ผอ.สนง.บังคับคดีแจ้งสำนักงานที่ดินถอนการยึดวัดขายทอดตลาดแล้ว ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างดีใจ
เมื่อเวลา 13.00 น วันที่ 10 พ.ย. นายเสรี ชูเพ็ง ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี สาขานาทวี จ.สงขลา ได้แจ้งให้ทราบว่า จากกรณีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำพิพากษาให้มีการยึดทรัพย์ ที่ดินเลขที่ น.ส.3 ก.เลขที่ ( 1 ) 4156 เลขที่ดิน (1 ) 9 (2 ) 10 ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา มีชื่อนางอำไพ อำพุกานน และ นายไสว ณ พัทลุง เป็นผู้ถือสิทธิครอบครอง ไม่ติดภาระจำนอง ไว้ตามหมายบังคับคดีของ ศาลแพ่งกรุงเทพฯใต้ คดีหมายเลขแดงที่ 6897/2542 ระหว่างบริษัทธนบุรีพานิชลิสซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นโจทย์ นางอำไพ อัมพุกานน จำเลยที่ 1 และ ร.ต.อ.สมพล ศาติชาติศักดิ์ จำเลยที่ 2
บัดนี้คดีได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อมีการตรวจสอบหลักฐาน พยาน พบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว ที่ศาลแพ่งได้สั่งให้ยึดขายทอดตลาด ตามที่บริษัทธนบุรีพานิชลิสซิ่ง ได้ฟ้องต่อศาลว่า จำเลยได้ติดค้างไม่มีการผ่อนชำระรถเบ็นซ์ ที่ได้ซื้อไปจากบริษัท เป็นที่ตั้งของวัดวังใหญ่ ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา มีเอกสารยกที่ดินจากนายไสวยกให้วัดเพื่อการสร้าง ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา และหลังจากทราบข้อเท็จจริง บริษัทธนบุรีพานิชลิสซึ่ง ก็ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อไป สำนักงานบังคับคดี สาขา อ.นาทวี จึงได้ มีหนังสือถอนการยึดที่ดินแปลงดังกล่าวไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขานาทวี ตามหนังสือที่ สข. 0026.01/ (1 ) 19708 ลงวันที่ 9 พ.ย. 2564 แล้ว
พระคุณสุวัฒนาภรณ์ นพรัตน์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าอาวาสวัดนาทวี ซึ่งทำหน้าที่ปกครองสงฆ์ใน 4 อำเภอของ จ.สงขลา กล่าวว่า ขออนุโมทนาไปยัง บริษัทธนบุรีพานิชลิสซิ่ง และ ผอ.สำนักงานบังคับคดี สาขานาทวี ที่ได้ดำเนินการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น สร้างความดีใจให้กับชาวบ้านใน ต.วังใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด และวัดก็เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ซึ่งตั้งแต่วันที่มีข่าวการยึดวัดเพื่อขายทอดตลาด ชาวบ้านที่ทราบข่าวเดือดร้อนมาก และหาวิธีการช่วยวัดด้วยการขอทราบจำนวนหนี้สินเพื่อที่จะได้เรี่ยไรเงินไปทำการไถ่วัด เมื่อทุกอย่างจบลงด้วยข้อกฎหมาย ทุกคนต่างดีใจ
ในขณะที่นายณัฏนนท์ ศรีก่อเกื้อ สส.เขต 7 สงขลา พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นผู้ที่นำเรื่องการที่ศาลสั่งยึดวัดวังใหญ่ เพื่อขายทอดตลาด ร้องต่อกรรมาธิการศาสนา วัฒนธรรมฯ ของสภาผู้แทน ได้กล่าวว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นแก่พระพุทธศาสนา และเรื่องจบด้วยดี ส่วนค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งจำเลยคือนางอำพา ต้องเป็นผู้รับผิดชอบนั้น ครอบครัวของผม และพระครูสุพัฒนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดนาทวีจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด รวมทั้งค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินแปลงดังกล่าวให้เป็นธรณีสงฆ์ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต
ภาพ ข่าว จาก ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล