ปวดหัวแบบไหนเสี่ยงอันตราย ต้องรีบไปพบแพทย์
ปวดหัวแบบนี้จงรู้ไว้ อย่านิ่งนอนใจ ไปหาหมอรีบตรวจเลยดีกว่า
อาการปวดหัวส่วนใหญ่มักจะเป็นอาการที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงอะไร สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหรือบ่อยๆ แต่ว่าก็มีอาการปวดหัวบางประเภทที่ก็บ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายได้ เช่น เป็นสาเหตุของเนื้องอกในสมอง มะเร็งสมอง หรือเสี่ยงต่อเส้นเลือดในสมองแตก เป็นต้น การปวดหัวแบบไหนที่ไม่ควรนิ่งนอนใจและรีบไปหาหมอบ้าง ลองมาเช็คกันดู
9. ปวดทันทีหลังตื่นนอน
เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติเกี่ยวกับความดันในกะโหลกศีรษะที่มีอยู่สูง อาจส่งผลให้เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตกเอาได้
8. ปวดพร้อมอาการข้างเคียงอื่นๆ
หากว่าปวดหัวแล้วอาการไม่ดีขึ้น แต่กลับมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ มาด้วย อย่างเช่น หน้ามืดตามัวแขนขาอ่อนแรงปากเบี้ยว เลือดกำเดาไหล การรับรู้ของประสาทผิดปกติ การได้ยินผิดปกติ เช่นนี้ ก็ถือว่าอันตรายเอามากๆ แล้วนะ
7. ปวดต่างจากที่เคยปวดปกติ
อาการปวดหัวมักจะเป็นอาการที่หากว่าเป็นเราบ่อยๆ ก็สามารถจะจำได้ว่าเราเคยปวดแบบไหน ปวดอย่างไร อย่างเช่น เป็นจังหวะตุบๆ ตรงบริเวณกลางหน้าผากอยู่บ่อยๆ แต่คราวนี้กลับรู้สึกปวดไปทางศีรษะด้านขวาด้านเดียว หรือว่ามีอาการปวดมากจนตาพร่า เลือดกำเดาไหล เหล่านี้ก็เป็นอาการที่ปวดซึ่งผิดปกติไปจากเดิม เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายอาจตกอยู่ในภาวะที่อันตรายแล้ว
6. แย่ลงเมื่อมีการเปลี่ยนท่าทาง
เช่น เมื่อลุกจากที่นอนหรือเก้าอี้ ก็มีอาการปวดหัวมากขึ้น ยิ่งถ้ามีการเคลื่อนไหวของศีรษะหรือคอ ก็อาจจะเกิดมาจากความผิดปกติเกี่ยวกับของเหลวในโพรงสมองและไขสันหลัง หรือเกี่ยวกับกระดูกต้นคอได้
5. ปวดระหว่างที่นอนหลับ
ยามปกติเมื่อเราอยู่ในระหว่างการหลับลึกแล้ว โสดประสาทสัมผัสต่างๆ ของเราจะลดลง หากมีอาการบาดเจ็บ หรือมีอาการปวดต่างๆ ตอนก่อนเข้านอน หากว่าเรานอนจนเข้าสู่ช่วงที่หลับลึกแล้ว มักจะไม่รู้สึกถึงอาการเหล่านั้น แต่ถ้าเป็นอาการปวดขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน จนทำให้เรานอนต่อไปไม่ไหว ตื่นขึ้นมากลางดึก นั่นหมายถึงว่าเป็นอาการปวดหัวที่ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ
4. ปวดศีรษะข้างเดียวตลอดเวลา
หรืออาจจะบวชในบริเวณด้านหลังของศีรษะหน้าแสดงถึงพยาธิสภาพที่อยู่ในบริเวณนั้นของศีรษะหากเป็นอาการปวดศีรษะทั่วไปมักมีการสลับซ้ายบ้างขวาบ้างแต่มักพบว่าการปวดข้างใดข้างหนึ่งนั้น มักมีอาการที่ผิดปกติไปกว่าการปวดหัวธรรมดา
cr. http://www.refinery29.uk/dealing-with-change-of-plans-anxiety
3. ปวดเพราะมีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ
บางคนมีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ร่วมด้วยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น มีไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ น้ำหนักลด มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และอาจจะรับประทานยาบางประเภทที่มีผลข้างเคียงทำให้ปวดหัวมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยควรไปเช็คกับหมออีกสักรอบ เผื่อว่าจะมีความผิดปกติอื่นๆ แทรกซ้อนที่มากกว่านั้นแอบซ่อนอยู่
2. ปวดแล้วเพิ่มความถี่ขึ้นเรื่อยๆ
จากอาการปวดหัวที่สามารถเกิดขึ้นได้เป็นบางครั้ง ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอะไร แต่ถ้าหากปวดหัวแบบเดิมๆ ซ้ำๆ อาจจะหนักขึ้น หรือว่าเริ่มมีอาการปวดถี่ขึ้น อย่างเช่น วันละหลายๆ รอบ หรือว่าติดต่อกันหลายๆ ชั่วโมงก็ไม่น่าจะใช่อาการปวดหัวธรรมดาๆ แล้วล่ะ
1. ปวดแล้วกินยาไม่หาย
ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่มีอาการปวดหัวอยู่เป็นประจำ ย่อมจะรู้ดีว่าทำอย่างไรถึงจะหายปวดหัวได้ ไม่ว่าจะเป็นกินยาหรือดื่มกาแฟก็ตาม แต่ว่าหากทำแล้วอาการปวดหัวก็ไม่ทุเลาลง อีกทั้งอาจจะต้องเพิ่มยาที่แก้ปวดได้มากขึ้นไปอีก มันก็แสดงถึงความผิดปกติ ซึ่งมาจากอาการปวดหัวที่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้แล้วนะ
cr. https://www.stylecraze.com/articles/home-remedies-to-get-rid-of-sinusitis/?ref=end
หากมีอาการปวดหัวที่รู้สึกว่าผิดปกติไม่ใช่อาการแบบธรรมดาแล้ว เราก็ควรรีบไปพบหมอเพื่อทำการตรวจรักษาเอาไว้ก่อนดีที่สุด เพราะถ้าหากบางครั้งไปถึงมือหมอช้าเกินไป อาจจะทำให้เกิดความสูญเสียแบบที่ไม่มีทางย้อนเวลากลับมาแก้ไขได้อีก ไปแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติก็ยังดีกว่าไปรักษาไม่ทันการณ์ทั้งๆ ที่รู้สัญญาณเตือนล่วงหน้าแบบนี้แล้วนะ
เคยมีอาการปวดหัวในลักษณะเหล่านี้หรือไม่?
บทความ โดย : Akine_noxx
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