ตราบาปอาวุธเคมีของอเมริกัน
ยุคสงครามเวียดนาม จาก 1 พฤศจิกายน 2498 – 30 เมษายน 2518 (19 ปี, 5 เดือน, 4 สัปดาห์ และ 1 วัน) ทหารอเมริกันที่กำลังสู้รบกับทหารเวียดกงอย่างดุเดือด เเต่พวกเวียดกงมีความสามารถในการซ่อนตัว
ใช้ความได้เปรียบของภูมิภาคที่เป็นป่าทึบเเละขุดโพรงอยู่ใต้ดิน ทำให้พวกอเมริกันหาตัวเเละทำการโจมตีทางอากาศได้ยาก
ฝนเหลือง สารเคมีประเภท 2,4-D เเละ 2,4,5-T ตระกูลสารกัดจัดวัชพืชจัดอยู่ในกลุ่ม Chlorophenoxy Herbicide
ที่มีไว้ในการทำเกษตรของชาวอเมริกันจึงได้ถูกนำมาใช้ ตั้งเเต่ยุค 60s โดยสหรัฐอเมริกาถือคติที่ว่าถ้าเพื่อทำลายเป้าหมาย
ต่อให้เผาป่าไล่หนูตัวเดียวก็ทำได้ ฝนเหลืองถูกใช้ในเวียดนาม มากถึง 77 ล้านลิตร โปรยใส่ป่ากว่า 12,500,000 ไร่ ใบไม้ต่างก็ค่อยๆ
ร่วงโรยจนเหลือเเต่ต้นไม้โกร๋นเเทบทั้งป่า ที่สำคัญพิษของมันยังทำให้ชาวบ้านที่โดนเข้าไปปวดเเสบปวดร้อนเหมือนโดนไฟไหม้
ผิวหนังพุพองไปทั่วร่างกาย เเละเเม้สงครามที่ยาวนานถึง 19 ปี สิ้นสุดลงไป รัฐบาลสหรัฐได้ถอนทหารออกจากประเทศเวียดนาม
เเต่พิษของฝนเหลืองนั้นยังไม่หมดไป เด็กที่เกิดหลังสงครามจำนวนมาก ต่างก็เกิดมาร่างกายพิกลพิการเนื่องจากพ่อแม่โดนพิษฝนเหลือง ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่าล้่านคน เป็นตราบาปที่ชาวเวียดนามเจ็บปวดมาถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ในวันที่ 10 ธันวาคม 251 มีข้อความของอนุสัญญาที่แนบเป็นภาคผนวก อนุสัญญาดังกล่าว ที่เรียก อนุสัญญาการดัดแปรสิ่งแวดล้อม
เปิดให้ลงนามและให้สัตยาบันในวันที่ 18 พฤษภาคม 2520 แลมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2521 อนุสัญญาฯ ห้ามการใช้ทางทหาร
หรือเป็นปรปักษ์อื่นซึ่งเทคนิคการดัดแปรสิ่งแวดล้อมซึ่งมีผลลัพธ์กว้างขวาง ยาวนานหรือรุนแรง หลายรัฐไม่ถือว่าอนุสัญญาห้ามการใช้
สารฆ่าวัชะชและสารทำให้ใบไม้ร่วงโดยสิ้นเชิงแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป
ภาพของผลกระทบ