ถ้านั่งถูกวิธีออฟฟิศซินโดรมก็ไม่ถามหา ไม่อยากเป็นต้องปรับเปลี่ยน !
ไม่อยากเป็นออฟฟิศซินโดรมไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่รู้วิธีนั่งให้ถูกต้องเพียงเท่านี้เอง
ออฟฟิศซินโดรมคืออาการของการเกร็งกล้ามเนื้อ เนื่องจากการนั่งทำงานแบบไม่ถูกสุขลักษณะเป็นช่วงระยะเวลานานๆ ซึ่วอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยสำหรับคนในยุคปัจจุบันที่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของการนั่งให้ถูกต้อง จึงมักมีอาการปวดเมื่อย ถ้ารุนแรงก็อาจจะถึงขึ้นเจ็บปวดรุนแรงจนไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ เป็นตะคริว กล้ามเนื้ออักเสบ หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และหนักเข้าอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือกายภาพบำบัดด้วย อันตรายไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยล่ะ
ดังนั้นแล้วถ้าหากไม่อยากให้ปัญหานี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เรามาใช้ชีวิตกันให้ถูกวิธีเพื่อห่างไกลจากอาการออฟฟิศซินโดรมกันดีกว่าค่ะ
1. ปรับโต๊ะ เก้าอี้ทำงานให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม
หากมีการปรับโต๊ะและเก้าอี้ให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้องมาตั้งแต่แรก ก็จะช่วยลดโอกาสในการนั่งผิดท่าทางที่จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ไปเกินครึ่งแล้ว ลองเช็คระดับจอมอนิเตอร์ ระดับคีย์บอร์ด และเมาส์ที่ใช้งาน ให้ใช้ได้สะดวกไม่ทำให้รู้สึกเกร็งมือมากเกินไปที่จะทำให้เกิดอาการข้อมืออักเสบได้ ปรับการวางแขน ข้อศอก พนักพิง เสริมหมอนหนุนหลังให้อยู่ในท่าที่สบายมากขึ้น และเก้าอี้ที่ควรเลือกก็ควรมีที่เท้าแขนด้วย
2. หมั่นแก้ไขท่าทางการนั่งที่ผิด
คนเรามักจะนั่งอยู่ในท่าทางแบบผิดๆ โดยไม่รู้ตัวอยู่เสมอ ดังนั้นแล้วลองสังเกตดูดีๆ ว่าเมื่อนั่งไปนานๆ แล้ว คุณเริ่มห่อไหล่ หลังค่อม ก้มศีรษะมากเกินไปหรือเปล่า รวมถึงมีนิสัยชอบนั่งไขว่ห้าง ชอบนั่งทับขาตัวเองหรือไม่ ถ้าใช่ก็พยายามปรับเปลี่ยน นั่งหลังให้ตรงโดยไม่ห่อไหล่ เพราะท่าทางการนั่งที่ผิดๆ เหล่านี้ ทำให้คุณอยู่ในท่าทางที่ฝืนธรรมชาติ และเกิดการเกร็ง สร้างความเครียดให้กับกล้ามเนื้อที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ ดังนั้นแล้ววิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการนั่งให้ถูกวิธีตั้งแต่แรกเลยนั่นเอง
3. หยุดพักการทำงานทุกๆ ชั่วโมง
แม้ว่างานจะมีงานเยอะและเร่งด่วนมากสักขนาดไหน คุณก็ควรมีการปรับเปลี่ยนท่าทางการนั่งเวลาทำงานทุกๆ 20 นาที และควรจะลุกจากเก้าอี้ไปเดินเคลื่อนไหวร่างกายทุกๆ ชั่วโมงด้วย การนั่งนานเกินไปเป็นบ่อเกิดของการเป็นโรคต่างๆ เพราะเลือดลมจะไหลเวียนไม่ดี มีการกดทับของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทด้วย ดังนั้นแล้วอย่าลืมที่จะเบรคจากการทำงานบ้าง
4. อย่าฝืนอยู่กับอาการปวด เมื่อยล้า
เมื่อเกิดอาการปวดเมื่อยล้า อย่าได้ฝืนอยู่ในลักษณะแบบนั้นต่อไป เพราะร่างกายก็ฟ้องอยู่แล้วว่าไม่ไหว ควรลุกขึ้นมาเปลี่ยนอิริยาบถเดินไปเข้าห้องน้ำ ไปดื่มน้ำ ยืดกล้ามเนื้อแขนขา บิดลำตัวให้เลือดลมไหลเวียน และกล้ามเนื้อแขนขาได้คลายตัวลงบ้าง ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็หายามาทา และนวดให้มีการผ่อนคลายลงเสียบ้าง
5. มีเวลาสำหรับการออกกำลังบ้าง
ออกกำลังกายก็มีส่วนช่วยให้ลดอาการเป็นออฟฟิศซินโดรมได้ เพราะคุณจะได้ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ทางที่ดีแล้วก็ควรหมั่นออกกำลังกายไว้เถอะ เพราะถ้าไม่ทำวันหนึ่งคุณอาจจะต้องมากายภาพบำบัดแทนได้ ในวันที่อาการทรุดและถูกบังคับให้ต้องทำ ซึ่งก็อย่ารอให้ถึงวันนั้นเลยนะ
6. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับให้เพียงพอนับว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว จะทำให้ร่างกายไม่เกิดความตึงเครียด ซึ่งต้องมีเวลาปล่อยให้ร่างกายได้พักสบายๆ เสียบ้าง ดังนั้นแล้วแม้แต่ในยามที่นอนหลับพักผ่อนก็ควรจะอยู่ในท่าทางที่สบายด้วยนะ ต้องไม่เกร็งไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะทำให้เกิดอาการเอาได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะหมอนที่หนุนต้องไม่ทำให้เกิดอาการปวดคอ บ่า และด้วยหลังค่ะ
7. ลางานหยุดพักผ่อนบ้าง
หากรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในช่วง burn out หรือกำลังเกิดความเครียดต่อทั้งร่างกายและใจเอามากๆ จนรู้สึกเริ่มรับมือไม่ไหวแล้ว ควรที่จะหาเวลาไปพักผ่อนหรือหยุดพักงานเสียบ้าง เพราะถ้ายังฝืนทนต่อไปเรื่อยๆ หากเกิดอาการขึ้นมา กว่าจะรักษาให้หายอาจจะต้องเสียทั้งเวลา และเงินทองมากมายกว่าแค่พักฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาดีได้เหมือนเดิมนะ
การนวดหรือรับประทานยาเพื่อแก้อาการปวดเมื่อย เป็นแค่การแก้ไขที่ปลายเหตุเพียงเท่านั้น โดยหลักๆ แล้วคุณควรจะต้องนั่งท่าทางให้ถูกวิธี มีการออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ และไม่เครียด เพียงเท่านี้ก็จะห่างไกลจากการเป็นออฟฟิศซินโดรมได้แล้วล่ะค่ะ
พักนี้คุณมีอาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงานอยู่บ่อยๆ หรือไม่?
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
มาแล้ว! เลขเด็ด "เสือตกถังพลังเงินดี" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..ส่องด่วนเลย!!
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
บุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป



