อาชีวะศรีสะเกษชุมนุมปกป้องประชาชนแสดงพลังไม่ยอมเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายใด
อาชีวะศรีสะเกษชุมนุมปกป้องประชาชนแสดงพลังไม่ยอมเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายใด
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลหลักเมือง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาจำนวนหนึ่งพากันมาชุมนุมโดยใช้ชื่อว่า แนวร่วมอาชีวะศรีสะเกษปกป้องประชาชน โดยมี นายตะวันฉาย เปรมจิตต์ อายุ 19 ปี นักศึกษาระดับชั้น ปวส.ปี 1 ของสถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับแกนนำจำนวน 5 คน ได้พากันจัดเวทีปราศรัยโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลที่ทำให้ประเทศชาติไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ เนื่องจากว่าลักษณะการบริหารงานเป็นแบบเผด็จการโดยเชื่อว่าประชาชนชาวไทยไม่มีสิทธิ์เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนี้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ นำโดย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่
มีพระชุษณพงศ์ ไพรนารี หรือหลวงพี่เอิร์ธ พระลูกวัดแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้มาร่วมปราศรัยด้วย โดยได้เรียกร้องขอให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ ให้พระมีสิทธิเสรีภาพพลเมืองมากขึ้น และขอให้รัฐบาลไม่ควรที่จะยึดเอาศาสนาใดศาสนาหนึ่งมาใช้ในการบริหารประเทศมากเกินไป โดยหลวงพี่เอิร์ธ กล่าวว่า อาตมาภาพเพิ่งกลับมาจากศาลายา เพื่อมากราบนมัสการหลวงพ่อ ตอนแรกอาตมาภาพนึกว่าหลวงพ่อจะให้ลาสิกขาบท แต่ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อ ท่านจึงเพียงว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น แต่ว่าอย่างไรก็ตามหากส่วนราชการแห่งหนึ่งต้องการให้อาตมาภาพสึก ก็ขอให้มาจับอาตมาสึกที่ตรงนี้ เพื่อให้รู้ว่าส่วนราชการแห่งนั้นคือศัตรูของราษฎร
นายตะวันฉาย เปรมจิตต์ อายุ 19 ปี นักศึกษาระดับชั้น ปวส.ปี 1 ได้กล่าวว่า การที่กลุ่มอาชีวศึกษาศรีสะเกษปกป้องประชาชน ซึ่งมีแนวร่วมเป็นนักเรียน นักศึกษา และพระสงฆ์ของ จ.ศรีสะเกษ ออกมาชุมนุมในครั้งนี้เพื่อต้องการแสดงพลังว่ากลุ่มอาชีวะไม่ได้อยู่นิ่งเฉยในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ และจะไม่ยอมให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเอาไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง การที่มาชุมนุมในครั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชีวศึกษาศรีสะเกษเป็นกลุ่มที่ปกป้องประชาชน ไม่ได้เป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทางการเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น ตนขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งที่ไปคุกคามตนถึงบ้าน ไปหาพ่อแม่ของตน บอกว่าการที่ตนไปร่วมชุมนุมกับเพื่อนอาชีวะนั้น อาจจะถูกจับดำเนินคดีทางกฎหมายได้ ตนขอถามว่าการแสดงออกทางความคิดเห็นที่แตกต่างและไม่ได้ละเมิดผู้ใด เป็นความผิดทางกฎหมายด้วยหรือ หากต้องการรู้ข้อมูลอะไร ให้มาถามตนโดยตรง ไม่ใช่ไปถามและข่มขู่พ่อแม่ของตน ตนพร้อมที่จะสู้เพื่อความถูกต้องอย่างเต็มที่
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