หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความอบอุ่นในครอบครัวเกิดจากการสื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมา

เนื้อหาโดย blogescape

สำหรับสังคมยุคใหม่ ที่ผู้คนต่างได้รับข้อมูลข่าวสารได้อย่างไม่จำกัดทั้งเวลา สถานที่ และวัย

จะเห็นได้ว่าผู้สูงอายุในยุคดิจิตอลสามารถสื่อสารกับลูกหลานผ่านโลกไร้สายได้อย่างคล่องแคล่วกว่าเมื่อ10 ปีที่ผ่านมามาก 

ผมยังจำได้ว่าพ่อของผมปฏิเสธโทรทัศน์ที่ใช้รีโมทคอนโทรล เพราะความไม่คุ้นเคยและกลัวว่าจะกดปุ่มผิดแล้วทำให้โทรทัศน์พัง

ต่อมาก็กลายเป็นว่าพ่อรู้จักปุ่มบนรีโมทคอนโทรลดีกว่าผมเสียอีก เพราะกดผิดกดถูกจนได้เรียนรู้ว่าปุ่มไหนใช้ทำอะไร กดแล้วจะเป็นอย่างไร

 

เมื่อคนยุคนี้เข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมก็ถูกเผยแพร่ออกมาให้เราได้เรียนรู้ได้อย่างไม่จำกัด ทั้งยังรวดเร็วกว่าเดิมหลายเท่า

แม้ว่าพ่อจะใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็นแต่ทีวีสมัยนี้ก็กลายเป็นระบบดิจิตอลไปแล้ว ดังนั้นข่าวสารในทีวีที่มีช่องจำนวนมากจึงถูกส่งมาถึงพ่อได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

คนในยุคดิจิตอลจะไม่รู้สึกแปลกอะไรกับการแสดงความรักกับคนในครอบครัวด้วยการกอด ด้วยการหอม

หรือแม้กระทั่งการบอกกันตรงๆว่า "รักพ่อนะ" "รักแม่นะ" "พ่อกับแม่ก็รักลูกมากนะ"

เพราะเรื่องอย่างนี้มีแบบอย่างให้เราได้เรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะมาจากข่าวสาร ละคร ซีรีส์ หรือรายการทอล์คโชว์ต่างๆก็ตาม

ถ้าใครที่เสพสื่ออย่างวิเคราะห์ พินิจพิจารณา มองหาแง่มุมที่เป็นประโยชน์ ก็จะได้ข้อคิดว่าการแสดงออกถึงความรู้สึกต่อคนในครอบครัวส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแน่นแฟ้นภายในครอบครัวอย่างมาก

ถึงแม้ว่าความรู้สึกที่แสดงออกมาจะเป็นอารมณ์ที่เป็นไปในทางลบ เช่นโกรธ ไม่พอใจ หรืองอน ก็ตาม

แต่มันก็เป็นการสื่อสารแบบตรงไปตรงมาให้คนในครอบครัวได้รู้ได้เข้าใจว่าเรารู้สึกอย่างไร

แล้วจะตอบสนองอย่างไรกับความรู้สึกนั้นมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่มันจะง่ายขึ้นเพราะคนในครอบครัวไม่ต้องมัวมานั่งเดากับอารมณ์ที่ถูกเก็บงำซ่อนเร้นเอาไว้ในใจ

แล้วก็เอาแต่พูดว่า "ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างโอเค"

ขอออกนอกเรื่องเล่าเรื่องส่วนตัวสักเล็กน้อย สมัยที่ผมยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เพื่อนๆอาจไม่เชื่อว่าผมไม่กล้ายกมือไหว้พ่อกับแม่ของตัวเอง

ความรู้สึกในตอนนั้น ผมยังจำได้ดีไม่เคยลืม

มีอยู่วันหนึ่งคุณอาของผมซึ่งเป็นอาจารย์ ท่านมาบังคับให้ผมไปไหว้สวัสดีพ่อกับแม่ก่อนจะไปโรงเรียนตอนเช้า

ซึ่งตั้งแต่เกิดมาผมก็ไม่เคยทำ แบบนั้นและพ่อกับแม่ก็ไม่เคยสอนให้ทำแบบนั้นด้วย

ความรู้สึกคือผมรู้สึกชาไปทั้งตัว ทำอะไรไม่ค่อยถูก มีความรู้สึกเหมือนมือมันหนักยกไม่ขึ้น ใบหน้าก็ร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย

ต่างจากตอนที่อยู่ที่โรงเรียนโดยสิ้นเชิง เพราะเมื่อเดินสวนกับอาจารย์ในโรงเรียนผมก็จะยกมือไหว้อาจารย์เป็นเรื่องปกติ พร้อมกับทักทายอย่างเป็นกันเองอีกด้วย

แต่ทำไมกับพ่อกับแม่มันจึงรู้สึกฝืนใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าไม่เคารพหรือไม่อยากไหว้ แต่มันไม่คุ้นเคยจริงๆ ทั้งเราและพ่อแม่จะทำตัวกันไม่ถูก และคงจะเขินน่าดู

พอลองมานึกดูมันก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างเรากับพ่อแม่มีน้อย

พ่อกับแม่ต้องทำงานหนักตลอดทั้งวัน ไม่ค่อยได้มีเวลามานั่งพูดคุยกับลูกๆ เรื่องเล่นด้วยกันยิ่งไม่เคยมี เรื่องเที่ยวด้วยกันก็แทบไม่มีเช่นกัน

มันจึงทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นมาระหว่างเราในครอบครัว

