แปลกแต่จริง ค็อกเทล“นิ้วเท้า”!
“ค็อกเทลนิ้วเท้า” ที่แคนาดาอาจเรียกได้ว่าเป็นค็อกเทลที่น่าสะพรึงที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะนี่คือค็อกเทลที่มีส่วนผสมจากเท้ามนุษย์ โดยคนทั่วไปที่ได้ดื่มแล้วจะรู้สึกเหมือนลำคอกำลังถูกลงโทษด้วยเครื่องลงโทษแบบตั่งเสือนั่ง
โดยเจ้าค็อกเทลนิ้วเท้านี้อยู่ที่ร้านซาลอนยีสต์แห่งหนึ่งในเมืองดอว์สัน เขตยูคอน ประเทศแคนาดา ซึ่งในซาลอนแห่งนี้ได้นำเสนอค็อกเทลสุดโต่งชนิดนี้มาตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งหากนับมาจนถึงวันนี้มีผู้ลิ้มรสค็อกเทลชนิดนี้กว่า 100,000 คนแล้ว
ค็อกเทลชนิดนี้จะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 ออนซ์ และแน่นอนว่าต้องไม่ขาดพระเอกอย่างนิ้วเท้า ซึ่งที่ร้านนี้เขามีเหล้าให้เลือกกว่า 80 ชนิด และผู้คนส่วนใหญ่ก็มักเลือกวิสกี้พื้นเมืองของแคนาดาซึ่งมีแอลกอฮอล์สูงถึง 80%
สำหรับนิ้วเท้าที่นำมาทำค็อกเทลโดยหลักถูกนำมาจากการแข่งขันสกีกระดานเลื่อน ซึ่งในทุกปีจะได้รับนิ้วเท้าที่มาจากการบริจาคถึง 40-50 นิ้ว นอกจากนี้ยังได้มาจากการบริจาคของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดที่จำเป็นต้องตัดนิ้วเท้า และส่วนใหญ่มาจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่
โดยจะทำการเก็บรักษาและฆ่าเชื้อด้วยวิธีการหมักด้วยเกลือเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนก่อนที่จะถูกนำมาเสิร์ฟสู่สาธารณะให้ผู้คนได้ลิ้มลองและเพียง 10 ดอลลาร์เท่านั้นผู้คนก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติค็อกเทลนิ้วเท้านี้ได้แล้ว แต่ลูกค้าจำเป็นต้องการจองก่อนถึงจะสามารถเข้าลิ้มลองได้ อีกทั้งยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดจากสมาชิกในชมรมนิ้วเท้าเท่านั้น!
สำหรับวิธีการดื่มนั้นคือริมฝีปากของคุณต้องสัมผัสกับนิ้วเท้านี้ก่อนแล้วจึงค่อยๆ ดื่มอย่างช้าๆ ซึ่งในอีกด้านหนึ่งนี่เป็นวิธีป้องกันไม่ให้นิ้วเท้าถูกขโมยหรือถูกกลืนกินไปนั่นเอง โดยหากใครไม่ทำตามกฏหรือมีการกลืนกินนิ้วเท้าลงไปก็อาจจะถูกทางร้านแบนไม่ให้เข้าถาวรหรืออาจถูกปรับซึ่งมีมูลค่าถึง 2,500 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ดร. โรเบิร์ตทรักซ์ จากศูนย์การแพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคลีฟแลนด์เชื่อว่า หากนิ้วเท้าเหล่านี้ได้รับการเก็บรักษาฆ่าเชื้อและระบายเลือดของเหลวออกหมดจนแห้งดีแล้ว ก็จะไม่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อ อีกทั้งหากนำนิ้วเท้าใส่ลงไปในวิสกี้ที่มีแอลกอฮอล์มากพอก็จะสามารถฆ่าเชื้อไวรัสให้ตายหมดได้เช่นกัน
นี่ถือเป็นประเพณีพื้นเมืองของชาวแคแนดาที่นั่นก็ว่าได้ แล้วคุณล่ะคะ หากให้ลองฟรีๆ สักแก้วกล้าพอดื่มค็อกเทลนิ้วเท้านี่หรือเปล่า?
หากใครชื่นชอบบทความดีๆ แบบนี้อย่าลืมติดตามเราเพิ่มเติมได้ที่
FB:https://www.facebook.com/aquiverthai
IG:@aquiverwiththai
#AquiverThailand #ค็อกเทล #เรื่องประหลาด #แปลกแต่จริง
ที่มา: beebee