ค้างค่าโทรศัพท์รายเดือน หรือ ค่าอินเทอร์เน็ต จะติดเครดิตบูโรหรือไม่?
เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันมากพอสมควร ว่าหากเราค้างค่าโทรศัพท์รายเดือนหรือค่าอินเทอร์เน็ต จะทำให้ติดเครดิตบูโรหรือโดนฟ้องขึ้นศาลหรือไม่ ถามในกระทู้ต่างๆ บางคนก็บอกติด บ้างก็บอกไม่เป็นไรปล่อยไปเลย อ่าว.. จะเอายังไงกันดีหล่ะเนี่ย วันนี้จึงขอเสนอบทความ เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติอย่างถูกวิธี และเป็นไปตามกฎหมาย
เราต้องแยกออกมาเป็น 2 ประเด็นก่อน คือ 1. ถ้าไม่จ่ายจะติดเครดิตบูโรหรือไม่ กับ 2. ถ้าไม่จ่ายจะโดนฟ้องศาลหรือไม่ เมื่อแยกประเด็นได้แล้ว มาดูต่อ
#ประเด็นแรก ถ้าไม่จ่ายจะติดเครดิตบูโรหรือไม่
ตอบเลยว่า ไม่ติด เพราะ บริษัทผู้ให้บริการเหล่านี้เป็นเพียงบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านโทรคมนาคม ไม่ใช่สถาบันการเงิน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งรายชื่อให้ทางเครดิตบูโรบันทึกไว้ เว้นเสียแต่ คุณจะใช้บัตรเครดิตในการจ่ายค่าบริการ ซึ่งอันนี้คุณจะโดนทางบริษัทของบัตรนั้นๆ แจ้งบันทึกเครดิตบูโรได้ หากคุณไม่ชำระยอด
สรุป ถ้าไม่จ่ายค่าโทรศัพท์รายเดือนหรือค่าอินเทอร์เน็ต ไม่ติดเครดิตบูโร
#ประเด็นที่สอง ถ้าไม่จ่ายจะโดนฟ้องศาลหรือไม่
อันนี้ถูกฟ้องแน่นอน เพราะคุณกำลังติดหนี้บริษัทผู้ให้บริการนั้นๆ อยู่ไง เขาคงไม่ปล่อยให้คุณหนีหนี้ไปฟรีๆ หรอก หากคุณไม่จ่าย ก็จะโดนฟ้องร้องเป็นคดีเพ่ง ยอดการชำระค้างจ่าย และค่าปรับเป็นเท่าไหร่ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ส่วนใหญ่หากไม่จ่ายในระยะเวลา 2 เดือน ก็จะถูกตัดสัญญานอยู่แล้ว และแม้คุณไม่ได้ใช้เบอร์นั้นในช่วง 3-4 เดือนหลัง ค่าใช้จ่ายก็ยังคงอยู่ เพราะถือว่าคุณไม่ได้แจ้งยกเลิกบริการนั่นเอง
สรุปง่ายๆ อีกครั้ง ค้างค่าโทรศัพท์รายเดือนหรือค่าอินเทอร์เน็ต ไม่ติดเครดิตบูโร แต่มีสิทธิ์ถูกฟ้องแน่นอน ทางที่ดี "มีหนี้ต้องใช้หนี้" อย่าค้างชำระเลย หากเห็นว่าค่าโทรศัพท์ หรือ ค่าอินเทอร์เน็ต มันสูงเกินไป ให้เข้าไปที่ศูนย์บริการเพื่อสอบถาม อาจจะมีโปรฯดีๆ ในช่วงเวลานั้นที่เหมาะสมกับคุณ จะได้ไม่ประสบปัญหาการค้างจ่ายค่าบริการ และถูกฟ้องร้อง