Test Drive ครั้งแรกในชีวิตกับ BMW X1 ที่ BMW อมรเพรสทีจ
สวัสดีค่ะ การตั้งกระทู้นี้เป็นการอยากบอกเล่าประสบการณ์ในการเทสไดร์ครั้งแรกในชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยไปเทสไดร์มาก่อนเลย เพราะรถที่ใช้ปัจจุบันก็เป็นรถยนต์ของที่บ้าน ซึ่งเป็นรถญี่ปุ่น แต่วันนี้มีโครงการที่อยากจะสร้างสมบัติของตนเองสัก 1 ชิ้น BMW ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สนใจ แล้วจากการปรึกษาคนรอบข้างคนรอบตัว เขาบอกว่าเรื่องราคาไม่ต้องพูดถึงที่ไหนก็ได้ราคาใกล้เคียงกันหมด ดังนั้นควรที่จะเลือกศูนย์บริการที่บริการดีดีจะดีกว่า แล้วเขาก็แนะนำให้มาที่ศูนย์ BMW อมรเพรสทีจ ค่ะ
แต่! คนแนะนำไม่ได้บอกว่า ศูนย์อยู่ที่ไหน เลย Google ดูเขาบอกมี 2 สาขา มีที่รังสิต กับรัชดา เนื่องจากที่ศูนย์นี้สะดวกต่อการเดินทางของเราจึงเลือกมาที่สาขารัชดาดีกว่า
การเดินทางไม่ยากศูนย์บริการฯ อยู่ที่ ถนนรัชดา แต่ก็หลงไป 1 ที ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปตรงที่เป็นศูนย์ซ่อมซะงั้น ก็ว่าทำไมพี่ รปภ. ถึงงงๆ เพราะตอนที่ขับเข้าไปเอารถยี่ห้ออื่นเข้าไป เราก็เริ่มงง พี่เขาก็เริ่มงง แต่สุดท้ายเขาก็ตะเบ๊ะให้ 1 ที พร้อมกับพูดจาไพเราะมาก “
มารับรถหรือครับ!!
“ป่าวค่ะ จะมาดูรถ” เขาเลยบอกว่า
“ต้องไปที่โชว์รูมครับ ขับเลยตรงไปหน่อยก่อนถึงปั๊ม.......ก็จะถึงครับ”
จากนั้นพวกเราและชาวคณะก็ขับมาถึงโชว์รูปตามคำบอกกล่าวของพี่ รปภ.BM
จากนั้นก็ได้รับการต้อนรับอย่างดิบดีจากพี่เซลล์ ตอนที่เข้าไปตอนแรกก็งง ทำไมโชว์รูปไม่มีรถโชว์ ปรากฏว่าต้องกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนของโชว์รูม พี่เซลล์ปล่อยให้เราชมรถ BMW ในรุ่นต่างๆ ซึ่งทางเราก็ได้ทำการบ้านมาแล้วในระดับหนึ่ง รุ่นรถที่เราสนใจก็คือ X1 ด้วยรูปทรงเป็นที่ต้องตาต้องใจมากแล้วอยากจะมาลองขับสักหน่อย
จึงทำการแจ้งความประสงค์กับทางพี่เซลล์ ถ้าจะเทสไดร์จะได้ไหม เหมือนโชคจะเข้าข้างที่วันนี้มีรถเทสว่างอยู่ 1 คันพอดี อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่เราไปเป็นเวลาเช้าด้วย เราเลยไปเทสกัน
การเทสไดร์จะมีพี่จีเนียส (เรียกแบบนี้หรือป่าวไม่แน่ใจ) ที่จะคอยให้คำแนะนำการใช้รถ ระบบต่างๆ นั่งไปกับพวกเราด้วย
แต่ไม่ทราบว่าวันนี้เป็นบุญหรือบาปกรรมที่เราทำไว้ ฝนตกตอนเทสค่ะ
ทำให้เรามีโอกาสได้ใช้ที่ปัดน้ำฝน และเทสสมรรถนะในการขับขี่ระหว่างที่ฝนตก ในระหว่างที่เรากำลังเทสไดร์กันไปตามทางนั้นเหตุการณ์โก๊ะกังก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อพี่จีเนียส แนะนำให้ใช้ที่ปัดน้ำฝน แต่ด้วยความที่เราขับรถญี่ปุ่นมาตลอดนั้น....ใช่ค่ะ เราเปิดไฟเลี้ยวแทน ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า พิมพ์แล้วก็ยังรู้สึกอายอยู่ จังหวะนั้นนะคุณเอ๋ยย......แทบจะมุดหน้าลงไปกับพวกมาลัย แต่พี่จีเนียสก็ใจดีนะ เหมือนเค้าเข้าใจถึงความคุ้นชิน ไม่ทำให้เรารู้สึกอับอายหรือเคอะเขินอะไรเลย แล้วยังแนะนำต่อว่า กดที่ปลายก้านปัดน้ำฝนสิครับ มันจะปัดออโต้ให้ โดยที่เราไม่ต้องปัดน้ำฝนเองบ่อยๆ
ระหว่างทางพี่จีเนียสก็แนะนำให้เราลองเปลี่ยนโหมดขับ แนะนำการใช้ฟังก์ชั่นนู้นนี่ ซึ่งเราก็รู้สึกโอเคมากกับการให้คำแนะนำที่น่ารัก ระยะทางในการทดลองขับไม่ไกลจากโชว์รูมสักเท่าไหร่แต่ก็พอที่จะให้เราได้ทดลองการใช้งานได้ครบถ้วนเลย
จากนั้นกลับเข้ามาที่โชว์รูม ก็มานั่งคุยรายละเอียดกับพี่เซลล์กันพร้อมกับการนำคาปูชิโน่ที่แช่ตู้เย็นไว้ก่อนจะออกไปเทสไดร์กลับมาเสิร์ฟให้เรา โดยไม่ต้องทวงถามเลย ตรงนี้ต้องเล่าย้อนกลับไปนิดนึง คือก่อนหน้าที่เราจะออกไปเทสไดร์อ่ะค่ะ เราได้สั่งกาแฟไป 1 แก้ว แต่ว่าตอนนั้นทางศูนย์ฯ เค้านำรถมาพอดี พี่เซลล์เลยบอกว่า “เดี๋ยวทางเราจะแช่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาทานก็ได้ค่ะ” โอ้วเลิศศศ ขนมก็มา กาแฟ โกโก้เครื่องดื่มเสิร์ฟให้พร้อมสรรพแถมอร่อยอีกต่างหาก
ส่วนในรายละเอียดของการซื้อขาย การจัดไฟแนนซ์ ใช้เวลาเรื่องไฟแนนซ์ 2-3 วันทำการ ก็จะรู้ผล
มีประกันภัยชั้น 1 ฟรี ได้อัพเกรด BSI ฟรี จาก 3 ปี เป็น 5 ปี หรือ 1 แสนกิโล อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
วารันตี 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โมบิลิตี้ 5 ปี มูลค่า 8 หมื่นบาท
อันนี้ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่ได้คุยกับทางพี่เซลล์ ส่วนเรื่องการตัดสินใจก็อาจจะขอเวลาตัดสินใจก่อนสักหน่อย แต่จะว่าไปไหนก็ไหนๆ แล้วจะขอปรึกษากับผู้ที่อ่านมาถึงตรงนี้เลยแล้วกันค่ะ ว่าตัว BSI ที่เค้ามีให้แบบนี้คุ้มค่าหรือป่าวคะ? เราควรที่จะมีไว้หรือป่าว? ถ้าไม่มีแล้วจะเป็นอย่างไรคะ?
จะได้เอาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเพิ่มเติม แล้วก็ต้องขอขอบคุณที่อ่านประสบการณ์มาจนจบด้วย ถ้ามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยุโรป สามารถแนะนำได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบด้วยค่ะ