6 ประโยชน์ของการกอดที่จะทำให้ดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ งื้อ
กอดกันไว้เถิด ให้กายใจให้แนบชิด แชร์ความรู้สึกที่ดีต่อกัน
การกอดคือการเอาตัวแนบชิดแล้วเกี่ยวกันไว้ด้วยอ้อมแขนนั่นแหละ ที่เรียกว่าการกอด ซึ่งมีอยู่หลายท่าทาง และหลายประเภท แต่ว่าโดยรวมแล้วก็คล้ายๆ กัน แต่การกอดนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ได้ประโยชน์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การกอดนั้นมันจะดีสักแค่ไหน ก็คงต้องลองมาเช็คกันดูสักหน่อยแล้วล่ะ
cr. https://pixabay.com/photos/couple-hugging-love-together-1149143/
6. โอบกอดกันห่างไกลโรคา
ฟังดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อหากจะบอกว่าการกอดนั้น จะทำให้คุณเจ็บป่วยน้อยลง เมื่อได้พบกับผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งของปี 2014 จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ในสหรัฐอเมริกา มีการกล่าวถึงว่า การกอดจะทำให้สมองหลั่งสารออกซิโทซิน และก็ยังมีการหลั่งสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ออกมาพร้อมๆ กัน ซึ่งการที่ฮอร์โมน 2 ตัวนี้ทำปฏิกิริยากับร่างกาย ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น ทำให้คนที่ได้รับการโอบกอดอยู่เป็นประจำนั้น ไม่ค่อยจะเจ็บป่วย เป็นไข้ หรือหวัดบ่อยๆ ด้วย ดังนั้นแล้วหากมีคู่รักคนรักก็ลองกอดกันบ่อยๆ ดูนะคะ จะได้แข็งแรงกันไปนานๆ
5. การกอดนั้นช่วยลดความเครียด
นักจิตวิทยาแห่ง North Carolina Chapel Hill ในประเทศสหรัฐอเมริกา เคยทำการวิจัยโดยให้คู่รักจำนวน 100 คู่นั่งชมวีดีโอที่เกี่ยวกับความรัก หรือหนังโรแมนติกยาวประมาณ 10 นาทีโดยให้พวกเขากุมมือกันด้วยขณะชม โดยหลังจากที่ชมภาพยนตร์เสร็จแล้ว ผู้ทำวิจัยจะให้คู่รักกอดกันรวมเป็นเวลา 20 วินาที ก็ตรวจแล้วพบว่าความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจก็ช้าลงด้วย นั่นหมายถึงเมื่อกอดกันแล้ว จะมีความตึงเครียดของสมองที่ลดลงไป ซึ่งมาจากการสัมผัสกันและกัน ดังนั้นลองกอดกับคนรักในช่วงวันหยุด พร้อมกับดูหนังหรือภาพยนตร์โปรดไปด้วยกัน ก็คงเป็นเรื่องที่ช่วยผ่อนคลายได้มากเลยทีเดียว
4. การกอดจะช่วยทำให้นอนหลับสบาย
เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าคนที่มีแฟนแล้วนอนกอดกันนั้น ก็ย่อมจะหลับสบายขึ้น ยิ่งถ้าอากาศหนาวๆ อยู่บนเตียงนุ่มๆ ได้กอดกันใต้ผ้านวมแล้วล่ะก็ หลับปุ๋ยจนถึงเช้าเลยทีเดียว ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเตียงหรือหมอนนั้นคุณภาพดีมากแต่ประการใด แต่เนื่องจากการหลับนอนเป็นเรื่องของการพักผ่อนตามธรรมชาติของร่างกาย ยิ่งถ้ามีใครมาสวมกอดขณะที่กำลังหลับด้วยแล้วล่ะก็ จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย มีสารออกซิโทซินหลั่งออกมา ซึ่งนักวิจัยค้นพบแล้ว ว่าสารดังกล่าวนี้จะช่วยทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย คลายเครียด คลายความเหนื่อยล้า ซึ่งจะทำให้การนอนหลับของคุณนั้นสบายมากขึ้นด้วย ดังนั้นแล้วในทุกๆ วันที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อย ให้ลองหันกลับไปกอดคนที่นอนอยู่ข้างๆ ดูสิ
cr. https://pixabay.com/photos/couple-making-out-young-people-731890/
3. นอนเปลือยโอบกอดกันแบบมนุษย์ยุคหิน
การนอนเปลือยกายกอดกันก็เป็นที่เลื่องลือกันมานานแล้ว ว่าดีกับร่างกายและจิตใจ เหมือนเราได้ย้อนกลับไปสู่ยุคที่มนุษย์ยังใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชายและหญิงจะโอบกอดกัน โดยที่ไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์ การกอดกันนั้นจะทำให้ร่างกายอบอุ่น หลั่งสารออกซิโทซินมา ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเป็นสุขมากขึ้น นักจิตวิทยาและนักกายภาพบำบัดได้กล่าวในหนังสือเอาไว้ว่า สารออกซิโทซินคือฮอร์โมนแห่งความรัก เพราะเมื่อมันหลั่งออกมาขณะที่คุณ กอด จูบ หรือมีเซ็กส์กัน จะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น มีความสุขต่อกันและกันมากขึ้น ไม่ต้องไปหาความสุขจากที่ไหนไกลๆ เลย
2. การกอดทำให้เห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น
ในการที่จะต้องปลอบโยนคนที่กำลังประสบความทุกข์ หรือปัญหาที่หนักอกหนักใจนั้น การสัมผัสร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการจับมือโอบไหล่ หรือว่ากอด จะช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายหายกังวลได้มากขึ้น เป็นภาษากายที่สามารถมอบให้กับอีกฝ่ายได้ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้คำพูดเลยด้วยซ้ำ ในบางครั้งที่เราจะต้องเผชิญกับความทุกข์ร้อน ยากเย็นเข็ญใจ ขอแค่มีใครสักคนอยู่ข้างๆ และมอบกอดให้ ก็พร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างเข้มแข็งกันแล้วล่ะ
1. เป็นการแสดงความรักต่อกัน
ในสังคมไทยอาจจะไม่ให้ความสำคัญกันมากนักในเรื่องกอด แต่ถ้าเป็นแบบคู่รักฝรั่งที่กอดจูบกันเป็นเรื่องปกติทำได้อย่างนั้นก็จะดีมากๆ เลยล่ะ ถ้าทำจนเคยชินก็จะไม่เขินอายและกลายเป็นเรื่องปกติไปเอง สัมผัสจากคนรักจะส่งผ่านความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ที่ทำให้จิตใจสงบปลอดภัยสบายใจได้ เพราะฉะนั้นกอดกันหน่อย จูบกันบ้าง เดินจูงมือกันเถอะ มันเป็นการแสดงออกที่ทำให้รับรู้ได้ว่ารักกันเสมอนะ
cr. https://pixabay.com/photos/people-couple-guy-girl-picnic-2597441/
ได้รู้กันแล้วใช่ไหมล่ะคะ ว่าการกอดนั้นส่งผลดีทั้งทางกายและทางใจมาสักขนาดไหน หากคุณยังมีความรู้สึกอายที่จะต้องกอดอยู่แล้วล่ะก็ คงต้องลองเปลี่ยนความคิดใหม่ และมีความกล้าที่จะกอดมากขึ้น เพื่อที่จะได้รับประโยชน์มากมายจากการกอด เอาเลยลองกอดกันให้แน่นๆ ดูเลยค่ะ
ชอบการกอดหรือเปล่าคะ?
✪ บทความ โดย : Akine_noxx
✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
❀ ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