“ไข่ดาว” แบบไทย ที่ยากจะหาที่ไหนได้ในโลก
ไข่ดาวของไทย อาจไม่เหมือนชาติใดในโลก
ไข่เป็นอาหารพื้นๆ ที่ทั่วโลกกินกันหมด และวิธีการนำไข่มาทำเป็นอาหารที่เรียกได้ว่า “ยอดนิยม” ในระดับโลกก็คือการเอาไข่มา “ทอด” ที่นิยมเรียกกันว่า “ไข่ดาว”
ไข่ดาวของมนุษยชาติ
หากจะพูดถึงไข่ดาวว่าต้องกินคู่กับอะไร หรือมีทั้งหมดกี่แบบ ก็คงจะเป็นเรื่องยาว เพราะนี่คืออาหารที่กินกันทั้งโลก และคนในแต่ละวัฒนธรรมก็มีวิธีคิดต่างๆ กันว่าไข่ดาวควรจะกินในมื้อไหน หรือควรจะกินกับอะไร
เช่นในโลกตะวันตก ไข่ดาวควรจะกินเป็นอาหารเช้าเท่านั้นและกินกับขนมปัง ส่วนในโลกตะวันออก ไข่ดาวนั้นจะกินมื้อไหนก็ได้ และกินคู่กับข้าว เป็นต้น
ไข่ดาวกรอบแบบไทย
ทีนี้ก่อนจะพูดแบบยืดยาวไปถึงวัฒนธรรมไข่ดาวโลก ตรงนี้เราอยากจะมาพูดถึง “ลักษณะเฉพาะ” ของไข่ดาวในไทย ที่เรียกว่า “แทบไม่เหมือนชาติใดในโลก” ก็ได้
เราอยู่เมืองไทยเราอาจไม่เคยสังเกต แต่จริงๆ แม้ว่าทุกชาติในโลกจะมีวัฒนธรรมเอาไข่ไปทอดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ไม่มีชาติไหนหน้าตา “ไข่ดาว” เหมือนไทยเลย
ซึ่งถามว่าหน้าตาแบบไข่ดาวไทยเป็นยังไง ก็ต้องว่าด้วยไข่ดาวแบบอุดมคติที่กินกันทั่วไปตั้งแต่ตามบ้านถึงร้านตามสั่ง ที่ขอบไข่ดาวมันต้องกรอบ ด้านล่างต้องกรอบหมด ไม่เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นไข่ดาวที่ไม่ดี
นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราอาจไม่รู้สึกอะไร แต่ไปที่ไหนในโลก เขาก็จะไม่ทำไข่ดาวแบบนี้ และนั่นไม่ใช่เพราะมันไม่อร่อยด้วย ถ้าเราเคยไปต่างประเทศหรือเคยทำอาหารให้เพื่อนต่างชาติกิน แทบจะรับรองได้ว่าเขาจะ “อึ้ง” กับไข่ดาวแบบไทย เพราะมัน “อร่อย” และเขาไม่คิดว่า ไข่มันทำแบบนี้ได้
ตรงนี้ไม่แปลก เพราะที่ไหนๆ ในโลกคนก็ชอบกิน “ของทอด” ไข่ดาวแบบไทย เรียกตรงๆ มันคือ “ไข่ทอด” เลย คือเป็นการเอาไข่ดิบไปทอดในน้ำมัน เลยออกมาหน้าตาแบบนั้น กรอบแบบนั้น ไม่เหมือนใคร
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ว่าไข่แบบนี้ชาติอื่นเขาไม่ทำกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาทำไม่ได้ อุปกรณ์เขามีหมดถ้าจะทำ ประเด็นคือเขาไม่ทำไข่ดาวออกมาหน้าตาแบบนี้
คำถามคือทำไม?
รูปแบบกระทะกับไข่ดาว
ต้องเข้าใจก่อนว่า ในโลกนี้กระทะมีรูปแบบใหญ่ๆ 2 แบบ คือ กระทะแบน (pan) และกระทะก้นลึก (wok) ซึ่งโลกตะวันตกทั้งหมดอยู่ในวัฒนธรรมกระทะแบน เขาจึงทอดไข่ออกมาหน้าตาไม่เหมือนเราแน่ๆ ซึ่งก็ไม่ใช่แค่กระทะ แต่ไขมันที่ใช้ทอดไข่ เขาใช้เนย และไฟที่เขาใช้ก็เป็นไฟแบบปานกลาง ดังนั้นมันไม่มีทางหน้าตาเหมือน “ไข่ดาวไทย” ที่เกิดจากการใช้กระทะก้นลึกตั้งน้ำมันพืชไฟแรงและโยนไข่ลงไปจนมันฟูกรอบแบบนั้น
ทีนี้ปัญหาที่ตามมาก็คือ ใครก็คงรู้ว่าการใช้กระทะแบบก้นลึกและใช้ไฟแรงในการทำอาหาร มันคือวัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของจีนเน้นๆ ดังนั้นชาติที่ได้รับอิทธิพลด้านอาหารจากจีนก็จะมีเทคนิคการทำอาหารแบบนี้
ปัญหาคือ ถ้าไปดูหน้าตาของไข่ดาวในจีน เราก็จะไม่พบหน้าไข่ดาวแบบไทยทั่วไป ไข่ดาวไม่ใช่ของที่เขากินทั่วไป เพราะถึงแม้ว่าจริงๆ ถ้าคนจีนทอดไข่ดาว ก็คงจะหน้าตาเหมือนไทยนี่แหละ แต่เวลาคนจีนจะเอาไข่ไปทอด เขาดูจะนิยมเอาไปผัดกับข้าว ผัดกับผักมากกว่า ไม่เอามาทำ “ไข่ดาว” โดดๆ แบบไทย
ทีนี้ “ไข่ดาว” ในไทยมาจากไหน?
