(คลิป) รวมรถ ริโก้ ซานโตส & เทโก้ เลโอ Fast & Furious คู่ซี้มหาประลัยมือระเบิดส้วม
หลังจากที่ทั้งคู่ ริโก้ ซานโตส & เทโก้ เลโอ ได้พบกับดอมที่โดมินิกัน จึงเป็นที่มาที่ไปก่อนที่เราจะเห็นทั้งคู่มาร่วมภารกิจช่วยดอมกับเล็ตตี้ และฮาน ปล้นรถบรรทุกน้ำมันตามมาด้วยการแท็คทีมกับไบรอันและมีอาช่วยกัน พาดอมหนีจากรถขนย้ายนักโทษ
และต่อมา ริโก้ ซานโตส & เทโก้ เลโอ ก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในการปล้นครั้งใหญ่ ใน Fast & Furious 5 ที่ริโอ บราซิล จนเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินก้อนโตกันไป
พวกเขาก็ไม่ได้มาช่วยทีมในภารกิจที่ลอนดอน ใน Fast & Furious 6 ภารกิจจัดการ โอเว่น ชอว์ ด้วย เมื่อไบรอันถามถึงทั้งคู่ ฮานได้บอกว่ามีคนเห็นทั้งคู่ล่าสุดอยู่ที่ คาสิโน ใน มอนติ-คาร์โล
จนเมื่อใน Fast & Furious 8 ที่ทั้งคู่ได้โผล่มาแจมด้วยการปลอมตัวเป็นตำรวจ ทำทีมาเป็นเก็บศพของ เด็คการ์ด ชอว์ เพื่อตบตาไซเฟอร์ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเถียงกันไปมาเช่นเคยว่าใครจะเป็นคนขับรถ
โดยเท่าที่ดูจากตัวอย่างใน Fast & Furious 9 ก็จะมีอยู่ภาพนึงที่เราจะได้เห็นคนที่นั่งอยู่ข้างแรมซีย์ ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็น ริโก ซานโตส ก็เป็นได้ เพราะเจ้าตัวก็เดี๋ยวอ้วนเดี๋ยวผอมยิ่งถ้าไม่ไว้หนวดเคราด้วยอาจทำให้เราจำเขาไม่ได้ และคิดว่าเป็นตัวละครใหม่
หรืออาจจะนำเอาหนุ่มแรปเปอร์นักแสดงรับเชิญอย่าง โอซูนา ที่อาจจะมารับบทเป็น ริโก ซานโตส ในช่วงวัยรุ่นก็เป็นได้ แต่อะไรก็ไม่แน่นอน เพราะผู้กำกับจัสตินลิน อาจจะจัดให้โผล่มาเซอร์ไพรส์คนดูในบางฉากหรือเป็นการเอ่ยถึงทั้งคู่ ว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน หรือก็อาจโคจรไปโผล่ในอีกภารกิจสำหรับ Fast & Furious 10 เลยก็เป็นได้
ซึ่งในชีวิตจริงทั้ง ดอน โอมาร์ และ เทโก คัลเดรอน ต่างก็เป็นศิลปินเพลงแร็ปชาวเปอร์โตริโก แถมผลงานเพลงของพวกเขาก็ติดหูดังระเบิดระเบ่อ เช่น Bandoleros และเพลง Danza Kuduro ก็ยังได้ถูกใช้ในซาวด์แทร็คของหนัง Fast หลายๆ ภาคอีกด้วย อาทิ Fast & Furious 3 : Tokyo Drift ,Fast & Furious 4 และ Fast & Furious 6
โดยหารู้ไม่ว่า ดอน โอมาร์ นั่นมีความฝันในวัยเด็กว่าอยากเป็นนักแข่งรถ เพราะพ่อของเขาเป็นช่างซ่อมรถยนต์ เขาจึงได้ถูกปลูกฝังความรักที่มีต่อรถยนต์มาด้วย แต่เนื่องจากในวัยเด็กที่บ้านมีฐานะยากจน
