งีบกลางวันวันละนิดจิตแจ่มใส นอนยังไงให้รีเฟรชดีนะ
เหนื่อยล้าอ่อนแรง ตาจะปิดแล้วไม่ไหวจริงๆ ขอนอนงีบหลับซักพักเถอะนะ
คนเราอาจจะมีเหตุผลในการอยากนอนงีบหลับในบางวันบางเวลากันขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะในช่วงที่อาจจะนอนดึกเกินไป หรือมีเวลานอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนเพลียในระหว่างวันได้ จนอยากจะพักสายตานอนหลับพักผ่อนสักครู่ เพื่อลดความง่วงนอน และเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายบ้าง เพราะจริงๆ แล้วการงีบนอนหลับนั้น จะทำให้ร่างกายกลับมาทำงานได้ดีกว่าที่ทนฝืนง่วงต่อไปแบบไม่อยากจะทานทนไหวแล้ว แต่ว่าการงีบหลับในตอนกลางวันให้ได้ประสิทธิภาพดีนั้น มันก็มีช่วงเวลาจำกัดอยู่เหมือนกันนะ
ลองมาดูกันสักหน่อยดีกว่าว่าการงีบหลับนี้ในแต่ละช่วงระยะเวลานั้น จะส่งผลกับร่างกายได้อย่างไรบ้าง
เวลาที่ควรใช้ในการนอนพักงีบระหว่างวัน
1. ช่วงเวลางีบหลับ 3-5 นาที
จะเป็นการเผลองีบหลับในระยะเวลาสั้นๆ แบบไม่ตั้งใจเป็นส่วนใหญ่ อาจจะเกิดจากความอ่อนล้าใช้พลังงานเยอะมาทั้งวัน หรืออ่อนเพลียจากการเดินทาง อย่างตอนที่นั่งอยู่ในรถระหว่างการเดินทาง หากเราอยู่นิ่งๆ สักพักบางทีก็จะเผลอหลับไปเอง ซึ่งถ้าไม่สะดุ้งตื่น หรือตกใจตื่นเสียก่อน ก็จะช่วยคืนความสดชื่น แก้ง่วงได้เล็กน้อยอยู่นะ แต่ก็อาจจะเป็นการนอนที่รบกวนคนข้างๆ ได้ ควรระวังและมีความเกรงใจเขาด้วยล่ะ
2. ช่วงเวลางีบหลับ 10-20 นาที
ในช่วงระยะเวลานี้หากได้งีบหลับแล้ว จะช่วยคืนความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเพิ่มพลังงานทำให้สมองรู้สึกปลอดโปร่ง แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่คุณก็จะพร้อมกลับมาทำงานได้โดยที่รู้สึกดีกว่า ปล่อยให้ตัวเองง่วงต่อไปโดยที่ไม่ได้พักเลย ถ้าหากว่ามีเวลานอนงีบหลับได้น้อยใช้เวลาเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ได้รับการแนะนำมากที่สุดเลย
3. ช่วงเวลางีบหลับ 30-45 นาที
ดูเหมือนจะเป็นช่วงระยะเวลาที่มีความพอดี หากจะไปขอนอนงีบหลับสักพัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ส่งผลไม่ดีกับร่างกายเลย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังเข้าสู่การหลับลึก ดังนั้นหากตื่นนอนในช่วงเวลานี้จะรู้สึกไม่สดชื่น มึนงง ง่วง และรู้สึกนอนไม่พอยิ่งกว่าเดิม สมองก็ไม่พร้อมที่จะทำงานต่อด้วย กว่าจะฟื้นตัวก็กลับมาใช้ในระเวลาพอๆ กับที่นอนไปเลย ดังนั้นแล้วควรตื่นให้เร็วกว่านี้ หรือช้ากว่านี้ไปเลยจะดีกว่านะ
4. ช่วงเวลานอนงีบหลับ 50-60 นาทีขึ้นไป
เป็นช่วงที่ดีต่อการรักษาความทรงจำเพราะการหลับลึก ช่วยทำให้คนที่อดนอนในช่วงเวลากลางคืนเช่นคนที่ทำงานดึกพ่อแม่ที่ต้องตื่นมาเลี้ยงดูลูก หรือนักศึกษานักเรียนที่อ่านหนังสือเตรียมสอบ หากมีเวลาได้นอนพักในช่วงเวลานี้สมองก็จะพร้อมสำหรับการกลับมาทำงานได้อย่างดีอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็อาจจะมีความรู้สึกเพลียๆ หลังตื่นนอนอยู่บ้าง แม้จะรู้สึกสบายขึ้นก็ตาม
5. ช่วงเวลานอนงีบหลับ 90 นาที
ตามหลักการแล้ว การนอนครบ 1 รอบที่ถือว่าเป็นการนอนหลับแบบสมบูรณ์ที่สุด จะต้องนอนให้ครบ 90 นาที เป็นช่วงเวลาที่โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมา เพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และสมอง พอตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกว่าสดชื่น แจ่มใส รู้สึกตื่นตัวกับการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งกว่าเดิม ไม่รู้ง่วงหาวอยากนอนเหมือนการหลับในช่วงเวลาอื่นๆ ถ้ามีเวลาจริงๆ ก็นอนไปเลย
ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนอนงีบหลับ ควรอยู่ในระยะเวลาบ่ายสามโมงถึงหกโมงเย็นค่ะ แล้วถ้าเป็นไปได้ควรใช้เวลา 15-20 นาที ในการนอนงีบหลับก็เพียงพอแล้ว แต่สภาพร่างกายในแต่ละวันของคนเรา อาจจะมีการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ลองปรับดูตามความเหนื่อยและง่วงของคุณดูเอานะคะ แต่ถ้าเป็นไปได้แล้วพยายามนอนหลับในตอนกลางคืนให้เต็มอิ่มและเพียงพอตามธรรมชาติของคนเรา จะดีกับร่างกายมากที่สุดค่ะ
ดังนั้นแล้วหากวันไหนที่รู้สึกว่าเพลีย อ่อนล้าไม่ไหวแล้วจริงๆ เราหาเวลาไปงีบหลับในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้ร่างกายได้พัก คืนความสดชื่นกันดูนะคะ
คุณนอนงีบหลับในตอนกลางวันบ่อยหรือไม่?
✪ บทความ โดย : Akine_noxx
✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
❀ ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