บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผลไม้
By Natdanai Siammai
ผลไม้เป็นอาหารที่รับประทานกันได้ทุกเพศทุกวัย มีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในตลาดสดหรือในห้างสรรพสินค้าต่างก็มีผลไม้มากมายหลายชนิดวางจำหน่ายตามแต่ละฤดูกาล ยิ่งตามในห้างสรรพสินค้าก็เป็นธรรมดาที่พนักงานขายผลไม้ต้องพบเจอกับลูกค้ามากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
สำหรับบทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผลไม้ กล่าวถึงการสนทนาภาษาอังกฤษระหว่างพนักงานขายผลไม้หรือแม้ค้า พ่อค้าขายผลไม้กับลูกค้าที่ต้องการมาซื้อส้มกับเงาะบทสนทนาของพวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้างดูรายละเอียดการสนทนาเรื่องนี้ได้ดังต่อไปนี้ครับ
บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผลไม้
พ่อค้าขายผลไม้ Good morning madam. Would you like to buy some fruits? You can try them madam.
กุด มอร์นิงก์ แมดเดิม วุด ยู ไลค์ ทู ไบย์ ซัม ฟรุทส์? ยู แคน ไทรย์ เด็ม แมดเดิม
(สวัสดีครับคุณผู้หญิง ต้องการซื้อผลไม้บ้างไหมครับ ชิมดูได้นะครับคุณผู้หญิง)
ลูกค้า Yes, I would like to have some oranges.
เยส ไอ วุด ไลคฺ ทู แฮฟวฺ ซัม ออรินจิส
(ค่ะ ฉันอยากได้ส้มสักหน่อยค่ะ)
พ่อค้าขายผลไม้ How many oranges would you like madam?
ฮาว แมนนิ ออรินจิส วุด ยู ไลคฺ แมดเดิม?
(ต้องการส้มเท่าไหร่ครับคุณผู้หญิง?)
ลูกค้า I would like to have two kilos. How much does it cost?
ไอ วุด ไลคฺ ทู แฮฟว ทู กิโลสฺ ฮาว มัช ดัดซฺ อิท คอสทฺ?
(ฉันต้องการ 2 กิโลค่ะ ราคาเท่าไหร่คะ?)
พ่อค้าขายผลไม้ Oranges cost forty baht a kilo, so two kilos cost eighty baht. Is there anything else madam?
ออรินจิส คอสท์ ฟอร์ทิ บาท อะ กิโล โซ ทู กิโลส์ คอสท์ เอทติ บาท อิซ แดรฺ เอนนิธิง เอลสฺ แมดเดิม?
(ส้มกิโลละสี่สิบบาท สองกิโลก็แปดสิบบาท ต้องการอย่างอื่นอีกไหมครับคุณผู้หญิง?)
ลูกค้า I also want to buy some rambutans.
ไอ ออลโซ วอนทฺ ทู ไบย์ ซัม แรมบิวเทินส์
(ฉันอยากซื้อเงาะสักหน่อยด้วยค่ะ)
พ่อค้าขายผลไม้ How many rambutans would you like?
ฮาว แมนนิ แรมบิวเทินส์ วุด ยู ไลค์?
(คุณต้องการเงาะเท่าไหร่ครับ?)
ลูกค้า Two kilos please. How much is it?
ทู กิโลส์ พลีส ฮาว มัช อิซ อิท?
(สองกิโลค่ะ เท่าไหร่คะ?)
พ่อค้าขายผลไม้ Sixty baht,madam. Is there anything else?
ซิกธิ บาท แมดเดิม อิซ แดร์ เอนนิธิง เอลส์?
(60 บาทครับคุณผู้หญิง ต้องการอย่างอื่นอีกไหมครับ?)
ลูกค้า No, those are all. Here is the money.
โน โดซ อาร์ ออล เฮียร์ อิซ เดอะ มันนี
(ไม่แล้วค่ะ พอแล้ว นี่เงินค่ะ)
พ่อค้าขายผลไม้ Here is your change. Thank you so much, madam.
เฮียร์ อิซ ยัวร์ เชนจ์ แธงค์ กิว โซ มัช แมดเดิม
(นี่เงินทอนครับ ขอบคุณมากนะครับคุณผู้หญิง)
ลูกค้า Thank you.
แธงค์ กิว
(ขอบคุณค่ะ)
เทคนิคการใช้คำพูดและการบริการลูกค้า
1 สำหรับคำทักทายก็สามารถใช้คำทักทายง่ายๆ ตามแต่ละเวลา (Good morning. Good afternoon. Good evening) หรือใช้คำพูดว่า Hello ก็ได้ เพราะเป็นการขายสินค้าทั่วไปไม่ใช่การติดต่อธุรกิจในสำนักงานหรือเป็นทางการ
2 การขายอาหารหรือของกิน อย่าง ผลไม้ ถ้าผู้ขายให้ผู้ซื้อได้ลองชิมสินค้าได้บ้างตามความเหมาะสมก็จะดีมาก เพราะแสดงถึงความไม่หวงของและจริงใจ ใจถึงในการบริการซึ่งวิธีนี้สามารถซื้อใจลูกค้าได้ดีทีเดียว ความจริงผู้ซื้อไม่ได้ต้องการจะชิมจริงๆ หรอก แต่ถ้าผู้ขายบอกว่า You can try them. You can taste them. ผู้ซื้อก็จะรู้สึกดีต่อผู้ขายมาก และซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เผลอๆ อาจซื้อเยอะจนคาดไม่ถึงเลยล่ะ
3 การสร้างความประทับใจและกระตุ้นการซื้อขายอีกอย่างก็คือ การให้ลูกค้าสามารถที่จะเลือกหรือหยิบจับสินค้าได้โดยไม่หวงสินค้า กรณีการซื้อผักผลไม้ลูกค้ามักอยากเลือกใส่ถุงเอง พ่อค้าก็ควรให้ลูกค้าเลือกได้ด้วยตัวเอง เพราะใครๆ ก็อยากได้ของดีตามที่ตัวเองพอใจ หากไม่เลือกหยิบเองก็จะไม่รู้ ถ้าผู้ขายตั้งราคาสินค้าตามความเหมาะสมและให้ลูกค้าเลือกสินค้าเองได้ก็จะเพิ่มยอดขายได้ดีทีเดียว ผู้ขายสามารถพูดว่า You can select/pick them by yourself.
ศัพท์สำคัญที่ใช้ในบทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายผลไม้
How many = ฮาว แมนนิ (เท่าไหร่) ใช้ถามจำนวน คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ และอื่นๆ ที่สามารถนับได้
How much = ฮาว มัช (เท่าไหร่) ใช้ถามจำนวนสิ่งที่นับไม่ได้ ไม่สามารถนับเป็นชิ้นเป็นอันได้ เช่น ราคา น้ำหรือของเหลวทั่วไปที่ไม่บรรจุในภาชนะ เป็นต้น
change = เชนจ์ ในเรื่องนี้หรือบริบทนี้มีความหมายว่า เงินทอน
cost = คอสท์ ในเรื่องนี้หรือบริบทนี้มีความหมายว่า มีราคา มีมูลค่า
ที่มา https://speakingenglishone.blogspot.com/2015/08/blog-post.html