ร้องไห้บำบัด น้ำตาไหล ไล่ ซึมเศร้า Crying Therapy
แนวคิด น้ำตาไหล ไล่ ซึมเศร้า นั้น ภาษาอังกฤษเรียกว่า Crying Therapy ดีต่อสุขภาพจริงหรือ
มีงานวิจัยเกี่ยวกับการร้องไห้พบว่า 9 ใน 10 คนใช้วิธีการร้องไห้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับจิตใจ ความอัดอั้น ความกดดัน ฯลฯ โดยในรายงานระบุว่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงจาก 30 ประเทศรู้สึกโล่งใจและสบายใจเมื่อใช้วิธีนี้ในการแก้ไขกับภาวะกดดันที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ นอกจากนี้ร้อยละ 70 ของนักบำบัดกล่าวว่าการร้องไห้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ป่วยของพวกเขานอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า การร้องไห้เป็นวิธีปลดปล่อยอารมณ์ที่มีประโยชน์ต่อเรา และการกลั้นน้ำตาจนเป็นนิสัยอาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้ ถึงแม้ว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดมายืนยันว่าการร้องไห้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจของคนเราจริง ๆ หรือไหม แต่ในการสำรวจพบว่าผู้หญิงประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์และผู้ชาย 73 เปอร์เซ็นต์รายงานว่า พวกเขารู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้ร้องไห้
ประโยชน์มากมายของการร้องไห้ จะลดความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่โรคเครียดสะสมรุนแรง เพราะการอดทนไว้ อดกั้นไว้และไม่ได้ระบายความอั้นอั้นที่มีอยู่ในใจ อาจทำให้เราเกิดความเครียดสะสม ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแล้ว ความกดดันของเราอาจส่งผลให้เราทำเรื่องรุนแรงต่าง ๆ
ทั้งช่วยลดการเกิดโรคซึมเศร้า เนื่องจากการเก็บความรู้สึกแย่ ๆ เอาไว้ อาจส่งผลให้เรากลายเป็นโรคซึมเศร้าได้โดยที่เราไม่รู้ตัว
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากภาวะความเครียดสะสมจะส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วแรงและไม่เป็นจังหวะ รวมทั้งยังส่งผลให้ระบบการทำงานของหัวใจไม่เป็นปกติอีกด้วย
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก เนื่องจากพบว่า 20% ของผู้ที่เกิดเส้นเลือดในสมองแตกมีสาเหตุมาจากความเครียด
ช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย รู้สึกโล่งอก เบากายและใจ เรื่องจากร่างกายได้ขับเอาสารเคมีและสารพิษที่ร่างกายสร้างขึ้นในขณะที่จิตใจเป็นทุกข์ออกไปพร้อมน้ำตา
และช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีอายุที่ยืนยาว อื่นๆอีกมากมาย
ที่ญี่ปุ่นมี ทัวร์เดิน "ร้องไห้บำบัด" ของญี่ปุ่นแสวงหาการรักษาผ่านเรื่องราวสะอื้น นาย ทาคาชิ ซากะ บุรุษผู้เรียกตัวเองว่าเป็น Tears sommelier เขากล่าวว่า การร้องไห้ช่วยปลดปล่อยความเครียดในจิตใจได้มากกว่าการหัวเราะ ยามที่เราหัวเราะเราจะรู้สึกดีแค่ในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น แต่การร้องไห้ช่วยระบายความเครียดได้ดีกว่า ทำให้รู้สึกเบาโล่งในจิตใจได้นาน จึงดีทั้งกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตมากกว่าซึ่งผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ มีการค้นพบว่า เมื่อเราร้องไห้ด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหว ในน้ำตาจะมีฮอร์โมนชนิดเดียวกับที่ร่างกายหลั่งในเวลาที่คนเรารู้สึกเครียด การร้องไห้จึงเป็นวิธีที่ปลดปล่อยความเครียดได้