ในห้วงคำนึง

ในห้วงคำนึง
โดย : อักษราลัย
(ห้วงคำนึงของภัทรา)
ภัทรานั่งมองลูกกรงที่กั้นขวางอิสรภาพของตนด้วยดวงตาเหม่อลอย ใกล้ค่ำแล้ว คงไม่มีใครมา โทรศัพท์ที่ร้องขอให้พี่นำเงินหมื่นมาประกันตัวให้ คงไม่ได้ผล กี่ครั้งกี่คราวที่ทำแต่เรื่องจนญาติพี่น้องเข็ดขยาด จะไม่มีใครมาก็ไม่น่าแปลกใจ ก้มหัวคุดคู้ลงนั่งกอดเข่าอย่างซึมเซา ปล่อยอารมณ์ไปกับห้วงความคิด
หลายปีที่ผ่านมาหลังจากคลอดลูกไว้ให้แม่และพี่ ๆ ช่วยเลี้ยงดู เธอก็ระหกระเหินออกจากบ้านไปอย่างไม่ใยดี ด้วยฤทธิ์ของยาที่ไม่อาจหักห้ามใจได้ ยังจำครั้งแรกที่ติดคุกได้ ตอนนั้นเธอยังไม่มีลูก ได้แต่ตะลอน ๆ ไปกับเพื่อน ๆ เล่นยาไปวัน ๆ ไม่สนใจญาติพี่น้องและแม่ ไม่ใยดีในความห่วงหาของใครต่อใคร มั่นใจในหลักคิดว่า ‘ชีวิตเป็นของตัวเองคนเดียว’ จวบจนโดยจับมียาเสพติดในครอบครองห้าเม็ด แม้จะให้ใครต่อใครช่วยวิ่งเต้นก็ไม่เป็นผล ครั้งนั้นโดนจับนานหนึ่งเดือน
แม่ผู้ขาแข้งไม่ดี โขยกเขยกมาเยี่ยมโดยมีพี่ชายพามา น้ำตาแม่คลอตลอดการพูดคุยผ่านสายโทรศัพท์ที่มีกระจกใสคั่นกลาง ก่อนกลับแม่ฝากเงินไว้ให้ใช้จ่าย ตามหลักของคุกที่ให้ใช้เบิกได้วันละสามร้อย แน่นอนเป็นเงินพี่ชายผู้เคยพาภัทราไปศึกษาเล่าเรียนในกรุงเทพฯ ก่อนจะนำกลับมาส่งคืนแม่เมื่อเธอเกเรคบเพื่อนไม่ดี และไม่ยอมกลับบ้าน หนีไปนอนค้างบ้านเพื่อนโดยไม่ยอมบอกกล่าว
แม้จะไม่มีปัญหาใด ๆ กับใครเขา แต่ภัทราก็ทำตัวเสมือนคนมีปัญหาหนักหนามากมาย ทำเหมือนบ้านร้อนเป็นไฟ ทั้งที่พี่สะใภ้ก็ไม่เคยดุด่า ขับรถไปส่งถึงหน้าโรงเรียนทุกเช้า ตอนเย็นก็ทำกับข้าวไว้รอ ภัทราไม่ต้องทำงานบ้านใด ๆ เพียงแค่รับผิดชอบทำความสะอาดห้องของตัวเอง กับล้างจาน หลังจากกินข้าวมื้อเย็นร่วมกัน บ่อยครั้งที่พี่ชายยังพาไปเปิดหูเปิดตากินข้าวนอกบ้านเสมออย่างรักใคร่ แต่ภัทราก็ยังบ่นกับเพื่อนว่าต้องรีบกลับบ้านเดี๋ยวพี่ด่า ทั้งที่ความจริงคือพี่ รอกินข้าวมื้อเย็น
หลังจากออกจากคุกได้คราวนั้น แม่พาเธอไปแก้บนที่บนไว้วันที่มาเยี่ยมว่าให้เธอออกจากคุก แม้จะออกมาตามกำหนดแต่ก็ไม่มีใครอยากขัดใจแม่
นิสัยผิดพี่ ๆ แบบนี้ ไม่รู้มาจากไหน ทั้งเรื่องเที่ยว คบเพื่อน เกเร ทำตัวผิดพี่น้อง ภัทราเป็นน้องเล็กคนสุดท้อง อายุห่างจากพี่ชายคนโตพอจะเป็นลูกสาวได้ และเมื่อเกิดได้ไม่นาน พ่อก็มาจากไปด้วยโรคหัวใจวาย ความรักที่พี่ ๆ และแม่มีให้นั้นล้นปรี่ อาจล้นเกินไปจนสำลักก็ได้ ภัทราจึงเป็นแบบนี้ ภวังค์แห่งห้วงคำนึงสะดุดเมื่อมองเห็นพี่สาวมายืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับสีหน้าเครียดขรึม ภัทราเดินออกจากลูกกรงนั้นด้วยอาการเซื่องซึม ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก
*****
(ห้วงคำนึงของอำพา...พี่สาว)
อำพา กำเงินสดในมือ ‘หนึ่งหมื่น’ ที่สามารถใช้ได้มากมาย กับอาชีพแม่ค้าขายของในตลาด แต่โทรศัพท์จากน้องเมื่อตอนบ่ายแก่ ๆ ทำให้ต้องตัดสินใจโทรไปยกเลิกของที่สั่งเข้าร้าน จะปล่อยให้น้องโดนขังที่โรงพักไม่ได้ ถ้าทำผิดซ้ำครั้งนี้ อาจไม่ได้รับการยกเว้น น้องอาจติดคุกไปนาน แล้วหลาน ๆ จะอยู่ยังไง หลานสามคนที่ช่วยกันเลี้ยงนั้น อย่างไรเสียก็ยังคงต้องการแม่ ก้าวขึ้นโรงพักด้วยความหดหู่ นี่ถ้าลูกผัวรู้คงโกรธเธอและบ่นว่าอีกตามเคย แต่ทำยังไงได้ นี่ก็น้อง มองเข้าไปในห้องขังของโรงพักเห็นน้องนั่งคุดคู้กอดเข่าอยู่ ใจอ่อนยวบ เลิกนึกเสียดายเงินหมื่นที่ถือมา
หลังจากยื่นเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อำพารอจนเห็นน้องเดินออกมาจากห้องขัง เธอเดินตรงเข้าไปเพื่อพูดคุย
“กลับบ้านเลยนะ อย่าไปไหนอีก”
“รู้แล้วน่า” น้ำเสียงของน้องหงุดหงิดติดรำคาญ อำพาถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกไปขี่มอเตอร์ไซค์กลับร้านเพื่อไปขายของต่อ เพราะใกล้จะถึงเวลาส่งค่าใช้จ่ายประจำเดือนให้ลูกสาวที่เรียนปริญญาตรีอยู่ที่กรุงเทพฯ
‘สงสัยคงต้องขายของเลิกให้ดึกขึ้นอีกหน่อย’
*****
(ห้วงคำนึงของรำพา...แม่)
“จะรีบไปไหนน่ะอำพา แล้วไม่ไปขายของเหรอ”
“เดี๋ยวไปจ้ะแม่ พอดีจะไปเอาของเพิ่มที่ตลาดโน้นหน่อย”
‘อำพาเอ๊ย ... คิดว่าแม่ไม่รู้เหรอไงลูก ขอบใจมากนะที่ไม่ทิ้งน้อง’ หันไปมองหัวดำสามคนที่นอนเรียงกันอยู่ข้าง ๆ พลางถอนใจ หยิบโทรศัพท์มากดหาลูกชายคนโต
“ยุ่งรึเปล่าลูก ศักดา”
“แม่มีอะไร”
“พอดีเจ้าตัวเล็กอาการไม่ดี แม่ว่าจะให้แม่มันพาไปหาหมอโรงพยาบาล”
“เป็นอะไรมากรึเปล่าแม่”
“ก็มีตุ่มแดง ๆ ขึ้น เห็นเขาว่าไข้เลือดออกระบาด แม่กลัวว่าจะเป็น”
“ครับ งั้นก็ให้ภัทราพาลูกไปหาหมอ แต่ไปโรงพยาบาลชลบุรีได้ไหมแม่ ช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยมี”
“เดี๋ยวแม่จะบอกให้”
