วิวาทะ! "ปมให้ครูเข้าเวร ไม่ทำก็ลาออกไป" ฮีลั่น ให้กูออก-ออกไปแล้วกูจะเอาอะไรแดก!?!
วัฒนธรรมการส่งต่อความเจ็บปวด
หลังจากที่เพจได้แชร์ ข้อความของครูกอล์ฟที่พูดถึงเรื่องเวรยามกลางคืนของครูชายว่าควรยกเลิกไปเพราะครูบางคนมีชื่อเข้าเวร 365 วัน หรือ 183 วัน กรณีมีครู 2 คน หรือแม้กระทั่งความปลอดภัยของครูผู้หญิงในโรงเรียน
ซึ่งเป็นการพูดถึงภาระงานของครูที่ไม่สมเหตุสมผล จนมีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวางจนทำให้มีความคิดเห็นเข้าไปต่อว่าครูกอล์ฟทำนอง
"รักสบายอย่าหมายมาเป็นครู"
" อยู่ไม่ได้ก็ลาออกไม่มีใครเขาห้าม"
" สมัยก่อน 30 ปีฉันยังทำได้ทำมาหมดแล้ว"
"ฉันเจอมาหนักกว่าเธอ"
" ย้ายไปโรงเรียนนั่นนี่สิ"
อยากบอกว่าสิ่งเหล่านี้คือการส่งต่อความเจ็บปวด
"กูโดนมามึงก็ต้องโดนเหมือนกัน" ถ้าอะไรในอดีตที่มันไม่ดีมันก็ควรหายไปไหม ไม่ใช่ยังเป็นเหมือนเดิม เวลาที่ผมพูดถึงถนนหนทางในบ้านนอก ก็มักจะมีคนมาบอกว่า "สมัยฉันลำบากกว่านี้" ให้ตายเถอะ แล้วเราจะหยุดชีวิตไว้แค่ตอนอดีตเลยใช่ไหม ที่มันเป็นอย่างนี้แสดงว่ารุ่นคุณไม่มีอะไรพัฒนาเลยหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นก็ขอแนะนำให้เลิกใช้เตาแก๊สไปปั่นไม้ให้หมด เพราะยุคหินลำบากกว่านี้
เมือไหร่ก็ตามที่มีคนพูดถึงปัญหา จะมีคนบางส่วนที่ผลักปัญหาไปที่ตัวบุคคลว่า "แค่นี้ทนไม่ได้" บอกหน่อยเถอะเจ้าพระคุณรุนช่อง ถ้าเขาลาออกแล้วปัญหาจะหายไปไหม หรือแค่เปลี่ยนคนมารับแล้วปัญหาก็ยังอยู่เหมือนเดิม
แล้วก็ไม่ต้องไปบอกน้องมันว่า "ไม่อยากอยู่เวรก็ลาออกไป"
สำหรับผมถ้าน้องมันออกไป ผมเสียดายคนที่มีความสามารถนะ พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ได้ทุนไปฟินแลนด์ แค่เขาบ่นเรื่องเวรยามไปไล่เขาให้ลาออก เดี๋ยวเด็กมันสวนกลับมาว่า "เป็นครูพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ควรลาออกไปบ้าง" จะจุกจนพูดไม่ออก
ไอสไตน์เคยกล่าวเอาไว้ว่า "มีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดว่าใช้วิธีการเดิมๆแก้ปัญหาแล้วผลลัพธ์มันจะเปลี่ยน" แล้วเราจะแก้ปัญหาการศึกษาโดยการให้ครูปฏิบัติแบบเดิมเหมือนเมื่อ 30 ปี ใช่ไหม
ที่นี้น้องมันบ่นไปปัญหาก็ไม่เปลี่ยนหรอก ปัญหามันก็อยู่ต่อไปแหละ
แต่อยากถามเหมือนกันว่าถ้ามีครูชายคนเดียวในโรงเรียนต้องอยู่เวร 365 วัน
คิดว่าผอ.จะมาตรวจเวรทุกวันไหมเอาแค่นี้ก่อน ถ้าจะเอาแบบนี้จริงๆ แล้วครูคนนั้นเขาไม่ต้องมีชีวิตอะไรเลยใช่ไหม และถ้ามันเป็นแบบนั้น ครูทุกคนต้องเจอสภาพเดียวกันนี้หรือเปล่า หรือโดนแค่คนบางกลุ่มเท่านั้น
เห็นหรือยังว่าจุดเริ่มต้นมันเป็นปัญหา ทุกอย่างก็ไปต่อลำบากเพราะถ้ากระดุมเม็ดแรกผิดเม็ดต่อไปมันก็ผิดหมด
ในตอนนี้อยากให้มองว่าเรากำลังพูดถึง "ระเบียบที่มันล้าสมัย"
"กับความเหลื่อมล้ำ" ในการทำงาน
ถ้ามีใครสักคนกลัวอุบัติเหตุจากรถชน สิ่งที่เราควรทำคือหาวิธีลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ผลิตถุงลมและเข็มขัดนิรภัย ไม่ใช่ไล่เขาลงจากรถ
คุณลองคิดดูนะว่า โลกนี้จะมีการพัฒนาไหมถ้าในอดีตมีคนที่กลัวการนั่งรถ แล้วคนขับรถบอกว่า "อยู่ไม่ได้ก็ออกไป " จริงๆแล้วเราสามารถแก้ปัญหาได้โดยการ "ไล่คนที่กำลังพูดถึงปัญหาออกไปได้จริงๆใช่ไหม" โลกเราจะเป็นอย่างไรถ้าทุกคนไม่พูดถึงปัญหาเลย
แต่เชื่อหรือไม่ว่าคนที่เห็นดีเห็นงามกับการอยู่เวร ไม่ใช่คนที่มีชื่ออยู่เวร 365 วันแน่นอน และกล้ารับประกันว่าตัวเขาไม่ใช่คนที่นอนโรงเรียนทุกวัน ดังนั้นอย่าริอาจไปสั่งสอนไปแนะนำใครว่าควรอยู่หรือลาออกหากไม่ได้ไปเจอสถานการณ์เดียวกันกับเขา
สำหรับผมนะ ถ้าไม่อยากสอนหนังสือเมื่อนั้นแหละค่อยลาออก
ถ้ายังอยากสอนอยู่ก็เป็นครูต่อไปได้แค่เหนื่อยหน่อย ทีอีครูพวกที่ไม่สอนหนังสือ อยู่ไปวันๆ ไม่เห็นไปบอกให้เขาลาออกมั้ง คนเรามีสิทธิบ่นกับงานของตัวเองทั้งนั้น หรือคุณไม่เคยบ่นอะไรเกี่ยวกับงานเลย ต่อไปนี้ถ้าคุณบ่นเกี่ยวกับงานแล้วมีใครมาบอกให้คุณ"ลาออก" ให้บอกกับมันไปว่า...
ภาพนี้มีเสียงให้มันออกเสียงแทน
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าชายในภาพพูดอะไร ลิ้งนี้ครับ
https://web.facebook.com/917895241751332/videos/186816456590370