อันนี้ต้องถามก่อนว่ากระทะแบบจีนเข้ามาในไทยเมื่อไร? เพราะนั่นคือเงื่อนไขพื้นฐานที่จะทำให้คนไทยทอดไข่ดาวได้
โดยทั่วไป หลักฐานทางโบราณคดีชี้ว่าคนไทยรับกระทะมาจากจีนตั้งแต่ราวๆ 500 ปีที่แล้วเป็นอย่างต่ำ โดยในสมัยอยุธยาก็มีการใช้กันแล้ว
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสมัยก่อนคนไทยจะกิน “ไข่ดาว” กัน และเอาจริงๆ “ไข่ดาว” ก็ไม่ใช่อาหารในสารบบอาหารไทยดั้งเดิม หรืออย่างน้อยๆ มันก็ไม่มีบันทึกอะไรแบบนั้น และนั่นก็ไม่แปลกอะไร เพราะอาหารคนไทยแบบ “ชาวบ้าน” กินกันทั่วๆ ไปสมัยก่อน เอาจริงๆ ไม่มีการใช้น้ำมันเท่าไรด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการตั้งกระทะทอดไข่เลย
แล้วไข่ดาว มันมายังไง?
วัฒนธรรมข้าวแกงและอาหารตามสั่งกับไข่ดาว
จากการสันนิษฐานเบื้องต้น ไข่ดาวแบบที่เราเห็นๆ กันทุกวันนี้ จริงๆ น่าจะเพิ่งกินกันแพร่หลายในช่วงที่เศรษฐกิจไทย “พัฒนา” หนักๆ ไทยเปลี่ยนเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้คนเข้าเมืองไปทำงาน และทำให้เกิดร้านอาหารจำพวก “ข้าวแกง” และ “อาหารตามสั่ง” ซึ่งภาวะพวกนี้เกิดเมื่อราวๆ 60 กว่าปีมานี้เอง หรือประมาณช่วงทศวรรษ 1960’s เป็นต้นมา
และ “ไข่ดาว” แบบที่เรารู้จักกัน มันก็น่าจะเกิดจากการขยายตัวของร้านอาหารพวกนี้ที่เพิ่งเกิดในสังคมไทยครั้งแรกช่วงนั้นนี่แหละ
ซึ่งร้านพวกนี้ เวลาจะทำไข่ดาวขาย จะทำทีละมากๆ ก็คือจะตั้งน้ำมันเยอะๆ แล้วโยนไข่ลงไปเยอะๆ เป็นการทอดไข่แบบน้ำมันท่วม (deep-fry) เลยทำให้ไข่ดาวออกมาหน้าตาแบบนั้น และนี่ก็คือไข่ดาวมาตรฐานที่เราจะคาดหวังได้จากร้านข้าวแกงหรือร้านอาหารตามสั่งจนทุกวันนี้
และพอเริ่มมีการทำไข่ดาวแบบนี้ ก็แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่ากรอบอร่อยและมีความคาดหวังว่าไข่ดาวที่ดีมันต้องกรอบ จะมาทอดแบบด้านๆ เหนียวๆ นี่คือไข่ดาวที่ไม่ดี และ “ภาพไข่ดาวในอุดมคติ” ที่ว่านี้ก็เลยกลายมาเป็น “มาตรฐานไข่ดาว” ของสังคมไทยที่ต้อง “กรอบถึงจะดี” ซึ่งต่างจากที่อื่นๆ ในโลกที่ไข่ดาวนิ่มๆ คือ “มาตรฐาน”
นี่แหละครับที่มาของ “ไข่ดาว” แบบไทย ที่ยากจะหาที่ไหนได้ในโลก
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/tp-w7ih
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
กัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
กลุ่มซานต้าคลอสบุกขโมยของ ในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่แคนาดา
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
หนุ่มนักดนตรีพบจดหมายตอบรับ “ฮาร์วาร์ด” หลังผ่านไป 6 ปี จากความเสียใจสู่บทเรียนชีวิตที่โลกออนไลน์ยกย่อง
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
พลังแห่งรักข้ามเวลา ภาพจำลองวัยเด็กสู่น้ำตาแห่งความสุขในวันวิวาห์
เขมรยอมแล้ว ระดมเครื่องจักรรื้อเขื่อนล้ำทะเลไทย หลังนาวิกฯ ยื่นคำขาดตัดเสบียงเกาะกง
กองทัพเรือพบเบาะแส ทหารกัมพูชาแฝงตัวในชุดพลเรือน หวังบิดเบือนสถานการณ์กล่าวหาไทยทำร้ายประชาชน
หนุ่มนักดนตรีพบจดหมายตอบรับ “ฮาร์วาร์ด” หลังผ่านไป 6 ปี จากความเสียใจสู่บทเรียนชีวิตที่โลกออนไลน์ยกย่อง
เผยสาเหตุที่ทำให้ "จิมิ" หลวม..ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียว
กระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะทำงาน เรื่องเล็กๆ ที่ช่วยให้ใจเราเบาลงโดยไม่รู้ตัว
การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ – เกสปุตตสูตร (กาลามสูตร) กับ Critical Reasoning (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
"วัดโพธิ์เก้าต้น" วัดดัง เก่าแก่ แห่งค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี