บุพเพสันนิวาส
"พ่อครับ ข้างบ้านขโมยสอยมะม่วงเราครับ"
เด็กชายตัวน้อยวิ่งมาหาพ่อ
พ่อหัวเราะแล้วถาม
"เราเหลืออีกหลายลูกไหม? ลูก"
"ผมเห็นอีกหลายลูกเลยครับ"
"งั้นไปสอยมะม่วงสุกมาให้พ่อสักเจ็ดลูกสิ"
เด็กชายเข้าใจว่าพ่อคงใช้ให้สอยมะม่วงเพราะกลัวเพื่อนบ้าน
จะขโมยอีก จึงรีบสอยมะม่วงมาให้พ่อ
เมื่อได้มะม่วงก็หอบมาให้พ่อ หวังว่าจะได้ทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
แต่ปรากฎว่า ผู้เป็นพ่อนำมะม่วงทั้งหมดมาจัดใส่ตะกร้าอย่างสวยงาม
แล้วจูงมือลูกชายไปกดกริ่งหน้าประตูของเพื่อนบ้านที่ลูกชายบอกว่า
สอยมะม่วงไป
เด็กชายงง ไม่เข้าใจว่าพ่อจะทำอะไร เมื่อเพื่อนบ้านเปิดประตูรั้วออกมา
เป็นชายวัยกลางคน หน้าตามีพิรุธเหมือนทำผิดอะไรบางอย่าง
ผู้เป็นพ่อจึงยื่นมะม่วงทั้งตะกร้าให้ แล้วกล่าวว่า
"ผมเอามะม่วงมาฝากครับ เป็นเพื่อนบ้านอยู่บ้านข้างๆนี่เอง
มีอะไรก็บอกกันนะครับ จะได้ช่วยเหลือกัน"
ชายคนนั้นมีสีหน้าเสียใจอย่างเห็นได้ชัด เขาบอกให้พ่อรอสักครู่
พร้อมทั้งกลับมาด้วยตะกร้าใบเดิม แต่คราวนี้มีไข่ไก่เต็มตะกร้า
"ผมเลี้ยงไข่ไก่ไว้หลายตัว ขอให้ไข่ไก่เป็นของตอบแทนน้ำใจนะครับ"
พ่อกล่าว..ขอบคุณ แล้วจูงมือเด็กชายกลับบ้าน เด็กชายถามพ่อด้วยความสงสัย
"ทำไม? พ่อถึงเอามะม่วงไปให้เขา แทนที่จะไปทวงมะม่วงของเราคืนมา"
"ถ้าพ่อไปทวงมะม่วง เราอาจจะได้มะม่วงคืน แต่เราจะเสียเพื่อนบ้าน
และอาจจะโกรธกัน แต่นี่พ่อเอามะม่วงไปให้เขาเจ็ดลูก รวมที่เขาสอยไปหนึ่งลูกเป็นแปดลูก แต่เราได้ทั้งน้ำใจเขา ซึ่งก็คือไข่ตะกร้าใหญ่ แถมยังได้เพื่อนบ้านเพิ่ม ลูกว่าแบบไหนดีกว่ากันล่ะ"
อารมณ์ คือ ปัญหา
สติ ปัญญา คือ ทางออก
การใช้อารมณ์ มักเป็นตัวเริ่มต้นปัญหาต่างๆของมนุษย์ การใช้สติปัญญา ก่อนที่จะเกิดอารมณ์ไม่ดีต่อกัน ย่อมจะเป็นหนทางที่ดี ทั้งในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง
ชีวิตมีค่ากว่าอารมณ์
น่าเสียดายที่หลายคนต้องสูญเสียอนาคต และมิตรภาพไปเพราะไม่สามารถควบคุม
อารมณ์ได้
ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ
หากเรามองปัญหาต่างๆด้วยสติปัญญาอย่างรอบคอบ ถ่องแท้ ให้เข้าใจที่มาของปัญหาที่เหตุของมันแล้ว เราย่อมจะได้แนวทางแสงสว่างนำทางที่จะแก้ปัญหาได้เสมอ
การมีเพื่อนสักร้อยคน ก็น้อยไป
มีศัตรูเพียงคนเดียว ก็มากเกิน
การมีเพื่อนนั้น ไม่ยาก
แต่การรักษาเพื่อนเอาไว้นานๆนั้น ยากกว่า
ขอบคุณเจ้าของภาพและบทความ
อ้างอิงจาก: Phaptawan Watcharavin