตลาดทำงานที่ทำงานอย่างเสรี โดยไม่มีใครมาควบคุม คือ “สูตรสำเร็จ" ในการแก้ปัญหาราคาสินค้าทุกประเภท
สำคัญที่สุด ผู้บริโภคคือหัวใจหลักของเรื่องนี้ เพราะวันนี้ราคาสินค้าทุกประเภทต่างปรับตัวขึ้นทั่วทั้งโลก จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศและผลกระทบสงคราม ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย และต้องไม่ลืมว่าผู้บริโภคยังมีทางเลือกอีกมากมายในการบริโภคเนื้อสัตว์ หรืออาหารโปรตีนต่างๆ ทั้งเนื้อไก่ ซึ่งถือเป็นอาหารในหมวดหมู่โปรตีน ที่นำมาใช้ทดแทนเนื้อหมูอยู่แล้ว รวมถึงไข่ไก่ ไข่เป็ด ปลาหลากหลายชนิด หรือแม้แต่กุ้งและสัตว์น้ำต่างๆ ให้สามารถเลือกซื้อหามาบริโภคได้ ซึ่งถือเป็นการช่วยเกษตรกรทั้งผู้เลี้ยงหมูและเกษตรกรเลี้ยงสัตว์อื่นๆด้วย
ในทางกลับกันเกษตรกรไม่มีทางเลือก เพราะเขายึดการเลี้ยงหมูเป็นอาชีพเดียวในการเลี้ยงตัวเอง ความเห็นใจ ความเข้าใจ และความช่วยเหลือ จึงเป็นสิ่งที่เกษตรกรกำลังเรียกร้องจากทั้งผู้บริโภคและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และคำแนะนำที่ให้ผู้บริโภคเลือกโปรตีนหลากหลายทดแทนกันนี้ ก็เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องและให้ผลลัพธ์ที่ดีมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ถ้าเห็นว่าหมูแพงก็แค่เปลี่ยนไปบริโภคอย่างอื่นแทน เท่านี้ปริมาณหมูก็กลับสู่สมดุลการบริโภค ราคาก็จะปรับสู่ปกติได้อย่างแน่นอน
อ้างอิงจาก: กรมประชาสัมพันธ์
10 เลขฮิต "OK ล็อตเตอรี่" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..ส่องก่อน รวยก่อน!!
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย
ดราม่ารับปีใหม่! เที่ยวชะอำเจอ "ค่าเก้าอี้ 600"
มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศ
นักร้องดัง "ไช่ อีหลิน" ยืนร้องเพลงและเต้น บนหัวงูยักษ์
100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025
สสจ.โคราชเตือนประชาชนป้องกันโรคไข้หูดับ หลังพบผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศและมีผู้เสียชีวิต 13 ราย แนะนำระวังเมนูหมูกระทะและหมูสุกๆ ดิบๆ ในช่วงปีใหม่
ผักขม และผักโขม ความอร่อยที่แตกต่าง หอมหวานทานนุ่มลื่นกับส้มตำ
พบกลิ่นแปลกจากนมกล่องที่สั่งซื้อออนไลน์ ก่อนตรวจสอบโกดังพบว่านมหมดอายุถูกนำมาขายใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อสุขภาพ
อดีตนายกหญิงคนแรกของบังกลาเทศ "คาเลดา เซีย" เสียชีวิตแล้ว
นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
ดราม่ารับปีใหม่! เที่ยวชะอำเจอ "ค่าเก้าอี้ 600"
เปิดอายุแท้จริงของ น้องจินนี่ ลูกสาว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำให้หลายคนเข้าใจผิด
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย





