ผลกระทบอันน่ากลัว ภัยพิบัติเชียร์โนบีล ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
1. เป็นอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ขั้นร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชียร์โนบีล ตั้งอยู่ที่นิคมเชียร์โนบีล ริมฝั่งแม่น้ำนีเปอร์ ใกล้เมืองปรือเปียต แคว้นเคียฟ ทางตอนเหนือของยูเครน เป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ในแง่ของค่าใช้จ่ายและชีวิต
2. อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวิศวกรได้ทำการทดสอบการทำงานของระบบหล่อเย็น และระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่การทดสอบระบบได้ล่าช้ากว่ากำหนดจนต้องทำการทดสอบโดยวิศวกรกะกลางคืน ได้เกิดแรงดันไอน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลัน
3. แต่ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติไม่ทำงาน ส่งผลให้เกิดความร้อนสูงขึ้นจนทำให้แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 หลอมละลาย และเกิดระเบิดขึ้น
4. ผลจากการระเบิดทำให้เกิดขี้เถ้าปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีพวยพุ่งขึ้นสู่บรรยากาศ ปกคลุมทางตะวันตกของสหภาพโซเวียต ยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก ยุโรปเหนือ ทางการยูเครน เบลารุส และรัสเซีย ต้องอพยพประชากรมากกว่า 336,431 คน ออกจากพื้นที่อย่างฉุกเฉิน
เมืองปรือเปียตที่ถูกทิ้งร้าง จะเห็นโรงไฟฟ้าเชียร์โนบีลอยู่ไกล ๆ
5. อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นหนึ่งในสองครั้งที่ได้รับการจัดความรุนแรงไว้ที่ระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตามมาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์ ซึ่งเกิดอีกครั้งหนึ่งในภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิในปี 2011
6. คนงานทั้งทหารและพลเรือนกว่า 500,000 คนและค่าใช้จ่ายประมาณ 18 พันล้านรูเบิ้ล หรือกว่า 4,751,803,920 บาท ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีผู้เสียชีวิตทันที่ 31 ราย
7. ผลกระทบระยะยาวเช่นมะเร็งอยู่ระหว่างการสืบสวน มีการประมาณการว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากการระเบิดโดยตรงมากกว่า 600,000 คน แต่ผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งจากการสัมผัสกัมมันตรังสีอาจสูงถึง 4,000 คน
8. วัสดุกัมมันตรังสีถูกปล่อยออกจากเชียร์โนบีลมากกว่าระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาถึงสี่ร้อยเท่า
ระดับการแผ่รังสีในปี 2539 รอบเชอร์โนบิล
9. ภัยพิบัตินี้ได้ปล่อยออกมา 1/100 ถึง 1/1000 ของปริมาณกัมมันตภาพรังสีทั้งหมดที่ปล่อยออกมาโดยการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในช่วงปี 1950s และ 1960s ประมาณ 100,000 ตารางกิโลเมตรของที่ดินมีการปนเปื้อนอย่างมีนัยสำคัญด้วยฝุ่นละออง ที่มีผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดกับภูมิภาคที่อยู่ในเบลารุส ยูเครนและรัสเซีย
10. การทำฝนเทียมถูกจงใจให้ทำขึ้นทั่วพื้นที่ 10,000 ตารางกิโลเมตรของเบลารุส SSR โดยกองทัพอากาศโซเวียตเพื่อกำจัดอนุภาคกัมมันตรังสีจากกลุ่มเมฆที่กำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่มีประชากรสูง ฝนหนักสีดำตกลงในเมือง Gomel
11. การกลายพันธุ์ทั้งในมนุษย์ และในสัตว์อื่น ๆ เพิ่มขึ้นตามหลังภัยพิบัติ ยกตัวอย่างเช่นในหลายฟาร์มในเมือง Narodychi Raion ของยูเครน ในสี่ปีแรกของภัยพิบัติ สัตว์เกือบ 350 ตัวเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติขั้นต้นเช่นแขนขาหายไปหรือเกินมา ตา หัวหรือซี่โครงขาดหายไปหรือกะโหลกผิดรูป
ลูกสุกรที่มีเกิดมาพิการมีแขนขางอกเกินแบบ dipygus ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์เชียร์โนบีลแห่งชาติยูเครน
12. หลังเกิดเหตุ มีผู้ป่วยจากโรครังสีเฉียบพลัน จำนวน 237 คน ในจำนวนนี้ 31 คนเสียชีวิตในช่วงสามเดือนแรก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงที่พยายามควบคุมเหตุการณ์โดยไม่ทราบถึงอันตรายของการรับรังสีและควัน
ภาพผลกระทบต่อคนและสัตว์