ปัญหาสภาพภูมิอากาศ โลกร้อน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก มนุษย์ทุกชนชาติต้องช่วยกันรักษา ก่อนที่จะสายเกินแก้ อีกต่อไป
จากสภาพปัญหาประเด็นสิ่งแวดล้อมหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ (Climate Change) ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวเป็นอย่าง ไม่ใช่มาก ไม่ใช่เพียงเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะปัจจุบันโลกเราเริ่มได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ถึงความสำคัญและความจำเป็นในการร่วมกันรับผิดชอบต่อปัญหาดังกล่าว
สำหรับประเทศไทยนั้นความตื่นตัวของประชาชนไทยต่อประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะคนกลุ่ม Gen Y ลงมาจะมีความตื่นตัวมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ ทั้งที่เกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากที่สุด กลับยังไม่ได้มีความตื่นตัวในเรื่องนี้มากนัก ยกตัวอย่างเช่น วันนี้เรากำลังเจอปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นทั่วประเทศเกือบจะทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่ไม่กี่เดือนก่อนเรายังมีความกังวลว่าเขื่อนแต่ละเขื่อนของเราจะมีปริมาณน้ำเพียงพอให้พี่น้องเกษตรกรใช้ในการทำเกษตรกรรมหรือไม่ มาถึงวันนี้เรากลับต้องรีบระบายน้ำจากเขื่อนเพราะหลายเขื่อนเต็มความจุไปจนล้นเกินขีดจำกัดมากไปแล้ว จากสาเหตุที่ฝนพายุน้ำมากเกิดไป รวมถึงน้ำที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ไหลมาสบทบ สาเหตุก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของทั้งนั้น ร้อนมากไปก็ไม่ดี ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลก็ไม่ดี น้ำเยอะมากไปก็ทำให้เกิดปัญหาภาคการเกษตรตามมา
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก็คือ ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gas) ซึ่งก๊าซเหล่านี้จะปกคลุมอยู่ในชั้นบรรยากาศ ทำให้แสงอาทิตย์สะท้อนออกไปจากโลกได้น้อยลง โดยก๊าซประเภทนี้มีหลายประเภท แต่ที่เรานับกันเป็นหลักก็คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก๊าซประเภทนี้เกิดขึ้นในกิจกรรมของมนุษย์แทบทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม รถยนต์ ปสุสัตว์ เป็นต้น
ในปัจจุบันทั่วโลกได้ตั้งเป้าที่จะควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กลายเป็น 0% ภายในปี 2100 เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1.5-2C อันจะนำมาซึ่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงกว่านี้ จากสถานการณ์ของประเทศไทยนั้นเรามีความพยายามที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 40% จากปัจจุบันที่เรามีอยู่ประมาณ 32% ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ 55% ของพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะแก้ไขปัญหาโลกร้อนได้เป็นอย่างดี แม้การปลูกต้นไม้จะไม่สามารถเห็นผลได้ในทันที แต่จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนในระยะยาวครับ
สำหรับภาคการผลิตก๊าซเรือนกระจกนั้น ประเทศไทยเองก็มีแผนในการกำหนดการลดการผลิตก๊าซเรือนกระจก เช่น การสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น การลดการผลิตก๊าซเรือนกระจกจากภาคการผลิตและอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันเมื่อมีหน่วยงานรัฐต้องการใช้พื้นที่ป่า เช่น สร้างถนน สร้างอ่างเก็บน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะมีกติกาที่กำหนดให้หน่วยงานเหล่านั้นต้องชดใช้งบประมาณในการปลูกป่าเพิ่มแก่กระทรวงทรัพย์ฯ เพื่อปลูกป่าและฟื้นฟูป่าทดแทนให้กับพื้นที่ป่าที่สูญเสียไป ส่วนทางด้านภาคประชาชนนั้น ตั้งแต่ปี 2562 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เริ่มโครงการ “Everyday say no to single use plastic bags” หรือรณรงค์ให้เลิกใช้ถุงพลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง หากท่านใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งก็จะเกิดปัญหาขยะมูลฝอยในประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่มาจากถุงพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ หลายคนก็พอจะมีความรู้เรื่องถุงพลาสติกว่าใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะย่อยสลายได้ พอใช้แล้วทิ้งก็จะเกิดปัญหาสองอย่าง คือ เราไม่มีที่ทิ้ง ไม่สามารถย่อยสลายได้ ปัญหาต่อมาก็คือเราต้องผลิตถุงพลาสติกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเราใช้ถุงพลาสติกมากครั้งขึ้นก็จะสามารถลดปริมาณขยะและการผลิตถุงพลาสติกได้มากขึ้น เช่นเดียวกับหากเราเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้า ใช้กระติกน้ำ แก้วน้ำที่ไม่ใช้พลาสติก ซึ่งเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวเหล่านี้สามารถที่จะลดปริมาณขยะพลาสติกได้อย่างมหาศาล
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่ากระบวนการผลิตต่างๆ ล้วนแต่ผลิตก๊าซเรือนกระจก หากเราลดปริมาณการผลิตต่างๆ เหล่านี้ได้ก็จะลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกลงได้เช่นกัน ในส่วนของการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกนั้นเป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยเราสามารถทำได้มากกว่าที่เราตั้งเป้าไว้ในระยะแรก โดยเราตั้งเป้าเอาไว้ว่าภายในปี 2563 เราต้องลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ไม่ต่ำกว่า 7-20% ซึ่งในปี 2562 ปรากฏว่าประเทศไทยเราสามารถลดไปได้มากถึง 17% และหลังปี 2564 เราจะอยู่ในแผนใหม่ที่เราจะต้องลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 20-25%
เรื่องเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องใกล้ตัวของเรา และถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของประชาชนชาวไทย หรือ จะว่าทุกคนในโลกก็ได้ เพราะทุกคนล้วนแต่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภาวะโลกร้อนอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ช่วยๆ กัน อย่างน้อยก็ทำให้ประเทศไทยกลับมามีทรัพยกรธรรมชาติ และ สภาพแวดล้อมพื้นป่าที่อุดมณ์สมบูรณ์ ฝนฟ้าอากาศ ตกต้องตามฤดูกาลเหมือนที่เคยเป็นมาได้
ขอบคุณที่มา ......
(จาก https://bit.ly/3pme1vq) (https://www.greenpeace.org/thailand/explore/protect/climate/impacts/)
(https://www.reanrooclimatechange.com/Pages/BackupPages/Learning-why-seasons-change.aspx)