ปัญหาและสาเหตุที่ไทยต้องนำเข้าขยะจากต่างประเทศ ………ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้
หลายคนคงไม่ทราบว่าจริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ประเทศจีน เป็นประเทศที่นำเข้าขยะมากที่สุดในโลก แต่หลังจากที่ประเทศจีน ประกาศเปลี่ยน นโยบาย เร่งแก้ปัญหามลพิษ ควบคุมอุตสาหกรรม กิจการรีไซเคิลภายในประเทศ เพื่อคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทำให้ประเทศจีนยกเลิกการนำเข้าขยะจากต่างประเทศไปจากที่นำเข้าขยะจากต่างประเทศมากเกือบ 13.5 ล้านตันในปี 2019 และตั้งเป้าจะให้เหลือศูนย์หรือยกเลิกการนำเข้าขยะจากต่างประเทศทั้งหมดภายในสิ้นปี 2020 จึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายประเทศที่นำเข้าขยะ เพื่อมาคัดแยกและรีไซเคิล เพราะหากกำจัดที่ประเทศต้นทางก็จะมีต้นทุนสูงกว่าการส่งออก แม้ประเทศไทยจะอนุญาตให้นำเข้าพลาสติก แต่ก็ต้องเป็นเศษพลาสติกต้องสะอาดไม่ปนเปื้อนมีขนาดไม่เกิน2.0เซนติเมตร หากมีการตรวจพบว่าเรามีการลักลอบนำเข้าพลาสติกปนเปื้อนเข้ามาด้วย ซึ่งพลาสติกเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดปัญหามลพิษตามมาได้ในภายหลัง
ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานคัดแยกและรีไซเคิลขยะกว่า 6, 000 แห่ง เนื่องจากปัจจุบัน พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2562 ได้ลดขั้นตอนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือ ร.ง.4 ที่จะต้องตรวจสอบและพิจารณาถึงความเหมาะสมของทำเลที่ตั้ง ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ ทำให้มีโรงงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งโรงงานอุตสหกรรมพวกนี้จริงๆ เป็นของชาวต่างชาติเองซะส่วนมาก ซึ่งเรื่องนี้ทางอุตสหกรรมต้องออกมาชี้แจ้งรายละเอียดให้ประชาชนได้ทราบว่าทำไมถึงมีโรงงานอุตหกรรมจากต่างชาติเพิ่มขึ้นมามากขนาดนี้
หลายคนอาจสงสัยว่าจริงแล้วขยะประเทศไทยก็มีถมไป เหตุใดยังต้องนำเข้า
กรมควบคุมมลพิษได้รายงานสถานการณ์ปริมาณขยะะมูลฝอย พบว่าในปี พ.ศ. 2561 เรามีปริมาณขยะมูลฝอยประมาณ 27.93 ล้านตัน หรือประมาณ 76.529 ตันต่อวัน หรือปีก่อนหน้า27.37 ล้านตัน สถิติย้อนหลัง 3 ปี อยู่ 27 ล้านตัน ประเด็นนี้ นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไว้ว่า “ข้อเท็จจริงก็คือขยะพลาสติกในประเทศไทยมีจำนวนมากจริง แต่เป็นขยะที่ไม่ได้ถูกคัดแยกอย่างมีประสิทธิภาพทั้งจากประชาชนและรัฐบาล จึงมีการปนเปื้อนสูง ดังนั้นโรงงานอุตสาหกรรมจึงซื้อขยะพลาสติกจากต่างประเทศ (โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้าของรัฐบาลคือเศษพลาสติกต้องสะอาดไม่ปนเปื้อนมีขนาดไม่เกิน2.0เซนติเมตร) นำมารีไซเคิลและผลิตสินค้าพลาสติกราคาถูกขาย ซึ่งจะมีต้นทุนถูกกว่าการนำขยะพลาสติกในประเทศไทยมาคัดแยกและนำมารีไซเคิลผลิตเป็นสินค้าใหม่ ทำให้ขยะพลาสติกในประเทศตกค้างจำนวนมาก และถูกกองทิ้งไว้ในหลุมขยะเทศบาลและไหลลงทะเลในที่สุด” จนเมื่อเดือน กันยายน ปี2563 ใบอนุญาตการนำเข้าเศษพลาสติกสิ้นสุดลง จึงมีความเป็นห่วงในเรื่องการนำเข้าขยะพลาสติก ทางด้านรมว.