หลังวางสายนางได้แต่นั่งครุ่นคิด ภัทราลูกสาวคนเล็กที่ถูกตามใจจนเสียคน ไม่เคยลำบากอะไร เพราะมีพี่ ๆ คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ศักดาพี่ชายคนโตช่วยภัทรามารวม ๆ กันแล้วก็เป็นเงินมากกว่าแสน เงินแสนสำหรับครอบครัวธรรมดาอย่างพวกนางถือว่ามาก แม้จะเคยเอ่ยปากว่าจะไม่สนใจแล้ว แต่คราใดที่นางโทรไป ศักดาก็ไม่เคยอิดออด นี่เป็นเพราะนางรึเปล่านะที่ทำให้ลูกคนอื่น ๆ เดือดร้อน
หลังสามีตายไปตั้งแต่ภัทรายังเล็ก จำความและจำหน้าพ่อยังไม่ได้ นางก็ทุ่มเทความรักให้อย่าง ล้นปรี่ ไม่มีใครคอยดุคอยตี ต่างจากพี่ ๆ ทุกคนที่ล้วนเคยผ่านไม้เรียวของพ่อมาทุกคน สามีนางเป็นคนเรียบร้อย มีระเบียบ ลูก ๆ จะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบทุกคน พอมาถึงภัทราหลังจากพ่อตายจากไป ภัทราก็ไม่เคยต้องทำอะไร เพราะพี่ ๆ ทำไว้ให้จนหมด ภัทรามีหน้าแค่เรียนเท่านั้น แต่ก็ทำได้แค่เกือบจบมัธยมหกเท่านั้น ก่อนที่จะหนีตามผู้ชายไป หลังจากจบเรื่องจบราวนางก็ได้หลานสาวมาหนึ่งคน และภัทราก็ไม่กลับบ้าน เอาแต่ขี่มอเตอร์ไซค์ตะลอน ๆ ไป ทิ้งลูกไว้ให้นางและพี่สาวเลี้ยง ทำตัวเหมือนคนโสด และไม่นานคนที่สองที่สามก็ตามมา ไม่ต้องถามถึงพ่อของแต่ละคน สามคนสองพ่อและไม่มีใครเอาถ่าน ภาระของเด็ก ๆ จึงตกมาอยู่ที่นางและพี่ ๆ ของภัทรา ทั้งค่านม ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง และภัทราก็ยังไม่กลับเข้าบ้านเหมือนเดิม นางอยากจะโทษอะไรสักอย่างที่ทำให้ลูกที่น่ารักของนางเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้ แต่นางจะโทษอะไรดี?
*****
(ห้วงคำนึงของศักดา...พี่ชาย)
‘เฮ้อ! งานก็ไม่ค่อยจะมี ตัวเล็กไม่สบายอีกแล้ว คราวนี้จะกี่บาทกันนะ’ ศักดาวางสายโทรศัพท์จากแม่ด้วยใจที่หน่วง ๆ อยู่ในอก กับเรื่องเดิม ๆ ของน้องสาว ที่เขาช่วยมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ทุกครั้งที่หลานป่วย ภัทราจะพาลูกไปรักษายังโรงพยาบาลเอกชนด้วยเหตุผลว่าโรงพยาบาลรัฐนั้นรอนาน และแน่นอนภัทราไม่เคยต้องรับผิดชอบใด ๆ กับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เป็นเขาทั้งนั้นที่ต้องรับผิดชอบจ่ายแทน และต้องกุลีกุจอทิ้งงานขับรถจากกรุงเทพฯ พาแม่ไปเยี่ยมหลานยังชลบุรี เพราะแม่ขาแข้งไม่ดี น้องคนอื่นก็ติดภาระขายของไม่อาจพาแม่ไปได้
