ไต่หน้าผาล่ารังผึ้งยักษ์หิมาลัยภารกิจเสี่ยงตายสุดท้าทายของชาวเขาเนปาล
การเก็บรังผึ้งบนต้นไม้เป็นงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการเก็บรังผึ้งป่าบนต้นไม้สูงในป่าลึกจะยิ่งท้าทายความสามารถเพราะหากพลาดอาจถูกผึ้งต่อยตกต้นไม้ตายหรือถูกผึ้งรุมต่อยจนบาดเจ็บสาหัสก็มีปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับชาวเขาแถบภูเขาหิมาลัยการเก็บรังผึ้งบนต้นไม้กลายเป็นเรื่องเด็กๆไปเลยเพราะการเก็บรังผึ้งของพวกเขาต้องไต่หน้าผาหินบนยอดเขาสูงลิบเพื่อไปเอารังผึ้งขนาดใหญ่มากและมีน้ำผึ้งชนิดพิเศษอันเป็นภารกิจที่เสี่ยงตายและท้าทายมากกว่ากันหลายเท่านัก
ผึ้งสายพันธุ์ Apis laboriosa หรือที่เรียกกันว่า Himalayan giant honey bee เป็นผึ้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตัวโตเต็มที่อาจยาวได้ถึง 3 เซนติเมตรซึ่งใหญ่กว่าผึ้งหลวงที่ถือว่าตัวโตที่สุดในประเทศไทยเกือบเท่าตัว ผึ้งชนิดนี้ทำรังที่ระดับความสูง 2,500 – 3,000 เมตร มันจะสร้างรังรูปพระจันทร์เสี้ยวขนาดใหญ่มากบางรังยาวถึง 1.8 เมตรแขวนอยู่ใต้เพดานหินที่ยื่นออกมาของหน้าผาแนวตั้ง รังหนึ่งสามารถบรรจุน้ำผึ้งได้มากถึง 60 กก. จากพฤติกรรมการทำรังที่แปลกประหลาดนี้บางครั้งพวกมันจึงถูกเรียกว่า “ผึ้งหน้าผาหิมาลัย” (Himalayan cliff honey bee)
ผึ้งหน้าผาหิมาลัยสามารถหาอาหารได้ถึงระดับความสูง 4,000 เมตร น้ำผึ้งจากรังของพวกมันมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับฤดูกาลและระดับความสูงของดอกไม้ที่ผลิตน้ำหวานให้พวกมันกิน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิพวกมันจะพาไปกินน้ำหวานของดอกกุหลาบพันปี (Rhododendron) สีแดงสดที่กำลังบานสะพรั่งระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายนบนเนินเขาตลอดหุบเขา Hongu ของประเทศเนปาล สารพิษจากดอกกุหลาบพันปีส่งผลให้น้ำผึ้งมีฤทธิ์ทางจิตประสาทของผู้ที่ได้ดื่มกินให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มเมามายจนถูกเรียกว่า “น้ำผึ้งเมา” คนทั่วไปกินเข้าไปเพียง 2 – 3 ช้อนชาอาจทำให้ฟิน (เมา) ไปเป็นวันและนั่นทำให้มันเป็นที่ต้องการและมีราคาสูงถึง 5,000 บาท/กก. หรือราว 6 เท่าของราคาน้ำผึ้งทั่วไปในเนปาล
ชาวเขาเผ่า Kulung ทางตะวันออกของประเทศเนปาลมีความผูกพันกับผึ้งหน้าผาหิมาลัยมาอย่างยาวนาน พวกเขาใช้น้ำผึ้งเป็นยาแก้ไอและยาฆ่าเชื้อมานานหลายศตวรรษ นอกจากนี้ยังใช้ขี้ผึ้งสำหรับการหล่อรูปปั้นสำริดของเทพเจ้าและเทพธิดากันอย่างแพร่หลาย ชาว Kulung จึงมีความเชี่ยวชาญและสืบทอดกรรมวิธีเก็บรังผึ้งหน้าผาหิมาลัยมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับพวกเขาแล้วการไต่หน้าผาไปล่ารังผึ้งเป็นทั้งเกมกีฬาและอาชีพ แต่คนที่จะเป็นนักล่ารังผึ้งยักษ์หิมาลัยจะต้องมีร่างกายแข็งแรงและได้รับการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญในเทคนิคการไต่เขาเข้าไปเอารังผึ้งและที่ขาดไม่ได้ก็คือเวทมนตร์คาถาที่จะใช้กำราบมิให้เจ้าของรังทำร้ายเอาได้
เมื่อถึงฤดูเก็บรังผึ้งซึ่งมีเพียงปีละ 2 ครั้งทีมล่ารังผึ้งต้องเดินไต่เขาสูงชันขึ้นไปจนถึงยอดหน้าผาก่อนจะหย่อนบันไดเชือกแล้วไต่ลงไปหารังผึ้งพร้อมกับเครื่องมือสำคัญคือลำไม้ไผ่ขนาดยาวกว่า 8 เมตร เมื่อลงมาใกล้กับรังผึ้งนักล่าจะสุมควันไฟใช้ลำไผ่แหย่ไปที่รังผึ้งเพื่อไล่ให้ผึ้งบินออกจากรัง จากนั้นจึงทำการตัดเอารังผึ้งออกมาใส่ภาชนะที่ผูกเชือกสำหรับดึงขึ้นไปโดยใช้ลำไผ่เป็นเครื่องมือสำคัญ งานทั้งหมดนี้ต้องทำในขณะยืนบนบันไดเชือกห้อยอยู่ในอากาศสูงหลายร้อยเมตรท่ามกลางผึ้งยักษ์นับพันที่บินว่อนอยู่รอบตัวซึ่งหากพลาดตกลงไปคือตายสถานเดียว การเก็บรังผึ้งหน้าผาหิมาลัยเป็นงานเสี่ยงตายสุดหินจึงมีนักล่าอาชีพเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ปัจจุบันการเก็บรังผึ้งหน้าผาหิมาลัยกลายเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าร่วมทริปชมวิถีชีวิตชาว Kulung และร่วมอยู่ในบรรยากาศการล่ารังผึ้งที่น่าตื่นเต้นหวาดเสียวลุ้นระทึกสุดขีดที่หาชมได้ยากมาก รวมทั้งได้ลิ้มรสและฟินกับน้ำผึ้งเมาอย่างจุใจ หากสนใจจริงๆคุณจะต้องเตรียมเงินค่าทริปนี้ถึงราว 3,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว แต่ตอนนี้คุณสามารถชมการเก็บรังผึ้งหน้าผาหิมาลัยได้ในวิดีโอข้างล่าง
ถ้าชอบเรื่องเเนวนี้ช่วย กดดาว กดเเชร์ เเละติดตามผมด้วยนะครับ
เดียวจะหาอะไรเเปลกๆมาให้ชมกันเลื่อนครับ
" ขอบคุณครับ "