อุตสาหกรรม ก็ได้คุมเข้มตรวจสอบผู้ประกอบการที่ได้รับโควตาการนำเข้าเศษพลาสติก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเข้าเศษพลาสติกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์และ ป้องกันไม่ให้เศษพลาสติกนำเข้าเหล่านี้ไปสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้หลังจากการนำเข้าเศษพลาสติกเพื่อเป็นวัตถุดิบซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน โดยผู้ประกอบการยังมีโควต้าเหลือประมาณ 2.2 แสนล้านตัน ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 คณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ได้อนุญาตให้มีโควตาการนำเข้าใหม่ แต่ทนแรงกดดันจากภาคอุตสาหกรรมไม่ไหว ทำให้คณะอนุกรรมการการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ปรับเปลี่ยนมาตรการ จากที่ ‘ยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกโดยเด็ดขาด’ ตามมติเดือนสิงหาคม 2561 กลับ เปิดทางให้นำเข้าได้ตามมติใหม่วันที่ 25 มกราคม 2563 แล้วค่อยห้ามนำเข้าในอีก 5 ปีข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ระหว่างนี้ก็นำเข้าได้แต่ลดสัดส่วนลงทุกปีแล้วเพิ่มสัดส่วนในประเทศแทน โดยปี 64 นำเข้าได้ไม่เกิน 250,000 ตัน
ปลายปี 2563 ถึงต้นปี 2564 กระทรวงอุตสาหกรรม บอกว่าโรงงานมีความต้องการเศษพลาสติกอย่างน้อย 46 โรงงาน ที่มีกำลังการผลิตรวมกัน 530,000 ตันต่อปี ต้องการนำเข้า 680,000 กว่าตัน กรมควบคุมมลพิษ เสนอมาตรการนำเข้าเศษพลาสติกต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
จากห้ามนำเข้าเด็ดขาดตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายน 2563 มาผ่อนผันให้นำเข้าได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ถึง สิงหาคม 2563 แล้วค่อยๆ ลดปริมาณลงปีละ 20% จนถึงมกราคม 2569 จึงจะห้ามนำเข้าเศษพลาสติกโดยสิ้นเชิง
ยกตัวอย่างโรงงานจีนมีความพยายามเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย เช่น ที่ ต.น้ำพุ จ.ราชบุรี ก็มีการคัดค้านเรื่องนี้อยู่ มีโรงงานที่มีกำลังผลิต 30,000 กว่าตัน ทำหนังสือถึงกรมควบคุมมลพิษ ขอออกใบอนุญาตนำเข้าเศษพลาสติก ทางด้านกรมอุตสาหกรรมพลาสติกก็กดดันให้ขยายการนำเข้าพลาสติกออกไปอีก 5 ปี”
ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมต้องออกมาชี้แจ้งพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้เช่นเจนเพราะการนำเข้าขยะขึ้นตรงกับกระทรวงอุตสากรรมเท่านั้น
ส่วนของ กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงได้ออกสั่งการเร่งมาตรการประคองราคาเศษพลาสติกในประเทศ ตั้งเป้าหยุดนำเข้า 100% ในปี 2569 ฟื้นชีวิตให้ธุรกิจรีไซเคิลขยะ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางทีมงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประชุมหารือ เกี่ยวกับมาตรการกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก เพื่อเตรียมการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ครั้งที่ 2/2564
ซึ่งประเด็นที่ให้ความสำคัญคือการกำหนดมาตรการการนำเข้าเศษพลาสติก เพื่อแก้ปัญหาการนำเข้าในขณะนี้ที่มีจำนวนมาก จนส่งผลกระทบกับราคาเศษพลาสติกในประเทศ ทำให้ราคาการซื้อ-ขายเศษพลาสติกภายในประเทศตกต่ำ จนทำให้อาชีพคัดแยกขยะขาย ซึ่งเคยเป็นกำลังสำคัญในห่วงโซ่ขยะรีไซเคิล กำลังหายไปจากสังคมไทย ซึ่งจริงๆ แล้วทางกระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญและสนใจในเรื่องนี้มาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับหน้าที่หลักของกระทรวงอุตสหกรรมเท่านั้นที่จะทำยังไงต่อไป
หลังจากกรมควบคุมมลพิษ ได้เตรียมการเสนอมาตรการกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก ต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในการประชุมที่จะมีขึ้นครั้งต่อไป โดยคำนวนจากความต้องการใช้เศษพลาสติกในอุตสาหกรรม ปริมาณ 500,000 ต่อปี ดังนี้
- เสนอให้นำเข้าเศษพลาสติกในปี 2564 ในปริมาณ 250,000 ตันต่อปี หรือ 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมด
- ร่วมกับการใช้เศษพลาสติกภายในประเทศ ในปริมาณ 250,000 ตันต่อปี อีก 50%
- กำหนดให้ปีต่อๆไป ต้องลดปริมาณการนำเข้าเศษพลาสติกลง ปีละ 20% หรือประมาณ 50,000 ตัน/ปี
- จนครบโควต้า ห้ามนำเข้าเศษพลาสติก 100% ภายในวันที่ 1 มกราคม 2569 และเปลี่ยนมาสนับสนุนการใช้เศษพลาสติกภายในประเทศ 100% เพื่อให้สอดรับกับนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยระบบโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy)
โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยัง เตรียมผลักดันอีกครั้งสำหรับ กฎหมายยกเลิกใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง ผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง 4 ประเภท ที่พวกเราเคยผลักดันการยกเลิกใช้ ตามกรอบ Road Map การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 ให้ได้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังหารือแนวทางการพัฒนากฎหมายยกเลิกใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกครั้งนึง ตั้งเป้าให้มีผลบังคับใช้ภายในปี 2565
โดยพลาสติกที่ประเทศไทยต้องยกเลิกการผลิต-จำหน่าย-ใช้งาน ทั้ง 4 ประเภท ได้แก่
- ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบบาง น้อยกว่า 36 ไมครอน
- แก้วพลาสติก แบบบาง น้อยกว่า 100 ไมครอน
- หลอดพลาสติก
- กล่องโฟมบรรจุอาหาร
พร้อมตั้งเป้านำขยะพลาสติก กลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี 2570 เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศด้วยแผนเศรษฐกิจสีเขียวให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณเนื้อหาที่มา https://bit.ly/3nhlTgt , https://bit.ly/3yVyE2E , https://bit.ly/2YIp0E3





อ้างอิงจาก: https://bit.ly/3nhlTgt , https://bit.ly/3yVyE2E , https://bit.ly/2YIp0E3
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
WOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
“วันนี้ AQI 127 — หมอเตือน: อยู่แบบนี้ 30 วัน ‘มะเร็งปอด’ เพิ่ม 40%… แต่ ‘พ่อผม’ ไม่รู้ จนวันที่ X-ray ปอดเต็มไปด้วยจุดขาว”
จริงหรือไม่ ที่คนจีนไม่นิยมหาคู่เป็นคนที่เกิดในราศีพิจิก คุณคิดว่าเพราะอะไร
ไม่ว่ายังไงคนใต้ก็ยึดติดกับพรรคประชาธิปัตย์ใช่ไหม
วงการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์โลกเป็นอย่างไร

