คุณพ่อจะรับมือกับการอยู่บ้านของเจ้าลูกชายอย่างไร หากโรงเรียนไม่ได้เปิดเรียนตามปกติ
สถานการณ์การระบาดของโควิด19 ในประเทศไทยก็ยังคงไม่เป็นที่น่าไว้วางใจนัก ดังนั้นคนเป็นพ่ออย่างเรา ๆ ก็ต้องรับภาระดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดกันต่อไป สิ่งที่น่ากังวลใจก็คือ คนเป็นพ่อจะดูแลเจ้าลูกชายอย่างไรหากโรงเรียนยังไม่เปิดทำตามปกติ แค่เลี้ยงเฉย ๆ นั้นเลี้ยงได้ แต่จะเลี้ยงยังไงให้ลูกชายของเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้น เติบโตขึ้นอย่างสมวัยด้วยกันนะ
ทำไมต้องเตรียมความพร้อมให้ลูก
เพราะเด็กเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ทุกวัน ก็ควรต้องมีการเตรียมพร้อมในช่วงเวลาที่สำคัญนี้เอาไว้ให้ดีเลยจริง เพราะเวลาที่สูญเสียไปแล้วไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้ ยิ่งในเด็กอายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งสำคัญสำหรับพัฒนาการด้านอารมณ์ ความคิดสติปัญญา ถ้าหากมีการวางรากฐานที่ดีแล้ว ลูกก็จะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพแน่นอน
อะไรที่ต้องดูแลลูกบ้าง
เพื่อไม่ให้หลงทิศทางแล้วมีอะไรที่ต้องเน้นย้ำที่ผู้เป็นพ่อจะสามารถเลี้ยงลูกชายได้บ้าง
- ดูแลสุขภาพร่างกาย
เมื่ออยู่บ้านตลอดเด็ก ๆ อาจจะนอนดึก เอาแต่เล่นเกม ดูมือถือ ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง
- สอนเรื่องระเบียบวินัย
อยากให้เด็กแบ่งเวลาให้เป็น จัดการตัวเองได้ ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อตัวของเขาเอง และลดภาระของพ่อแม่ในอนาคต
- ดูแลการใช้โซเชียล
ไม่ควรปล่อยเด็กให้อยู่กับโซเชียลมีเดียมากเกินโดยที่ไม่มีการควบคุม เพราะเด็กยังไม่มีวิจารณญาณมากพอที่จะแยกแยะว่าสิ่งใดดีไม่ดี เหมาะสมไม่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบเอาได้
- ปล่อยให้เล่นอย่างเหมาะสม
เด็ก ๆ คู่กับการเล่น และการเล่นเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการ ดังนั้นการเลือกของเล่น หรือกิจกรรมให้เด็กเล่นก็นับว่าสำคัญมาก
- ดูแลพฤติกรรมและอารมณ์
หากพ่อแม่ตามใจลูกมากจนเกินไป ลูกอาจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว เอาแต่ใจ ต้องหมั่นสังเกต ฝึกให้เด็กควบคุมอารมณ์ให้ได้
- พยายามให้เข้าสังคมเท่าที่ทำได้
หาเวลาให้เขาได้พบกับญาติ ๆ หรือเพื่อน ๆ วัยเดียวกันบ้าง เพราะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเป็นทักษะที่สำคัญในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม
- ดูแลเรื่องการเรียนออนไลน์
ในเด็กเล็กการเรียนออนไลน์เป็นเรื่องยาก ผู้ปกครองจำเป็นต้องเรียนไปด้วย ดูแลไปด้วยอย่างเหมาะสม แนะแนวทางการเรียนให้เด็กเข้าใจตามคุณครูได้ง่ายๆ
อุปสรรคที่คุณพ่อต้องพบเจอในสถานการณ์จริง ๆ ของการเลี้ยงลูก
เด็กจะมีเหตุผลและอารมณ์ที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ต้องหาวิธีรับมืออย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้นลูกอาจจะต่อต้านเราได้
- ลูกไม่ให้ความร่วมมือ
เป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเจอได้ในเด็กอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่เขาเล่นอะไรสนุกติดพันอยู่เขาก็จะไม่ยอมเลิกง่าย ๆ ดังนั้นการให้เวลาเพื่อส่งสัญญาณให้เขาหยุดหรือพอเป็นทางออกที่ดีกว่าใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในทันทีทันใดเหมือนออกคำสั่งกับหุ่นยนต์นะ
- ไม่ดุด่าแต่ทำโทษให้สำนึกผิด
ไม่มีเด็กคนไหนชอบโดนดุ แม้แต่ผู้ใหญ่เองก็ตาม การพูดคุยเหตุผลนับว่าสำคัญ ถ้าลงโทษก็ลงโทษแค่ให้รู้ว่าเขาทำตัวผิดและไม่เหมาะสมเพื่อที่เขาจะไม่ทำพฤติกรรมไม่ดีจนติดเป็นนิสัย
- ตั้งข้อต่อรองเพื่อจูงใจ
เด็ก ๆ สมัยนี้ฉลาด ดังนั้นการหลอกเด็กแบบสมัยก่อนเรียกว่าแทบใช้ไม่ได้แล้ว เพราะเด็กรู้ทันหมด อีกทั้งยังจะทำให้เด็กไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อถือพ่อแม่เอาได้ ดังนั้นใช้วิธีต่อรองเป็นการแลกเปลี่ยนแลกกับเขาคือทางออกที่ตรงไปตรงมาและยุติธรรมที่สุดแล้ว
- การช่วยแบ่งเบาภาระการเลี้ยงลูกกับภรรยา
สำหรับคุณพ่อที่ต้องทำงานนอกบ้านแล้ว ยังไงก็ต้องแบ่งเวลาในการเลี้ยงลูกให้ดี เพื่อที่จะดูแลรักษาความสัมพันธ์ของพ่อและลูก รวมถึงเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับภรรยาและมุ่งเน้นทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดด้วย
แต่อย่างไรก็ดีอย่ากดดันว่าเด็กอยู่บ้านแล้วจะเอาแต่สนุก เอาแต่สบาย มันคือช่วงเวลาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เพราะตัวเด็กเองก็ต้องสูญเสียการใช้ชีวิตในวัยเด็กตามปกติไปเหมือนกัน จึงเป็นหน้าที่จองคุณพ่ออย่างเราที่จะต้องเลี้ยงดูแลลูกให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันจนได้ค่ะ