ปัญหาที่เราเจอเราก็คงไม่เล่าให้พ่อกับแม่ฟัง เพราะถ้าพ่อกับแม่เหนื่อยเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา เดี๋ยวก็จะพาลโดนด่าเสียเปล่าๆ

สู้เราอยู่นิ่งๆ เงียบๆเข้าไว้ คงจะดีกว่า ไม่หาเรื่องใส่ตัว

และนี่ก็คือต้นเหตุของปัญหาของ "เด็กเก็บกด" ที่คนเก็บกดเองก็จะไม่มีทางรู้ตัวเลยจนกว่าจะแสดงอารมณ์ก้าวร้าวฉุนเฉียวออกมาให้คนรอบข้างและตัวเองสังเกตเห็นความผิดปกติของพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก

แล้วจะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อยากจะแก้ไขอารมณ์ฉุนเฉียว ก้าวร้าวของตัวเองนี่แหละ เพราะก่อนจะแก้ก็ต้องสาวหาสาเหตุให้เจอเสียก่อนจึงจะแก้ได้ตรงประเด็น

ดังนั้นความรักความผูกพันในครอบครัว ที่เราเข้าใจว่ามี ความจริงแล้วมันอาจจะไม่ได้มีอยู่จริงก็ได้

แน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนก็ต้องรักและเป็นห่วงเป็นใยลูก และลูกเองก็ต้องรักและไม่อยากเห็นพ่อกับแม่เหนื่อยและเครียดจากการทำงานเช่นกัน

บางครั้งก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่บ้าง

แต่อีกฝ่ายจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นห่วงถ้าเราไม่พูดออกไปตรงๆหรือแสดงออกให้เห็นเป็นการกระทำอย่างตรงไปตรงมาเลยสักครั้งเดียว

แนะนำให้พูดออกไปเลย ถ้าหากว่าเรารู้สึก "เป็นห่วง"

พูดให้เขารู้ไปเลย ถ้าอยากให้รู้ว่า เรา "คิดถึง"

หรือพูดออกไปเลย แม้จะรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างมันไม่ค่อยโอเค

เพื่อที่ว่าอีกฝ่ายจะได้เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของเรา อย่ามัวแต่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้

เอาแต่พูดว่า "ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี" แต่ความจริงอีกฝ่ายเขาก็อยากรู้ว่าเราทำอะไรบ้าง ที่ไหน อย่างไร

เพียงแต่บางทีคุณพ่อก็เก็กมาดเข้ม ขรึมให้ลูกๆกลัว คุณแม่ก็บ่นทุกเรื่องไม่ยอมหยุด บ่นจนลูกๆหูชา

สุดท้ายก็เลยไม่เคยได้บอกรักลูกเลยสักที

อยากบอกคุณพ่อคุณแม่ทุกคนนะครับว่า ลูกทุกคนเขาอยากได้ยินคำว่า "รัก" จากปากพ่อกับแม่ ใจจะขาด

มันก็เป็นแค่คำธรรมดาๆนี่แหละแต่มันมีความหมาย ให้ความรู้สึก "โคตรดีต่อใจ" เอามากๆ

ส่วนคุณลูกก็อย่าลืมบอกพ่อกับแม่ว่าคิดถึงบ้างนะครับ เพราะหัวใจของพ่อแม่ก็อ่อนล้าเป็นเหมือนกัน เวลาเจอกับปัญหาเรื่องงาน เรื่องเศรษฐกิจรุมเร้า ท่านก็ย่อมหมดแรงบ้างเป็นธรรมดา

คำว่า "เป็นห่วง" จากปากของคุณลูกนี่แหละ เป็นเหมือนยาชูกำลังที่ช่วยให้พ่อกับแม่ได้มีแรงต่อสู้กับปัญหาต่อไปได้อีกนาน

อย่าลืมแสดงออกถึงความรู้สึกต่อคนในครอบครัวแบบตรงไปตรงมาบ่อยๆนะครับ มันจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น

และจะช่วยให้บ้านเราอบอุ่นและน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยครับ

เนื้อหาโดย: blogescape
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
blogescape's profile


โพสท์โดย: blogescape
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (5/5 จาก 4 คน)
VOTED: fangthanatchaya, adoodee, topdm, blogescape
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ไข่ผำ" พืชจิ๋ว ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก"กองปริศนา" ปริศนาของเวทมนตร์ที่อาจอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ไข่ผำ" พืชจิ๋ว ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากคลังฟันธง! "ดิไอคอน" เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ต้องครบ 3 เงื่อนไข ร่วมวง DSI สรุปสำนวนคดี"กองปริศนา" ปริศนาของเวทมนตร์ที่อาจอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดใครบอกว่า สัตว์น้ำไม่นอน วาฬนอน พิสูจน์ว่าปลาก็นอนเหมือนเรา8 อาชีพยอดนิยมสำหรับปี 2025
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
โหดจัด!! หญิงญี่ปุ่นแทงหนุ่มคู่อริด้วยกรรไกร หลังทะเลาะวิวาท และถ่ายคลิปดูเขาร้องขอชีวิตอย่างเลืยดเย็น 😖ถนนยุงกัส เส้นทางสุดหวาดเสียวแห่งโบลิเวีย ถนนแห่งความตายที่นักท่องเที่ยวต้องลอง!เด็กน้อยขับมอเตอร์ไซต์พาน้องมาซื้อของ ขาไม่ถึงแต่ใจถึง งานนี้เป็นห่วงแทน 😌5 บุคลิกภาพ ที่จะทำชีวิตคุณพัง!!
ตั้งกระทู้ใหม่