"มะละกอ" ผลไม้ของนางฟ้า
"มะละกอ" ที่หลายๆ ท้องถิ่นเรียกชื่อแตกต่างกันไป มีประโยชน?มากมาย มะก้วยเทศ (ภาคเหนือ) หมักหุ่ง (ลาว,นครราชสีมา,เลย) ลอกอ (ภาคใต้) กล้วยลา (ยะลา) แตงต้น (สตูล)
ถิ่นกำเนิด : มะละกอมาจากประเทศเขตร้อน บริเวณตั้งแต่อเมริกากลาง ไล่ลงมาอเมริกใต้ และเข้าไปถึงแถวเม็กซิโก ซึ่งแม้ครอบคลุมพื้นที่กว้าง แต่ก็ไม่สามารถปลูกได้ในพื้นที่บางส่วนของแต่ละโซนที่กล่าวมาเท่านั้นเพราะ มะละกอเป็นพืชเมืองร้อน ดินที่ปลูกต้องมีน้ำค่อนข้างน้อย หรือดินปนทราย ส่วนอุณหภูมิ หากต่ำมากก็จะตายในทันที
ประวัติ “ มะละกอ ผลไม้ของนางฟ้า “
มะละกอ ผลไม้เมืองร้อนที่หากินได้ตลอดทั้งปีในบ้านเรา หนึ่งในผลไม้ที่ถือว่ามีสรรพคุณทางยาครบทุกส่วนตั้งแต่ลำต้น ใบ ราก ผลและเมล็ด มะละกอจึงได้รับการขนานนามจากถิ่นกำเนิดอย่างอเมริกากลางและอเมริกาใต้ว่าเป็น “ต้นไม้แห่งสุขภาพ”
และยังมีอีกหนึ่งฉายาที่ลูกเรือของโคลัมบัสมอบให้คือ “ผลไม้ของนางฟ้า”
.
เมื่อราว 500 กว่าปีก่อน มีบันทึกเกี่ยวกับมะละกอโดยบิชอปจิแมนเนสเล่าว่า ในตอนที่กอร์เตสแห่งสเปน (Hernando Cortes) นักสำรวจ ไปเยือนเมืองแอซเตกในเม็กซิโก ในงานเลี้ยงต้อนรับทหารของกอร์เตสได้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
ชาวพื้นเมืองจึงนำผลไม้ลักษณะเหมือนแตงโม เนื้อสีทอง นุ่ม ขนาดใหญ่เท่าหัวคนมาให้กิน แล้วสักพักอาการก็ดีขึ้น
.
นอกจากนี้ ยังมีบันทึกเกี่ยวกับประโยชน์ของมะละกอในด้านอื่น ๆ อยู่ในหนังสือ Healing Power Of Papaya โดย บาร์บารา ซีมอนซอร์น (เผยแพร่ครั้งแรกปี 2000) ถึงสรรพคุณที่ชาวพื้นเมืองต่าง ๆ นำไปใช้อีกมาก เช่น
ชาวพื้นเมืองเม็กซิโกจะนำเมล็ดมะละกอแห้งและเมล็ดฟักทองแห้งบดเข้าด้วยกัน ผสมกับน้ำหนึ่งถ้วยแปะบนแผลเพื่อรักษาหรือโปะบนข้อที่บวมเพื่อบรรเทาอาการ เป็นต้น
มะละกอ ( Carica papaya) เป็นไม้ผลชนิดหนึ่งในวงศ์มะละกอ (Caricaceae) สูงประมาณ 5–10 เมตร มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง ถูกนำเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วเนื้อในจะมีสีเหลืองถึงส้ม นิยมนำมารับประทานทั้งสดและนำไปปรุงอาหาร เช่น ส้มตำ ฯลฯ หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็ได้