แฟนคลับเศร้า! เชียร์ ฑิฆัมพร “เตรียมโบกมือลาวงการบันเทิง”
“เชียร์ ฑิฆัมพร” เปิดใจใช้เส้นดันน้องชายรับไม้ต่อจากพี่สาวที่เตรียมโบกมือลาวงการจริงไหม?!
นางเอกสาวเชียร์ ฑิฆัมพร ที่วันนี้ควงน้องชายสุดหล่อ ชู๊ต เชิดชนินทร์ เปิดโมเมนต์พี่สาวจอมห้าวสุดน่ารัก พร้อมเคลียร์ข่าวที่ชาวเน็ตเม้าท์สาวเชียร์ผันตัวเป็นเจ๊ดัน ใช้เส้นดันน้องชายเข้าวงการ อีกทั้งเปิดปมครอบครัว โดนกระแสดราม่าหลังเปิดตัวคบไฮโซบิ๊ก แถมมีข่าวแว่วๆ มาว่าสาวเชียร์จะโบกมือลาวงการบันเทิงอีกด้วย
มีอยู่ช่วงนึงครอบครัวนี้เกิดกระแสดราม่า โดนทัวร์ลงอย่างหนัก ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เชียร์ : ก็เป็นเรื่องประเด็นนี้แหละ ประเด็นที่เราเปิดตัวคุณบิ๊ก แต่เราอยู่วงการมาไม่เคยมาโดนอะไรอย่างนี้ แต่ว่าพอมีประเด็นนี้ กึ่งนึงเราก็เข้าใจประเด็นที่มันเกิดว่ามันเกิดเพราะอะไร แต่ถามว่าโกรธอะไรไหม ไม่ถึงขนาดแบบโกรธ ไม่ได้อะไร แต่เรารู้สึกกระทบใจดีกว่า เราโดนว่าไม่เป็นไรหรอก แต่พอโดนไปถึงครอบครัว ว่าไปถึงน้องเรา พี่เรา แล้วมันเป็นเรื่องที่แบบเราเปิดตัวคบคนคนนึง เราเลยรู้สึกว่าทำไมต้องไปหาคนอื่นด้วย เราแค่รู้สึกไม่ดีที่คนในบ้านต้องมาโดนเรื่องนี้
เชียร์ไม่โกรธ แต่ชู๊ตโกรธโดนคน DM มาด่า?
ชู๊ต : โกรธครับ คือเขาไม่ได้ด่าเรา แต่เขาด่าพี่เรา แล้วเขาด่าถึงปาป๊า มาม๊าเรา ทุกอย่างมันมีเหตุผล เราเข้าใจว่าต่างคนต่างความคิด แต่เราแค่รู้สึกว่า คุณก็ไปในพื้นที่ของคุณสิ ถ้าคุณอยากจะระบายอะไร คุณมีพื้นที่โซเชียลของคุณอยู่แล้ว คุณจะมาลุกล้ำพื้นที่โซเชียลของเราทำไม ถึงขั้นพิมพ์มาหาชู๊ต พิมพ์มาหาเฮียแชมป์ เรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องเท่าไหร่
เขาด่าเรื่องอะไร?
เชียร์ : ความเข้าใจบางอย่าง คือเขาเข้าใจว่าเราคบกับอีกคนนึง ซึ่งตลอดเวลาที่เราปฎิเสธคุณบิ๊กมาตลอด แต่ถามว่าการปฎิเสธมันคือเรื่องจริง เพราะไม่งั้นเขาไม่รอถึง 2 ปีหรอก แต่พอวันนึงเราเปิดตัวคบคนนี้ขึ้นมา มันเหมือนกับว่าเราโกหกนิ ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้โกหกอะไร แต่เราก็ไม่อยากให้การมาด่ากันถึงขนาดต้องไปฟ้องกัน จริงๆ ทำได้ไหม ทำได้ แต่เรารู้สึกว่าทุกอย่างให้มันจบดีกว่า
เชียร์สอนน้องตลอดว่าอย่าด่ากลับ?
เชียร์ : ใช่ นิ่ง ให้มันจบไป เพราะเรารู้สึกว่าเรื่องนี้จริงๆ แล้วพื้นฐานมันไม่ได้มีอะไรเลย เพราะฉะนั้นอย่าไปทำให้มันมีอะไรดีกว่า
เชียร์อโหสิกรรมไหม?
เชียร์ : เชียร์ไม่แน่ใจว่าคำนี้ถูกไหม เพราะเชียร์ไม่ได้ผูกใจเจ็บกลับ หรือเราไม่ได้รู้สึกอะไรกลับ คือเราให้อภัยดีกว่า ปล่อยวาง
ตอนนั้นบิ๊กว่ายังไง?
เชียร์ : เขารู้ มันเป็นส่วนนึงที่ทำให้เรามาคุยกันว่า อย่าให้มันมีอะไรไม่ดีในคู่ของเราดีกว่า เพราะว่าเราผ่านอะไรกันมา เชียร์เองก็ผ่านจุดที่เราไม่เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน ให้รักษาตรงนี้ไว้ดีกว่า แล้วไปข้างหน้า
พี่น้องสองคนนี้สนิทกันมาก สมัยก่อนใส่กางเกงในตัวเดียวไปแกล้งน้อง?
ชู๊ต : ตัดคำว่าสมัยก่อนออกครับ ทุกวันนี้ คือห้องชู๊ตกับห้องพี่เชียร์ติดกัน ห้องแต่งตัวเขามันทะลุกันได้ เราก็จะเดินผ่านของเราปกติ ซึ่งบางทีเขาก็มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรของเขา ซึ่งปกติผู้หญิงเวลาเห็นผู้ชายเดินเข้าไปในห้อง เขาต้องเขิน เขาต้องด่า แต่นี่ไม่ใส่กางเกงในวิ่งไล่เลย กลายเป็นว่าเราต้องเขินแทน
รักน้องคนนี้ขนาดไหน?
เชียร์ : ก็น้องเราต้องรักแหละ จริงๆ ก็มีโมเมนต์แบบบางทีคือเชียร์จะขี้งกมากกับการซื้อของ แต่บางทีเราจะซื้อรองเท้าคู่นี้แพงหน่อย แต่น้องเราใส่ได้ เชียร์จะซื้อไซน์ใหญ่หน่อย เผื่อเขาด้วย
ซู๊ต : รักนะ
จริงไหมที่เขาบอกว่าอีกไม่นานจำอำลาวงการ?
เชียร์ : เอาจริงๆ เป็นแพลนที่คิดไว้เหมือนกันนะพี่ ไม่ใช่ว่าจะอำลาไปเลยนะคะ แต่ว่าเราเติบโตมากับการเป็นนักแสดง แต่หลังๆ เราเริ่มทำธุรกิจ มาทำเบื้องหลัง มาทำอะไรที่เป็นอีกแบบนึงเวลามันค่อนข้างจัดการลำบากมาก ถ้ากับการเป็นนักแสดงนะคะ ซึ่งถ้ากรณีเล่นละครยาวๆ คิดว่าน่าจะเร็วๆ นี้เลยด้วยซ้ำ
เชียร์ ฑิฆัมพร"เปิดใจตอบเรื่องดราม่า พร้อมแจงเรื่องอำลา
แต่จะไม่คิดถึงเสน่ห์ของการเล่นละครแล้วเหรอ?
คิดถึงมาก รักมาก แต่ว่าด้วยเวลา ณ ตอนนี้สิ่งที่เราคิดไว้มันอาจจะทำไม่ได้ แต่ถ้าวันนึงเราจะกลับมาเล่นอะไรอย่างนี้ คือทิ้งขาดน่าจะยาก แต่ตอนนี้เรารู้สึกว่าไม่เหมาะจริงๆ กับเวลาที่จะเอามาเล่นละคร
เคยคุยเรื่องนี้กันไหมว่าเขาจะเลิกทำงาน?
ชู๊ต : เคยพูดบ้าง แต่ว่าเห็นพูดมาหลายปีแล้วเหมือนกันครับ
เชียร์ : คือพูดมาหลายปีบอกจะเลิกๆ ก็ยังไม่เลิกนั่นเอง
ชู๊ต : ใช่ แต่เป็นการค่อยๆ ลดดีกว่า
ตอนนี้ชู๊ตเริ่มถ่ายละครแล้ว?
เชียร์ : ใช่
ชู๊ต : ก็เพิ่งเริ่มเข้าวงการ
รับไม้ต่อแทนพี่สาว?
ชู๊ต : ใช่
เชียร์ : เขามีความตั้งใจมากพี่ จริงๆ เขามีเสน่ห์อะไรบางอย่าง เชียร์ว่าเวลากับประสบการณ์จะค่อยๆ กล่อมเกลาเขาเอง เพราะว่ากระสือลำซิ่งละครที่เชียร์ทำ เขาเล่นมันก็มีจุดดีที่เราเห็นนะ เขาก็มีเสน่ห์อะไรบางอย่างในตัวเขาเหมือนกัน
เชียร์ ฑิฆัมพร" เปิดใจใช้เส้นดันน้องชายรับไม้ต่อจากพี่สาวที่เตรียมโบกมือลาวงการจริงไหม?! สยามรัฐ
ที่เขาเขียนว่าเชียร์ใช้เส้นดันน้องเข้าวงการ เห็นแบบนี้แล้วเจ็บไหม?
ชู๊ต : ไม่เจ็บครับ ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เขาแทบจะไม่ดันเราเลย ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นเราอยากเข้า เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เชียร์ : ใช้คำนี้ดีกว่า ไปออดิชั่นเล่นซีรีส์ เชียร์ยังไม่รู้เลย
คนที่ซีรีส์รู้ไหมว่าเราคือใคร?
ชู๊ต : เขารู้เพราะว่าเขาอ่านนามสกุลแล้วเขาก็ถามมากกว่า
เชียร์ : คือเราไม่ได้ฝาก จัดการให้ไม่มีเลย งงเลย งงว่าไปตอนไหน คือเลียร์ว่าเขาจะเข้าใจเองว่าเรื่องของการเป็นข่าวคืออะไร แต่ว่าความรู้สึกที่มันจะเกิดขึ้นถ้าเราทำหรือไม่ทำ ทุกอย่างมันจะตอบด้วยตัวมันเอง เชียร์ว่าชู๊ตเขาก็เรียนรู้ตรงนี้ได้ดี
ชู๊ต : ใช่ เพราะว่ามีตัวอย่างที่ดีอยู่ตรงนี้
น้องชายของเธอมีคนครอบครองหัวใจหรือยัง?
เชียร์ : อยากรู้เหมือนกัน เขาไม่เคยมาปรึกษาอะไรเลย
ชู๊ตมีคนครองหัวใจหรือยัง?
ชู๊ต : ไม่มีครับ คือเรารู้สึกว่าเรายังดูแลตัวเองไม่ได้ขนาดนั้น เรารู้สึกว่าเราไม่พร้อมที่จะดูแลใคร จะคล้ายๆ กับพี่เชียร์ที่ส่าเราไม่ใช่คนที่ต้องมีตลอดเวลา คือถ้ามีแล้วมันไม่ดีเราเลือกที่จะไม่มีดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลภาพ