พัทลุง กรมอุทยานแห่งชาติประสบความสำเร็จในการปล่อยนกกาบบัวคืนสู่ธรรมชาติ
ดังนั้น สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จึงได้ร่วมองค์การสวนสัตว์ นำนกกาบบัว จำนวน 12 ตัว มาทดลองปล่อยเป็นการนำร่อง เพื่อทดลอง และติดตามการอยู่รอดตามธรรมชาติของนกกาบบัวดังกล่าว และเป็นที่น่ายินดีที่พบว่าหลังจากปล่อยนกกาบบัวคืนสู่ธรรมชาติ ในช่วงเวลา 3 ปี ที่ผ่านมานกกาบบัว ที่ปล่อยสามารถปรับตัวให้ตัวเองอยู่ได้อย่างเสรีตามธรรมชาติ มีการสร้างรัง จับคู่ วางไข่ บนต้นเสม็ดขาว บริเวณที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จำนวน 10 รัง ฟักไข่ ออกลูก เพิ่มขึ้นจำนวน 19 ตัว
อย่างไรก็ตามล่าสุด นายธนิตย์ หนูยิ้ม ข้าราชการบำนาญ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อดีต ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา ผู้ที่มาทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีในช่วงที่ทำการปล่อยนก พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อทำการสำรวจการอยู่รอด และดูพฤติกรรมของนกกาบบัว ที่ปล่อย พบว่านกกาบบัว จำนวนกว่า 12 ตัว บินไปบินมาอย่างร่าเริง บริเวณรอบๆ ที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย บ้างก็จับคู่ ร่วมกันสร้างรัง ตัวหนึ่งนอนเหมือนกับกำลังฟักไข่ อีกตัวคอยยืนเฝ้าคอยดูแลความปลอดภัย บางเวลาบางตัวก็ออกไปคาบกิ่งไม้มาที่รัง แล้วช่วยกันใช้ปากจัดระเบียบกิ่งไม้ให้เป็นรัง บางตัวก็นั่งตากแดดไซ้ขน บางคู่หยอกเล่นกันบนต้นไม้สูงใหญ่ ดูแล้วเพลินตา และชื่นใจกับความสำเร็จของโครงการ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในความสำเร็จในการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ และเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยว
นายปิยวัฒน์ สุคนธ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ได้มีการปล่อยนกกาบบัวคืนถิ่น ปัจจุบันพบว่านกมีความคุ้นเคยกับพื้นที่ โดยการเพิ่มจำนวนขึ้น และจากการสำรวจของเจ้าหน้าที่ พบว่าขณะนี้ได้แตกออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อหากินและทำรังวางไข่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย โดยในส่วนของการหากินซึ่งบางครั้งไปหากินในพื้นที่ของชาวบ้าน อย่างไรก็ดีขอความร่วมมือกับชาวบ้านกันดูแลและอย่างรังแกนกชนิดดังกล่าว เพื่อให้ฝูงนกฝูงนี้ได้อยู่คู่กับพื้นที่ทะเลน้อย เพื่อมความหลากหลายทางชีวิภาพต่อไป
ขอบคุณภาพข่าวจาก Line ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล