สรุป สงครามเลิกทาสของอเมริกา
#อับราฮัมลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ออกคำประกาศเลิกทาสเมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ.1862 (2405) ในระหว่างสงครามกลางเมือง (2404-2408) ให้มีผลในวันที่ 1 มกราคมปีถัดมา
ความเป็นทาสและการใช้แรงงานทาสในรัฐเทกซัสยังลากยาวต่อไปอีกถึง 2 ปีครึ่งกว่า คำประกาศเกิดผลในวันที่ 19 มิถุนายน 2408 วันสำคัญนี้ถูกเรียกขานมานานในชื่อ Juneteenth (จูนทีนท์) ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง June และ Nineteenth
การเลิกทาสในสหรัฐอเมริกาก่อให้เกิดสงคราม ระหว่างกองทัพสมาพันธรัฐ (Confederacy) หรือ“ฝ่ายใต้” รวมกัน 11 รัฐ ต้านทานการบุกของกองทัพสหภาพ (Union) หรือ “ฝ่ายเหนือ” ต่อไปอีก 2 ปีครึ่ง หลังมีคำประกาศเลิกทาส (Emancipation Proclamation) ออกมา
สงครามกลางเมืองจากเหตุการณ์เลิกทาสในอเมริกา เป็นสงครามที่สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินมากทีสุด สงครามครั้งนี้เป็นสงครามที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา ส่งผลให้ทหารเสียชีวิตกว่า 620,000 นายและพลเรือนอีกนับแสน
ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีวันหยุดประจำชาติ 11 วัน ประกอบด้วยวัน Juneteenth วันคริสต์มาส, วันขึ้นปีใหม่, วันประกาศอิสรภาพ (วันชาติ), วันเกิดของจอร์จ วอชิงตัน, วันรำลึกผู้พลีชีพเพื่อชาติ, วันทหารผ่านศึก, วันโคลัมบัส, วันแรงงาน, วันขอบคุณพระเจ้า และวันเกิดของมาร์ติน ลูเธอร์ คิง
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดให้ตราพระราชบัญญัติพิกัดเกษียณอายุลูกทาสไทย ร.ศ.93 ขึ้น หลังการเลิกทาสในอเมริกา 9 ปีคือวันที่ 21 สิงหาคม 2417 ถึงวันนี้ 147 ปีพอดี
พรบ.ดังกล่าว ต้องการให้ลูกทาสในรัชกาลของพระองค์ตั้งแต่ปี 2411 มีอัตราตัวใหม่และลดเกษียณอายุค่าตัวลงทุกปี จนเจ้าตัวทาสสามารถจะไถ่ถอนตัวเองได้ จนเป็นไทยแก่ตัวเมื่ออายุ 21 ปี อันเป็นการเริ่มดำเนินการเลิกทาสอย่างผ่อนปรน กระทบต่อนายเงินและทาสน้อยที่สุด
ต่อมารัชกาลที่ 5 ทรงออกพระราชบัญญัติเลิกทาสมีชื่อว่า พระราชบัญญัติทาส ร.ศ. 124 ในปี พ.ศ. 2448 มีใจความสำคัญว่า วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2448 ให้บุคคลผู้เป็นลูกทาสในเรือนเบี้ยทุกคนเป็นไท
ส่วนทาสประเภทอื่นทรงให้ลดค่าตัวเดือนละ 4 บาท นับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2448 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติป้องกันมิให้คนที่เป็นไทแล้วกลับไปเป็นทาสอีก และเมื่อทาสจะเปลี่ยนเจ้าเงินใหม่ ก็ห้ามมิให้ขึ้นค่าตัว
นอกจากนี้การเลิกทาสยังนำไปสู่การพัฒนามากมายหลายสิ่ง การผลิตเพื่อส่งออกก่อตัวขึ้นเนื่องจากมีแรงงานป้อนเข้าสู่ระบบ ทำให้ไทยสามารถเร่งปลูกข้าว จัดการค้าไม้ ทำเหมืองแร่ ส่งออกไปยังต่างประเทศ อีกทั้งยังทำให้เกิดการปรับปรุงภาษี เงินตราหมุนเวียนมากขึ้น จนเกิดธนาคารขึ้นหลายแห่งอีกด้วย
นับว่าการเลิกทาสเป็นผลสำเร็จ และเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่สำคัญไม่มีการนองเลือดเช่นประเทศที่เจริญ
อ้างอิงจาก: สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย