สินเชื่อบ้านมือสอง แบงก์ไหนดอกเบี้ยบ้านถูกสุด อัพเดทปี 2563
สำหรับใครที่กำลังถูกใจบ้านมือสองสักหลัง แล้วอยากกู้ซื้อบ้าน? ขอสินเชื่อบ้านมือสอง ธนาคารไหนดี ถึงจะได้ดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด ใครอยากรู้ Tooktee.com รวบรวมข้อมูลมาเปรียบเทียบให้แล้ว
อยากซื่อบ้านมือสอง โดยเฉพาะซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง การซื้อบ้านโดยตรงจากคนขาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านขายเอง หรือขายผ่านนายหน้า ถือว่าเป็นทางเลือกแรกๆ ที่ช่วยให้เราได้บ้านที่ถูกใจทั้งทำเล สภาพแวดล้อม แถมยังมีโอกาสได้บ้านไม่ทรุดโทรมมากนัก และสามารถต่อรองราคา ปัจจุบันการซื้อบ้านมือสองมีช่องทางในการค้นหาและติดต่อผู้ขายที่สะดวกมากขึ้น เมื่อราคาตกลงที่จะซื้อบ้านมือสองแล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องมองหาสินเชื่อบ้านที่คิดดอกเบี้ยต่ำสักหน่อย จะได้ช่วยเติมฝันที่อยากมีบ้านให้เป็นจริงเร็วขึ้น เพราะยิ่งดอกเบี้ยถูกก็ยิ่งลดภาระให้เราผ่อนบ้านได้แบบสบาย ๆ แล้วช่วงนี้หลายธนาคารก็มีโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านออกมาให้เลือกมากมายเลยด้วย สินเชื่อบ้านที่ไหนดี ไปดูกันเลยเราได้อัพเดท สินเชื่อบ้าน 2563 ไว้ให้แล้ว
ตารางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านมือสอง ของธนาคารพาณิชย์ อัพเดท 28 ต.ค.2563
ธนาคาร | ดอกเบี้ยบ้านต่ำสุดเฉลี่ย 1-3 ปีแรก | อัตราดอกเบี้ย |
1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) |
ดอกเบี้ยบ้าน ปีที่ 1 = 3.25% ปีที่ 2 = 3.75% ปีที่ 3 = 4.75% ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา = MRR-0.75% ต่อปี |
สินเชื่อบ้าน โครงการบ้าน ธอส.เพื่อคุณปี 2563 ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธ.ค.2563วงเงินให้กู้ตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้ เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคารระยะไม่น้อยกว่า 3 ปี 6 เดือน และไม่เกิน 40 ปีดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี |
2.ธนาคารธนชาต |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 3.25 % สมัครผลิตภัณฑ์เสริม |
สินเชื่อบ้านมือสอง ธนชาต ที่ให้คุณซื้อบ้านมือสอง ด้วยอัตราดอกเบี้ย พิเศษ วงเงินสูงและระยะเวลาผ่อนชำระนานวงเงินอนุมัติสูงสุด 100% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย แล้วแต่อย่างใดจะต่ำกว่า กรณีราคา ซื้อขายที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 10 ล้านบาท ขึ้นไปให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาซื้อขายที่ตกลงกันจริงตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยระยะไม่เกิน 30 ปี**กลุ่มลูกค้าที่ซื้อหลักประกันบ้านมือสองของ โครงการที่พัฒนาโดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในกลุ่ม Top Selective หรือ Selective Developersดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี่ |
3.ธนาคารยูโอบี (UOB) |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 3.55 % สมัครผลิตภัณฑ์เสริม |
สินเชื่อบ้าน ยูโอบี กรณีซื้อบ้านมือสอง วงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 80-90% สำหรับต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียมวงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 75-90% สำหรับต่างจังหวัด) ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี ดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี่ |
4.ธนาคารกรุงศรี | ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 3.82 % สมัครผลิตภัณฑ์เสริม |
สินเชื่อบ้าน กรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (บ้านใหม่หรือบ้านมือสอง) สำหรับโครงการทั่วไป ได้วงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมิน สบายๆ กับการผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี (ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับ อายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี) ตั้งแต่ 1 ส.ค.63 – 30 พ.ย.63 ดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี่ |
5.ธนาคารกสิกรไทย |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 4.19% |
ขอสินเชื่อบ้านมือสอง ธนาคารกสิกรไทย วงเงินกู้ได้ไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 100 % ของราคาประเมินหลักประกัน ระยะเวลาผ่อน สูงสุด 30 ปี ประเภทหลักทรัพย์ที่รองรับบ้านเดี่ยวทาวน์เฮ้าส์อาคารพาณิชย์ห้องชุดที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้านต่อเติมที่อยู่อาศัยดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี่ |
6.ธนาคารทหารไทย |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลีย 3 ปี 5.47 % สมัครผลิตภัณฑ์เสริม |
สินเชื่อบ้าน ธนาคารทหารไทย อัตราดอกเบี้ยให้กับบ้านมือสองโดยเฉพาะ กับวงเงินกู้ สูงสุด 95% ผ่อนชำระนานสูงสุด ถึง 35 ปี เมื่อรวมกับ อายุผู้กู้เเล้วไม่เกิน 65 ปี นอกจากนี้ยังอนุมัติง่ายและ เร็วอีกด้วย เเต่เป็นเงื่อนไขสำหรับลูกค้า ที่สมัครผลิตภัณฑ์เพิ่ม 3 ประเภทของธนาคาร ดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี่ |
ขอสินเชื่อบ้านมือสอง ดอกเบี้ยเงินกู้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate) โดยอัตราดอกเบี้ยจะถูกกำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะ ไม่มีการขยับขึ้นหรือลดลง ทุกอย่างจะคงที่ตลอดสัญญาอายุเงินกู้หรือในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว
เช่น สมมติว่า ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เราต้องผ่อนทั้งหมด 10 ปี เท่ากับว่า เราต้องผ่อนที่ 5% ตลอดระยะเวลา 10 ปี - อัตราเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) ดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการลงทุนของสถาบันการเงินหรือผู้ให้กู้ ซึ่งผู้ให้กู้จะประกาศออกมาเป็นระยะซึ่ง MLR และ MRR ถูกจัดอยู่ในประเภทอัตราเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) แบบที่ 2
- MLR ย่อมาจาก Minimum Loan Rate คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจาก “ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี” เช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ ส่วนใหญ่ใช้กับ “เงินกู้ระยะยาวที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน”
- MRR ย่อมาจาก Minimum Retail Rate คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจาก “ลูกค้ารายย่อยชั้นดี”
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง
การซื้อบ้านมือสองด้วยวิธีซื้อโดยตรงจากคนขายนั้น มีหลายๆ ประเด็นที่เราควรทราบก่อนการตัดสินใจซื้อ ซึ่งได้แก่
• การตรวจสอบโฉนด ว่ามีสถานะเป็นอย่างไร ปลอดภาระหรือติดจำนองอยู่ และที่สำคัญควรตรวจเช็กว่าผู้ขายเป็นเจ้าของจริงๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันการถูกหลอก โดยก่อนจ่ายเงินมัดจำและทำสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อควรตรวจสอบโฉนดที่ผู้ขายนำมาให้ หากโฉนดเป็นสำเนาควรดูว่า ได้มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินหรือไม่และระบุวันที่รับรองตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งนี้การคัดสำเนาโฉนดเจ้าของโฉนดซึ่งก็คือผู้ขายสามารถไปดำเนินการเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปแทนก็ได้ โฉนดที่ขอคัดจากสำนักงานที่ดินจะมีเจ้าหน้าที่ลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมระบุวันที่รับรองไว้ในสำเนาโฉนดฉบับนั้น หรืออีกวิธีในการตรวจสอบโฉนดในกรณีที่ยื่นกู้ซื้อบ้านคือการส่งประเมินราคากับธนาคารก็ได้
• การเตรียมเงินส่วนต่างให้พร้อม เพราะราคาบ้านมือสองอาจมีราคาสูงจากการตกแต่งบ้านให้พร้อมเข้าอยู่ หรือทำเลดี และเนื่องจากการกู้ซื้อบ้านมือสองโดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย(เลือกที่ต่ำกว่า) เท่ากับว่าผู้ซื้อจะต้องเตรียมเงินก้อนไปจ่ายให้กับผู้ขายในวันโอนบ้านอยู่ที่ประมาณ 20% ของราคาซื้อขาย ซึ่งต่างจากการซื้อบ้านมือหนึ่งกับโครงการที่สามารถผ่อนดาวน์ไปได้เรื่อยๆ ก่อนการยื่นกู้จริง
• ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนี้
o ค่าใช้จ่ายการซื้อ ได้แก่?
– ค่าจำนอง 1% ของวงเงินกู้ (ในกรณีที่กู้เงิน)
o ค่าใช้จ่ายการขาย ได้แก่
– ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยใช้ราคาบ้านจากราค?าประเมินของสำนักงานที่ดิน หักด้วยค่าใช้จ่ายตามที่กรมสรรพากรกำหนด แล้วนำมาคำนวณด้วยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่ยกเว้นเงินได้ 150,000 บาทแร?ก
– ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) แต่ทั้งนี้หากถือครองบ้านเกิน 5 ปี(ดูวันที่หลังโฉนด) หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือบ้านที่ขายได้รับมรดกมา ก็จะไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
– ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) โดยจะเสียค่าอากรแสตมป์ในกรณีที่ไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ??
***นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมโอน 2% ของราคาประเมินสำนักงานที่ดิน ซึ่งเกิดขึ้นจากการซื้อขาย โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ที่ตกลงกันว่าจะจ่ายกันอย่างไร เช่น ผู้ซื้อผู้ขายแบ่งจ่ายคนละครึ่ง เป็นต้น
สินเชื่อบ้านมือสอง
https://www.tooktee.com/contents/detail/2031/
ดอกเบี้ยบ้าน
สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อบ้านมือสอง
กู้ซื้อบ้าน
อัตราดอกเบี้ยบ้าน
สินเชื่อบ้าน ที่ไหนดีสินเชื่อบ้าน 2563
บ้านมือสอง
mrr คือ
ติดตามข่าวสารอสังหาฯ สินเชื่อแบงค์
Line : http://line.me/ti/p/~@tooktee หรือ โทรศัพท์ : 0-2295-3905 ต่อ 125