และความฝันของเขาก็ไม่ได้รับการสานต่อ จนเมื่อเขาเข้าสู่วงการเพลงก็ประสบความสำเร็จถล่มทลายตั้งแต่อัลบั้มแรก The Last Don ปี 2003 ซึ่งความสำเร็จนี้ส่งผลให้ชีวิตของเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือจากลูกชายช่างซ่อมรถธรรมดาไปสู่ศิลปินมหาเศรษฐี
จนเขาสามารถซื้อบ้านมูลค่า 1.3 ล้านดอลลาห์สหรัฐ รวมถึงสายฝันวัยเด็กด้วยการซื้อรถหรู อาทิ Bentley (เบนลี่ย์) 2 คัน และรถ Cadillac Escalade (คาดิลแลค เอสคาเลด) อีก2 คัน รวมถึงรถแข่งอีกกว่า 4 คัน
ซึ่งการร่วมเล่นภาพยนต์ Fast & Furious ได้ส่งผลให้ดอน โอมาร์ หวนกลับมาเป็นนักแข่งรถอาชีพอีกครั้งในปี 2010 รวมถึงเขายังได้รับใบอนุญาตการแข่งขัน Drag Racing (แดร็กเรซซิ่ง) ก่อนที่จะถ่ายทำ Fast & Furious 5 ปี 2011 เพียงไม่กี่วัน
โดยรถแข่งคันแรกของเ ขาก็คือ Chevrolet Nova ปี 1967 และเขาได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็กด้วยการกลับไปศึกษาสาชาช่างยนต์ก่อนจะไปเข้าโรงเรียนสอนขับรถ Nascar (นาสคาร์) ในวัย 35 ปี และเขายังเป็นอีกคนที่คลั่งไคล้ในความเร็วมาก ซึ่งในชีวิตจริงเขาเคยเหยียบทะลุ 300 กม./ชม.มาแล้ว
ว่าแล้วก็ลองไปชมรถที่เพื่อนซี้คู่นี้เคยใช้เคยขับเคยมีบทบาทร่วม ว่ามีรุ่นอะไรกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย
รถคันแรกที่เราจะได้เห็นเขาทั้งคู่ใช้ก็คือ Chevrolet R3500 Crew Cab ปี 1989 ในฉากปล้นรถบรรทุกน้ำมันใน Fast & Furious 4 ซึ่ง เทโก้ ลีโอ จะเป็นผู้ขับ และมี ริโก้ ซานโตส เป็นผู้อยู่ท้ายรถคอยปล่อยตัวพ่วงลากจูงเพื่อเชื่อมระหว่างรถกระบะและเทรลเลอร์ถังน้ำมัน
โดย Chevrolet R3500 Crew Cab ปี 1989 มาพร้อมเครื่องยนต์ Bigblock เบนซิน 9.4 ลิตร V8 GM454 เกียร์ธรรมดา 4 สปีด ซึ่งมันยังได้ผ่านการแต่ง Custom ในส่วนท้ายรถ รวมถึงยังได้ผ่านการโมดิฟายให้ 4 ล้อหลังขับเคลื่อนพร้อมกัน เพื่อเอาไว้สำหรับลากจูงของที่มีน้ำหนักมาก
ซึ่งคาดว่ามันจะมีพลังถึง 672 แรงม้าเลยทีเดียว และยังทวีความแรงยิ่งขึ้นถ้าใช้ร่วมกับ NOS อีก2 ถังที่ติดตั้งอยู่ท้ายรถ
และในช่วงท้ายเรื่อง Fast 4 และในต้นเรื่อง Fast & Furious 5 ในฉากที่ไบรอันและมีอาขับรถไปช่วยดอมจากรถขนย้ายนักโทษ ริโก้ ซานโตส & เทโก้ เลโอ ก็ได้ขับเจ้า Pontiac Firebird Trans Am ปี 1978 ประกบรถของไบอันและมีอา ตามมาติดๆ
