สาคูฝรั่ง ใครเคยกินบ้าง
สาคูฝรั่ง(ชื่อแถวบ้านเรียกกัน แต่จริงๆ แล้วชื่อสาคูพุทธรักษา) ใครเคยกินบ้าง เคี้ยวหนึบๆ
มีรสหวานอ่อนๆ ตามธรรมชาติ
สาคูมี 3 ชนิด ซึ่งในที่นี้จะพูดถึงสาคูพุทธรักษา
สาคูพุทธรักษา(แบบหัวกินได้) หรือ สาคูจีน
หัวสาคูพุทธรักษา(แบบหัวกินได้)ที่อยู่ใต้ดินและนำมาต้มแล้ว
สาคูไทย
หัวสาคูไทย
ปาล์มสาคู
ผลปาล์มสาคู
ชื่อเรียกทั่วไป
-พุทธรักษาสาคู หรือสาคูพุทธรักษากินได้
ชื่อเรียกตามท้องถิ่นบางที่ เรียกว่า สาคูจีน
-หน้วยละ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่)
-ก่อบลังเจ้ะ (ม้ง)
-ฝรังโห (เมี่ยน)
ต้นสาคู หรือ สาคู เป็นชื่อเรียกของพืชหลายชนิด โดยนำแป้งจากส่วนหัวหรือลำต้นมาใช้ประโยชน์สำหรับทำขนม ปัจจุบัน แป้งจากต้นสาคูไม่ค่อยนิยมแล้ว เพราะมีการนำแป้งจากแหล่งอื่นมาทดแทน ซึ่งหาง่าย และราคาถูก อาทิ แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้า เป็นต้น
ส่วนคำว่า สาคู อีกชื่อ เป็นชื่อเรียกขนม หรือ ขนมสาคู ซึ่งแต่ก่อนใช้แป้งจากต้นสาคู ตัวขนมมีลักษณะเป็นทรงกลม เนื้อค่อนข้างใส ด้านในยัดด้วยไส้ขนม หรือ อีกชนิดเป็นเม็ดแป้งขนาดเล็ก แล้วนำมาต้มสุก ก่อนเติมน้ำกะทิ และน้ำเชื่อมรับประทาน ปัจจุบัน ขนมสาคู ไม่นิยมใช้แป้งจากต้นสาคูแล้ว เพราะกระบวนการผลิตแป้งยุ่งยาก และหายาก จึงนิยมใช้แป้งมันสำปะหลังแทน
ชนิดต้นสาคู
ต้นสาคู แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่
1. สาคูไทย หรือ ว่านสาคู (Marantaarundinaceae L.)
2. พุทธรักษาสาคู (Canna edulis Ker.)
3. ปาล์มสาคู (Metroxylon sagu)
นอกจากสาคู 3 ชนิดนี้ ต้นสาคู อาจหมายรวมถึงพืชชนิดอื่นที่ให้แป้งเหมือนกัน เช่น บุก และท้าวยายหม่อม เป็นต้น
สาคูพุทธรักษา หรือ พุทธรักษากินได้
สาคูพุทธรักษา ดั้งเดิมเติบโตในแถบประเทศอเมริกาใต้ บริเวณประเทศบราซิล และถูกนำเข้ามาปลูกในไทยโดยนักสะสมหรือผู้ที่นิยมปลูกไม้ดอก จนปัจจุบันสามารถพบแพร่กระจายในทุกภาค พบมากตามบริเวณริมน้ำหรือแอ่งที่มีสภาพชื้นหรือมีน้ำขัง เช่น แอ่งตามข้างถนน หรือ ริมขอบสระน้ำต่างๆ
สาคูพุทธรักษา เป็นพุทธรักษาที่มีเหง้าขยายใหญ่จนเรียกว่าเป็นหัวที่สมบูรณ์ได้ หัวพุทธรักษาชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแง่ง คล้ายแง่งข่า มีทั้งเยื่อหุ้มสีน้ำตาลซึ่งเรียกว่า พันธุ์ไทยเขียว ให้ดอกสีสีส้ม และเยื่อหุ้มมีสีน้ำตาล และแกมด้วยสีม่วง เรียกว่า พันธุ์ไทยม่วง ให้ดอกสีแดง ส่วนเนื้อภายในมีสีขาวที่เกิดจากการสะสมของแป้ง และ ***** แตกต่างจากพุทธรักษากินไม่ได้ คือ ลำต้นมีความสูงมากกว่าพุทธรักษาทั่วไป ใบมีขนาดใหญ่กว่า และจุดเด่นสำคัญ คือ โคนกาบหุ้มลำต้น และขอบใบจะมีสีม่วงแดง
สาคูพุทธรักษา เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปีเป็นเหง้าทอดแผ่ แตกแขนง ปล้องสั้นเป็นรูปทรงกระบอก มีลำต้นใต้ดินสะสมอาหาร ใบเดี่ยว ก้านใบหุ้มหันเป็นลำต้นเทียม มีสีม่วงแดงปนเขียวทั้งต้นและใบ ดอกช่อ กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอกสีแดง
พุทธรักษากินหัวหรือสาคูจีน พืชท้องถิ่นจากต่างแดนที่เข้ามาเมืองไทยสายพันธุิ์เก่า ๆ ที่มีประโยชน์ด้านอาหารและยากำลังสูญหาย และเริ่มหายากเต็มที
สาคูพุทธรักษา หรือ พุทธรักษากินได้ หรือบางท้องที่อาจเรียก สาคูจีน ชื่อวิทยาศาสตร์ : Canna edulis Ker. มีชื่อภาษาอังกฤษว่า arrowroot เช่นเดียวกับสาคูไทย จัดเป็นพืชในตระกูลพุทธรักษาที่มีดอก และลำต้นสีม่วง หัวหรือเหง้ามีการเก็บสะสมแป้ง ซึ่งจะต่างกับพุทธรักษาบางชนิดที่หัวไม่มีแป้งหรือเป็นพุทธรักษาชนิดกินไม่ได้
สาคูพุทธรักษา มีลำต้นคล้ายกับพุทธรักษาทั่วไป แต่กาบใบหุ้มลำต้นจะมีสีม่วง ส่วนดอกจะมีกลีบเรียวเล็ก กลีบดอกสีแดงหรือสีม่วงแดง ส่วนใบมีลักษณะเรียว ขอบใบมีสีม่วง ส่วนเหง้าใต้ดินมีลักษณะเป็นหัวกลม ประกอบด้วยแป้งจำนวนมาก
สาคูพุทธรักษา นิยมขุดเก็บหัวเมื่อต้นอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป สามารถให้ผลผลิตหัวได้สูงถึง 4 ตัน/ไร่ ไม่ต้องการการดูแลมาก มีโรคหรือแมลงน้อย
สาคูพุทธรักษาใบใช้ห่อข้าวและอาหาร
สาคูพุทธรักษา ผลแห้งหัวใต้ดินนำมาต้มรับประทาน
ประโยชน์ของสาคูพุทธรักษา
-ตำรายาพื้นบ้านล้านนาจะใช้เหง้าสดซึ่งมีรสขมมาก ขนาดยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตร กินเป็นยาแก้อาการปวดมวนท้อง (เหง้าสด)
-ชาวม้งจะใช้หัวที่อยู่ใต้ดินของต้นพุทธรักษากินหัว นำมาต้มหรือนึ่งรับประทาน ส่วนชาวกะเหรี่ยงเชียงใหม่จะใช้หัวนำมาต้มรับประทาน โดยต้มกับน้ำตาลทำเป็นของหวาน
-ชาวเมี่ยนจะใช้หัวใต้ดินนำมานึ่งแล้วใช้ผสมกับแป้งทำขนม จะช่วยทำให้แป้งไม่ติดใบตอง
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม
ขอให้ทุกท่านโชคดี
https://web.facebook.com/Aarlamin/posts/199559044106975/
http://loklilub.blogspot.com/2019/07/blog-post_494.html