ทำไมคู่รักที่ทะเลาะ ถึงคบกันได้นาน?
หากใครที่เคยมีความรักหรือมีความรักอยู่ ต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า คนเราหากรักกันและมาคบกันแล้ว ไม่มีคู่ไหนไม่ทะเลาะกัน ไม่ว่าจะด้วยในเรื่องของนิสัยใจคอ หรือแม้กระทั่ง สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน หรืออื่นๆ ที่อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดการทะเลาะกันขึ้นมาได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ
เพราะมนุษย์เราต่างพ่อต่างแม่ ต่างนิสัย ต่างความคิด มันก็ไม่แปลกที่จะทำให้คนที่อยู่ร่วมกันหรือคบหากันทะเลาะกันได้
แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมบางคู่ทะเลาะกันถี่และบ่อยมาก ทำไมยังไม่เลิกกันสักที ? หรือบางคู่ เห็นทีไรก็ทะเลาะกันตลอด ทำไมถึงคบกันได้ยาวนานขนาดนั้น
และแอดได้ไปอ่านเจอในเวปนึงมาค่ะ เค้าได้บอกว่า มีผลจากการสำรวจชิ้นหนึ่งพบว่า คู่รักที่ทะเลาะกัน มีแนวโน้มที่จะมีความสุขในความสัมพันธ์มากกว่าคู่รักที่ไม่ทะเลาะกันมากถึง 10 เท่า OMG !! 😱😱
ใช่ค่ะ !! คุณอ่านไม่ผิด ตอนนี้หลายๆครคงจะสงสัยว่า เฮ้ย ! เป็นไปได้ยังไง คนทะเลาะกัน ความเห็นไม่ตรงกัน ทะเลาะกันบ่อยๆ ก็ต้องไม่มีความสุขสิ จริงไหมคะ ? 😅
ผลสำรวจได้บอกอีกว่า การที่คู่รักทะเลาะกันนั้น หลังจากที่ทะเลาะแล้วได้เกิดการพูดคุยกัน จะทำให้ต่างฝ่ายต่างเปิดเผยความคิดและแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างตรงไปตรงมา และแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน จึงทำให้เกิดผลที่ดีตามมา นั่นคือต่างคนต่างเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น การทะเลาะแบบนี้ เค้ามองว่า เป็นการทะเลาะที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนคู่รักที่ทะเลาะกันแล้วเลิกนั้น ผลการสำรวจบอกว่า ร้อยละ 80 ระบุว่าความสัมพันธ์ที่บ้มเหลวของพวกเขา เกิดมาจากการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ Joseph Grenny นักวิทยาศาสตร์สังคมเค้าได้ไขข้อสงสัยนี้ว่า " มีคู่รักหลายๆคู่ที่มักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยกัน โดยเฉพาะในประเด็นที่ดูอ่อนไหว เพราะคิดว่าหากพูดไปนั้น ก็ไม่แคล้วจะต้องทะเลาะกันแน่ๆ และจะได้คบกันนานๆ "
และเขายังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ความผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งที่มนุษย์เรามักจะไม่รู้ คือ เราไม่เข้าใจการรับผิดชอบต่อความรู้สึกของตนเอง เช่น บางครั้งเราทำให้คนรักของเรางอน หรือไม่พอใจอะไรบางอย่าง ทั้งที่บางครั้งเราอาจทำไปโดยที่ไม่รู้ตัว แต่คนรักกลับอยากให้เรารู้ตัวและเข้าใจได้เองว่าสิ่งนั้นมันผิด
อย่างไรก็ตาม การทะเลาะกันไม่ได้หมายความว่าจะต้องด่าทอ พูดคำหยาบ หรือพ่นคำพูดร้ายๆหรือรุนแรงทำร้ายจิตใจกัน แต่หมายถึงการทะเลาะที่สามารถบอกสิ่งที่ตนเองไม่พอใจอย่างเป็นเหตุเป็นผล พร้อมๆกับเปิดใจรับฟังอีกฝ่ายด้วยนะคะ