โดย Pontiac Firebird Trans Am เป็น pony car แบบหนึ่งที่ Pontiac ผลิตมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ปี 1967-20 02 มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.6 ลิตร เกียร์ manual 4 สปีด 223 แรงม้า ที่ 4000 รอบ/นาที และแรงบิด 435 นิวตันเมตร ที่ 2800 รอบต่อนาที
เมื่อเข้าใกล้ๆ เข้าสู่กลางเรื่อง Fast & Furious 5 ดอมได้เรียกระดมทีมเพื่อทำภารกิจใหญ่อีกครั้ง กับการปล้นเงินเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ที่สุด เฮอแนน เรเยส ที่ริโอ บราซิล
เมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงบราซิล ริโก้ ซานโตส & เทโก้ ลีโอ ยังได้เจอและรู้จักกับ โรมัน, เทจ,จีเซล เป็นครั้งแรกในภารกิจนี้ แถมยังประชันคารมใส่กัน ชนิดไม่มีใครยอมใคร
จนเมื่อถึงฉากที่ทั้งคู่ต้องมาเฝ้าสังเกตการณ์ในจุดที่ 1 เพื่อดูว่าลูกน้องของ เฮอแนน เรเยส จะเริ่มเคลื่อนย้ายขนเงินไปรวมกัน ทั้งคู่ก็ได้เลือกใช้รถตู้ Ford Econoline ปี 1989 สีดำขับตามไป
และเมื่อถึงฉากที่ ริโก้ ซานโตส & เทโก้ ลีโอ แอบไปวางระเบิดในท่อน้ำทิ้ง จนห้องน้ำในกรมตำรวจระเบิดเละไปด้วยอุนจิ จนทั้งคู่สามารถปลอมตัวเป็น ช่างซ่อมเข้าไปในกรมตำรวจเพื่อเจาะผนังแอบจั้มสายเพื่อให้คอมที่มีอาใช้สามารถเข้าถึงกล้องวงจรปิดของกรมตำรวจได้สำเร็จ
กลับมาที่ รถตู้ Ford Econoline ปี 1989 คันเดิมในฉากที่ทีมซิ่งเตรียมการออกไปลุยตามแผน ซึ่งเราจะเห็น ริโก้ ซานโตส แต่งชุดยูนิฟอร์มช่างซ่อมสีฟ้าแบบที่เข้าไปซ่อมห้องน้ำในกรมตำรวจอีกครั้ง และขับตามรถตำรวจ Dodge Charger ปี 2011 ของฮานออกไป
จนเข้าสู่กลางเรื่อง ริโก้ ซานโตส ก็ได้ขับ Toyota Supra Mk.IV ปี 1993 JDM สีดำ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2JZ GTE ต่างจากเคื่อง 1J ตรงที่เพิ่มความจุอีก 500 ซีซี กลายเป็นเครื่อง 3000 Twin-Turbo 276 แรงม้า เร่ง0-100 ได้ใน 4.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 285 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ซึ่งคำว่า JDM นั่นย่อมาจากคำว่า (JAPAN DOMESTIC MARKET) ซึ่งก็คือ การนำเอารถยนต์ที่มีจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น มาแต่งสไตล์ JDM หรือ การทำให้รถที่มีจำหน่ายอยู่ในประเทศนั้นๆ แปลงร่างเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นสไตล์การแต่งที่ได้ความนิยมในบ้านเราอย่างมาก
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนไทยชอบแต่งสไตล์นี้น่าจะมาจากพื้นฐานรถยนต์ในบ้านเรามีสเปคที่ใกล้เคียงกับญี่ปุ่น ความสนุกของการแต่งรถแนวนี้คือการได้ตามหาอะไหล่ต่างๆที่บางชิ้นจัดเป็นแรร์ไอเทม (Rare Item) ไปแล้ว
ยิ่งหายากยิ่งมีค่าทั้งทางจิตใจและมีมูลค่าสูง ใครหาได้มาถือว่าเทพ ตรงนี้แหละคือไฮไลท์ที่ทำให้การตกแต่งรถสไตล์ยุ่นเป็นที่นิยมมาโดยตลอด เพราะไม่ใช่แค่มีเงินจะแต่งได้ แต่ต้องมีความพยาย ามในการไล่ล่าหาของกันอีกด้วย
ในขณะที่ เทโก้ เลโอ ได้ขับ Nissan หรือ Z34 ปี 2009 โดยสังเกตได้จากตัวอีกษรเบาะด้านหลังยี่ห้อ OMP ตัวเดียวกับสาวจีเซลขับ ในฉากการจำลองการซิ่งขับรถหลบมุมกล้อง CCTV ในสถานีตำรวจ
โดย Nissan 370Z คันนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.6 ลิตร เดิมๆ จากโรงงาน ให้กำลังสูงสุด 335 แรงม้า และขับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งในหนัง 370Z คันนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ดูเหมือนว่ามีชุดเทอร์โบซึ่งมีอินเตอร์คูลเลอร์ปลอมอยู่ด้านหลังกันชนและขวด NOS ที่ด้านหลังที่นั่ง
และที่ไม่พูดถึงเห็นทีจะไม่ได้สำหรับเจ้า Nissan 370Z ที่มีความพิเศษอยู่ตรงที่มันเป็นรถคันที่ 21 จากคอลเล็กชั่น Paul Walker ได้สะสมเอาไว้ โดยรถมีลักษณะเดียวกับใ นภาพยนตร์ มาพร้อมกับชุดพาร์ทรอบคัน
แต่จะแตกต่างกันที่ล้อสีดำ และฝากระโปรงหน้าแบบคาร์บอนไฟเบอร์ โดยมันถูกนำมาประมูลในปี 2020 ที่งานประมูล Barret-Jackson Scottsdale ที่จัดขึ้นที่ Palm Beach ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา จบไปที่มูลค่า 105,600 ดอลลาร์ฯ (ราว 3.2 ล้านบาท) สร้างสถิติเป็น 370Z ที่แพงที่สุดตั้งแต่มีการประมูลมา!
และปิดท้ายกันด้วยคันสุดท้ายที่ถึงแม้ว่าทั้ง ริโก้ ซานโตส & เทโก้ ลีโอ จะไม่ได้ขับแต่ก็มีบทบาทร่วมกับเจ้ารถคันนี้ก็คือ รถขนขยะ รุ่น Mack MR เพื่อช่วยอำพรางสับเปลี่ยนตู้เซฟจริงกับตู้เซฟปลอมร่วมกับ สาวจีเซล ที่เป็นคนขับ
โดยทั้งคู่ได้ช่วยกันเกี่ยวสลิงตู้เซฟปลอมเข้ากับรถ Dodge Chartger SRT 8 ปี 2010 ของดอมและไบรอัน ที่ใต้สะพาน เพื่อหลอก ตำรวจบราซิล และฮ็อบส์
โดย Mack MR มาพร้อมหัวเก๋งสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ก่อสร้างและทำเป็นรถบรรทุกขยะ มีการจัดเรียงล้อตั้งแต่ 4 × 2 ถึง 12 × 8 และน้ำหนักรวมสูงถึง 35.4 ตัน เครื่องยนต์ที่มีความจุ 253-355 แรงม้า
ก่อนจากกันไปช่วย Comment บอกเรากันหน่อย ว่าคุณอย่างเห็น คู่ซี้ ริโก้ ซานโตส & เทโก้ ลีโอ มาทำภารกิจอะไรที่โหดระห่ำกว่าการระเบิดส้วมอีก