การท่องเที่ยว: เมื่อโลกเริ่มเห็นแสงสว่าง แต่หนทางยังอีกไกล
เมื่อประชากรส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แถมโควิดสายพันธุ์โอไมครอนก็ดูจะรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ประชาชนก็เริ่มออกเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง โดยเหล่าประเทศที่มีมาตรการคัดกรองน้อย ดูจะเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวสนใจมากกว่า
อย่างในปี 2021 จำนวนผู้โดยสารของสายการบินต่างๆ ในสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นถึง 80% ตามรายงานของกระทรวงคมนาคม หลังจากที่มีการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาเที่ยวในประเทศได้ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันกับที่คนทั่วโลกได้เริ่มฉีดวัคซีนกันมากขึ้น
นอกจากสหรัฐฯ แล้ว ไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เริ่มเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ประเทศได้เปิดตัวนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) หรือแผนการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว
ซึ่งตามรายงานของภาครัฐ แผนการนี้ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตกว่า 330,000 คน โดยคนเหล่านี้สร้างรายได้ให้กับประเทศมากกว่า 40,000 ล้านบาท นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มแผนการจวบจนถึงปัจจุบัน
ทั้งหมดทั้งมวล จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,600% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยอยู่ที่ 133,903 คน ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวในมกราคมปีที่แล้วอยู่ที่ 7,900 คน
แต่ในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวก็ยังคงไม่ค่อยกลับมาในขณะที่ยังมีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวด
ตามรายงานของบริษัทฐานข้อมูลอุตสาหกรรมการบิน Cirium จำนวนเที่ยวบินที่ไปยังสิงคโปร์หรือฮ่องกงลดลงเหลือน้อยกว่า 5,000 เที่ยวบิน ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทั้งสองที่นี้ยังคงมีมาตรการให้นักท่องเที่ยวต้องกักตัวในโรงแรมและทำ Swab Test ก่อนเข้าประเทศ
จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศของประเทศจีนเอง ก็ลดลงแค่เหลือเพียง 2% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดในช่วงก่อนโควิด นี่ก็น่าจะมาจากมาตรการห้ามคนเข้าประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดทั้งหมดให้ได้ตามเป้าหมายของนโยบาย “Zero Covid” แถมภาคการท่องเที่ยวของจีนก็ดูจะซบเซาลงไปอีกหลังจากที่ประเทศได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มเติม เพื่อควบคุมการระบาดของโอไมครอน เมื่อไม่นานมานี้
สถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกในตอนนี้ ทำให้นักวิชาการมากมายมองว่าการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในแต่ละประเทศจะไม่เท่ากัน โดยประเทศที่เริ่มคลายมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อน จะเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวกลับมาเยอะกว่าพวกประเทศที่ยังคงมีมาตรการเข้มงวด และการฟื้นตัวที่ไม่เท่ากันนี้ ก็น่าจะยิ่งเด่นชัดขึ้นไปอีก เพราะหลายประเทศที่มีการคลายมาตรการไปแล้วบางส่วน เริ่มหันมาลดมาตรการเพิ่มเติมกันมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น อังกฤษกับเดนมาร์ก ที่แทบจะยกเลิกมาตรการคัดกรองทั้งหมดแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ หรือออสเตรเลียที่ประกาศเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเดียวกัน
ประเทศไทยเอง ก็ประกาศว่าจะคลายมาตรการคัดกรองเพิ่มเติมในเดือนมีนาคม โดยจะให้นักท่องเที่ยวยื่นผล ATK แทนผล RT-PCR ก่อนเข้าประเทศ และจะลดวงเงินประกันโควิดขั้นต่ำลงจาก 50,000 เหรียญสหรัฐฯ เหลือ 20,000 เหรียญ
หากมองข้ามการฟื้นตัวที่ไม่เท่ากันในแต่ละประเทศไป สิ่งที่เราสังเกตได้ คือ นักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มอยากกลับมาเที่ยวต่างประเทศกันแล้วแม้ว่าจะยังมีการระบาดอยู่ก็ตาม อย่างผลสำรวจล่าสุดของบริษัทที่ปรึกษา McKinsey ก็พบว่าความต้องการเดินทางไปต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีนได้กลับมาเท่ากับระดับในช่วงก่อนโควิดแล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดที่ไม่แน่นอนและความเสี่ยงจากการกลายพันธุ์ของโควิด ก็ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ของภาคการท่องเที่ยว ทั่วโลก เพราะปัจจัยเหล่านี้ทำให้หลายประเทศยังไม่ยอมเปิดให้คนในประเทศออกเดินทาง และสร้างความกลัวให้กับนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม
เหมือนที่ผลสำรวจของ McKinsey พบว่ายังมีคนจีนมากมายที่เลือกจะไปเที่ยวในที่ที่แทบไม่มีผู้ติดเชื้อเลยเท่านั้น ซึ่งนี่คงจะเป็นไปได้ยากโดยเฉพาะในตอนนี้ ที่หลายประเทศเริ่มหันมาปรับตัวอยู่กับโควิดแทนที่จะกำจัดโรคแล้ว
เมื่อความต้องการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว แต่หลายประเทศยังคงมีมาตรการคัดกรองที่เข้มงวด ทางองค์กร World Tourism Organization เลยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 78% ในปีนี้ แต่ตัวเลขรวมจะยังน้อยกว่าระดับก่อนโควิดไปถึงปี 2024 เป็นอย่างต่ำ
ดังนั้น สิ่งที่แต่ละประเทศจะทำได้ เพื่อตักตวงประโยชน์จากความต้องการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาในขณะนี้ที่โควิดยังคงระบาด คือ การเร่งฉีดวัคซีนประชาชนให้ได้เยอะที่สุด เพื่อจะได้สามารถคลายมาตรการคัดกรองคนเข้าประเทศ และเปิดให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวได้มากขึ้นโดยไม่เป็นอันตรายต่อคนในประเทศ
จริงอยู่ ที่การหาจุดสมดุลระหว่างการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวและการควบคุมการระบาดจากนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็น่าจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่จะลอง เพราะกว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาปกติ ก็คงใช้เวลาอีกสักระยะ
ผู้เขียน : บูชิตา ปิตะกาศ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics