สุดซึ้ง!! ร้านหมายเลข ๑๘ เค้าใช้ชื่อร้านว่า "ป๋าเล็ก"
“มีคนฉีกกระดาษบ้างไหม” ผมถามพี่คนที่ทำหน้าที่เรียกลูกค้าและเก็บเงินเมื่อเห็นกระดาษและข้อความพร้อมริ้วที่มีคนเซ็นชื่อเอาไว้หลายชื่อ นั่นแสดงถึงการจ่ายเงินล่วงหน้าของใครสักคน เพื่อให้ใครสักคนที่ไม่รู้จักได้มากินข้าวโดยไม่ต้องจ่าย
“มีค่ะ วันๆหนึ่งก็มีคนมาฉีกกระดาษที่มีลายเซ็นเพื่อกินข้าวหลายคน” พี่สาวคนเดิมตอบมา
“เชิญเลือกได้เลย อาหาร ๑ ชุด ไม่เกิน ๓๐ บาท เราจ่ายไว้ให้ก่อนแล้ว” ข้อความตัวโตปรากฏบนแถวบนสุด
“สำหรับทุกคนที่กำลังลำบาก เชิญท่านฉีกคูปองข้างล่างที่มีลายเซ็น เลือกรสชาติ แล้วส่งให้เจ้าของร้าน วันไหนท่านพร้อมแล้ว มาช่วยคนอื่นต่อนะ” อ่านมาถึงตรงนี้ผมรู้สึกตื้นตัน
ที่ทำงานของผมเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลวันละราวสามพันคน มีญาติพ่วงติดมาอีกคนสองคน บางบ้านยกโขยงกันมาเป็นคันรถ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอีกราวเกือบสองพันชีวิตหมุนเวียนสับเปลี่ยนกะทำงาน โรงอาหารจึงเป็นอีกที่หนึ่งที่แสนจะชุลมุน
และท่ามกลางความสับสนอลหม่านเหล่านั้น น่าจะมีใครสักคนที่กำลังหิว และเขาอาจจะมีเงินเหลือเพียงค่าเดินทางที่จะต้องจ่ายในช่วงบ่ายแก่ๆของวัน เขายื่นมือไปฉีกริ้วกระดาษที่ถูกเรียกว่า “คูปอง” แล้วส่งให้เจ้าของร้านอย่างลังเล
“ข้าวราดหมูผัดกระเพราจานหนึ่งครับ”
แล้วจานข้าวพร้อมข้าวสวยร้อนๆราดหน้าด้วยหมูสับผัดกระเพราใส่ถั่วฝักยาวซอยถูกยื่นส่งมาให้พร้อมรอยยิ้ม มันช่วยลดความประหม่าของคนที่ยื่นคูปองให้ได้อย่างมาก
หากจะมีใครสักคนที่ริเริ่มเรื่องพิเศษที่เกิดประโยชน์แก่สังคม ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้านี้นี่แหละ ที่เป็นเรื่องดีๆกินใจผมเสียเหลือเกิน
บันทึกจากหน้าร้านขายข้าวหมายเลข ๑๘
ที่มา : ธนพันธ์ ชูบุญอิ่ม
https://www.facebook.com/106154491265043/photos/a.106276551252837/148254517055040/