ชมภาพเก่า!! ธนินทร์ เจียรวนนท์ (เจี่ย ก๊กมิ้น) ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์
ธนินท์ เจียรวนนท์ มีชื่อจีนว่า เจี๋ย ก๊กมิ้น เกิดวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2482 เป็นนักธุรกิจพันล้านชาวไทย ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอดีตประธานกรรมการ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร
ธนินท์เป็นหัวหน้าตระกูลเจียรวนนท์ ซึ่งทางฟอร์บส์เอเชียใน พ.ศ. 2560 จัดให้เป็นตระกูลที่รวยที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย โดยมีมูลค่าสุทธิที่ 36.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 เขามีมูลค่าสุทธิอยู่ประมาณ 17.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ฟอร์บส์จัดให้ ธนินท์ เจียรวนนท์ และพี่น้องของเขามีสินทรัพย์ที่ 30.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 ทางฟอร์บส์จัดให้พี่น้องเจียรวนนท์เป็นกลุ่มที่รวยที่สุดในประเทศไทย
ธนินท์ เจียรวนนท์ เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2482 ที่ย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายคนที่ 4 ในบรรดาบุตรทั้ง 5 คนของนายเอ็กชอ แซ่เจี๋ย ชาวจีนแต้จิ๋วอพยพ นายธนินท์เริ่มทำงานเป็นครั้งแรกที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ เมื่ออายุได้ 19 ปี
หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านพาณิชยกรรมที่ฮ่องกง โดยทำงานในตำแหน่งแคชเชียร์ ธนินท์ เข้ารับการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จนจบการศึกษาในปี พ.ศ. 2492 และได้ไปศึกษาชั้นมัธยมจนจบในปี พ.ศ. 2494 จากโรงเรียนซัวเถา ประเทศจีน และอุดมศึกษาในปี พ.ศ. 2499 จากสถาบันศึกษาฮ่องกงวิทยาลัย รวมทั้งผ่านการศึกษาอบรมจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 1 ปี พ.ศ. 2532
ต่อมาได้โยกย้ายไปทำงานที่สหพันธ์สหกรณ์ค้าไข่แห่งประเทศไทย และบริษัท สหสามัคคีค้าสัตว์ จำกัด ตามลำดับ กระทั่งเมื่ออายุ 25 ปี ได้กลับมาทำงานอีกครั้งที่เจริญโภคภัณฑ์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์
รับผิดชอบบริหารงานในตำแหน่งประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกลุ่มธุรกิจในเครือฯรวม 13 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร, กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยและเคมีเกษตร, กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ, กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร,
กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง, กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์, กลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย, กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม, กลุ่มธุรกิจพลาสติก, กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจยานยนต์, กลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจการเงินและการธนาคาร