พิธา ควรเป็นนายกคนต่อไปหรือไม่
ขออนุญาติพูดถึงพรรคอนาคตใหม่ก่อนที่จะโดนยุบพรรค ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าเป็นพรรคมาใหม่ไฟแรงที่ช่วงหนึ่งเคยคิดจะเลือกเข้ามาบริหารเทศเหมือนกัน เพราะจากใจจริงไม่ชอบการบริหารงานที่มาจากทหารตั้งแต่แรกแล้ว จะบอกว่าไม่แดง ไม่เหลือง ไม่สลิ่ม เป็นกลางก็คงไม่มีใครเชื่อ แต่พอเมื่อย้อนดูจากการที่พรรคอนาคตใหม่ โดยยุบ ด้วย ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เป็นเวลา 10 ปี ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบ อนค. เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และมีมติให้สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ กก.บห. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ณ วันที่มีการทำสัญญากู้เงินคือ วันที่ 2 ม.ค. 2562 และ 11 เม.ย. 2562 เป็นเวลา 10 ปีผลจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ กก.บห. ทั้งหมด 16 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง แม้มี 2 คนลาออกไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม โดยในจำนวนนี้เป็น ส.ส. จำนวน 11 คน ทำให้ อนค. เหลือเสียงในสภา 65 คน จากเดิม 76 คน
สรุปง่ายๆเลยคือ ปิดฉากอนาคตใหม่ด้วยอายุการเมือง 1 ปี 4 เดือน18 วัน
สำหรับเรื่องนี้เป็นผลสืบเนื่องจากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้า อนค. ให้พรรคกู้ยืมเงิน 191.2 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมในช่วงก่อนการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นี่ถือเป็นคดียุบพรรคคดีที่ 2 ของพรรคสีส้มที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หลัง อนค. รอดจากคดียุบพรรคหนแรกไปเมื่อ 21 ม.ค. 2563 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็น "เอกฉันท์" ว่าไม่ได้กระทำการเข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่รู้จักในนาม "คดีอิลลูมินาติ" อย่างไรก็ตาม อนค. ต้องปิดฉากลงในวันนี้ด้วยอายุทางการเมืองเพียง 1 ปี 4 เดือน นับจาก กกต. ประกาศรับรองสถานะความพรรคการเมืองเมื่อ 3 ต.ค. 2561
หลังจากนั้น ก็มาสู่การเริ่มต้นพรรก้าวไกลโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สำหรับประวัตินายพิธา
พิธาก้าวเข้าสู่วงการเมืองด้วยการสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคในลำดับที่ 4 และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรกที่ลงรับเลือกตั้ง การอภิปรายครั้งแรกในสภาของเขาเรื่องนโยบายทางการเกษตรของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหา กระดุม 5 เม็ด ได้รับการตอบรับที่ดีจาก ประชาชน ผู้ชมผู้ฟังการประชุมสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงขนาดที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังเอ่ยปากชื่นชมภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ในวันที่ 8 มีนาคม พิธาก็ได้ย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกลร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อีก 54 คน โดยพิธาจะเป็นหัวหน้าพรรค อีกหนึ่งตำแหน่งที่เคยได้คือ รับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีพาณิชย์ ในรัฐบาลทักษิณ และ ที่ปรึกษารัฐมนตรีอุตสาหกรรม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ซึ่งเอาจริงๆ หลังจากนายพิธาเข้ามาบริหารในพรรคก้าวไกล ก็แทบที่จะไม่รู้จักและไม่เห็นผลงานที่ชัดเจนเป็นชิ้นเป็นอันสักที นอกจากคำพูดที่ตอบโต้ฝ่ายรัฐบาลที่อาจจะดูถูกอก ถูกใจ ในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบอนาคตใหม่สู่ก้าวไกลอยู่แล้ว ไม่เถี่ยงที่เมื่อก่อนนายธนาธร จะมีวิศัยทัศทีดี มีแนวคิดที่ฉลาด แต่แค่ตอนนี้หมดอำนาจไปแล้ว ส่วนนายพิธา ยังคงเป็นหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่เอาจริงๆ แทบจะไม่มีความสามารถความรู้ในการพัฒนาประเทศเลยด้วยซ้ำ เพราะขนาดครอบครัวตัวเองยังบริหารไม่ได้ (เคยมีคนคนกล่าวไว้ว่า เลิกเตะเมียก่อนค่อยมาสอนคนอื่น)
จากการที่เห็นการเมืองในช่วงนี้ ก็ต้องยอมรับว่ารัฐบาลบริหารไม่ได้เรื่อง โดยเฉพาะท่านนายก กับ ท่านรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งก็พลอยทำให้นักการเมืองดีๆ อีกหลายคน รัฐมนตรีดีๆ อีกหลายท่านมีปากมีเสียงไม่ได้ ไม่ใช่เพราะว่าเข้าข้างเผด็จการ แต่เป็นเพราะการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในการบริหารงานของกระทรวงต่างๆ
ย้อนกลับมาที่นายพิธา ที่มักจะเห็นออกมาตอบโต้เอาหน้าทุกครั้งที่รัฐบาลทำงานล่าช้า และบอกว่าตัวเองไม่สร้างภาพ แต่ก็ทวิตผลงานตัวเอง ลงผลงานตัวเองตลอดเวลา จะให้พูดตรงๆ เลยก็ได้ว่า นายพิธายังคงมีความรู้ความสามารน้อยที่ไม่สามารถบริหารประเทศได้ ดังฉายาที่หลายๆ คนตั้งให้ นายกโซทวิต นายกโซเชียว นายกเฟสบุ๊ค หรือ นักการเมืองสายเครม ........นั้นเอง
อันนี้ในมุมมองส่วนตัว เกิดมาจะ 40 ปี ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าปีนี้เป็นปีที่อัปยศที่สุด ปี 2564 !!!!!
อ้างอิงจาก: https://bbc.in/3hpljKe