หันไปมองหน้าเมียที่นั่งทำงานอยู่ข้าง ๆ ด้วยความรู้สึกเกรงใจ กว่าแสนบาทแล้วจนคร้านจะนับ กับน้องคนนี้ทั้งเอามาเรียนหนังสือ ทั้งขอยืม ทั้งค่าใช้จ่ายเวลาป่วยของหลาน คราวนี้ก็คงไม่หนีหมื่นกว่าถึงสองหมื่นอีกตามเคย เงินทองก็หายากเหลือเกิน แต่เขาจะปฏิเสธแม่ได้ยังไง การช่วยน้องก็เป็นการตอบแทนพระคุณแม่ที่ส่งเสียเลี้ยงดูเขามา เขาจะใจจืดใจดำไม่สนใจได้ยังไง นั่นก็หลานของเขาทั้งนั้น แม้จะลำบากยังไงก็คงต้องหามาจ่ายให้น้องอยู่ดี ใจคิดไปถึงสร้อยทองในมือเมีย คงต้องขอเธออีกครั้งแล้วสิ
*****
(ห้วงคำนึงสุดท้าย)
ภัทราในวัยสามสิบสอง หันไปมองหน้าลูก ๆ ทั้งสามคนที่นอนเรียงกันอย่างมีความสุข สีหน้าแต่ละคนมีรอยยิ้มปนอยู่ ขณะที่มือกำลังนับเงินจากกระป๋องที่ได้จากการขายของ สองปีมาแล้วที่เธอปรับปรุงตัว ยอมรับเลยว่ากว่าจะเลิกยาได้นั้น เธอเข้าออกคุกเป็นว่าเล่น พี่ ๆ แทบจะตัดหางปล่อยวัด เพราะลำพังแค่เลี้ยงตัวให้รอดทุกคนก็เหนื่อยหนัก ภาระที่เธอโยนให้แม่และพี่ ๆ รับผิดชอบมานานนั้น สะสมเป็นตะกอนอยู่ในใจเสมอมา ไม่ใช่ไม่รักไม่เห็นใจ เพียงแต่เธอพ่ายแพ้มัน ‘ไอ้ยานรก’
เธอจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดีวันที่ลูกโทรหาครั้งนั้น
“แม่ หนูจบปอหกแล้ว หนูจะเรียกต่อที่ไหนดี หนูจะได้เรียนไหมแม่” เสียงร้อนรนนั้นทำให้เธอขี่รถกลับบ้านเพื่อมาคุยกับลูก เมื่อเจอหน้าแม่ มีน้ำคลออยู่ในนัยน์ตาของแม่เมื่อเห็นเธอเดินเข้าบ้านมา กับคำถามเดิม ที่ให้รู้สึกต่างไปจากเดิม
“กินข้าวมารึยังลูก มาเดี๋ยวแม่ทอดปลา เจียวไข่ให้” พูดจบแม่ก็เดินเขยกเข้าครัวไปโดยไม่รอฟังคำตอบ
หันหน้ามาพบกับสายตาจากลูกสาวคนโตที่ต้องรับภาระดูแลน้อง ๆ ลูกเดินเข้ามากอดเธอแน่นพร้อมคำพูดที่ทำให้สะอึก
“หนูคิดถึงแม่จัง คืนนี้แม่จะนอนบ้านไหม”
นี่เธอทำร้ายทุกคนที่รักขนาดนี้เชียวหรือ?
แต่วันนี้เธอทำได้แล้ว เธอเป็นแม่ของลูกทั้งสามคนอย่างเต็มภาคภูมิ เป็นลูกของแม่อย่างที่แม่อยากให้เป็น รอยยิ้มบนเรียวปากของแม่ที่มีในวันนี้ คุ้มเหลือเกินกับการหักดิบในวันนั้น ความทุกข์ของครอบครัวผ่านพ้นไปได้เสียที การตกเป็นทาสยาเสพติดนั้นไม่ใช่แค่คนเสพเท่านั้นที่เดือดร้อน หากแต่มันนำพาความทุกข์มาให้คนรอบข้างอย่างแสนสาหัส และเธอผ่านพ้นมันมาได้แล้ว ด้วยสิ่งเดียวเลยคือ ‘ความรักของแม่และครอบครัว’ ที่เป็นภูมิคุ้มใจให้เธอเสมอมา และจะเป็นตลอดไป
จะไม่มีภัทราทาสยาในโลกนี้อีกแล้ว ลาทีลาขาด ภัทราถอนใจ ยิ้มอย่างเปี่ยมสุข มองลูกทั้งสามด้วยสายตารักใคร่อย่างที่คนเป็นแม่พึงมี...
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out


