7 สิ่งที่ควรทำ เพื่อชีวิตจะขับเคลื่อนด้วยพลังบวก
แค่มีพลังบวก ชีวิตของคุณก็จะได้พบแต่ความสดใส และสิ่งที่ดีๆ ที่จะเข้ามาหาได้มากมายแล้วนะ
ยิ่งเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ก็มีเรื่องให้ต้องคิดเยอะแยะมากมายขึ้นเท่านั้น และสิ่งต่างๆ ที่พบเจอในทุกๆ วันนั้น มักจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีและบั่นทอนจิตใจเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นแล้วการรักษาสุขภาพจิตใจเอาไว้ให้ดีก่อนนั้นสำคัญที่สุด ซึ่งสิ่งที่คุณสามารถจะทำได้นั่นก็คือ การใช้ชีวิตในแง่บวก เพราะพลังด้านดีนั้นจะพาสิ่งดีๆ มาสู่เรามากกว่าพลังด้านลบ แต่จะต้องมีพลังบวกแบบไหนบ้างที่เราควรทำและนำมาปรับใช้ในชีวิตบ้างนะ?
1. ยิ้มให้มากเข้าไว้
รอยยิ้มทำให้คนรอบข้างรู้สึกเบาสบายใจว่าคุณอยู่ในอารมณ์ที่ดี ไม่ได้หงุดหงิดหรือว่าโกรธอยู่ รู้สึกไว้วางใจในการจะเข้าหาคุณ พูดคุยกับคุณหรือว่าส่งยิ้มคืนเพียงเท่านั้น แต่แค่นี้ก็ทำให้รู้สึกดีได้แล้ว เพราะการที่มีคนยิ้มให้บางทีแค่รอยยิ้มก็เป็นเหมือนกันกำลังใจดีๆ ที่มีให้กันได้มากแล้วล่ะ
2. กระตือรือล้นเข้าไว้
การทำตัวเรื่อยเปื่อยเฉื่อยแฉะ ก็ดูชิวๆ สบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยดีนะ แต่ข้อเสียก็คือจะทำให้เราดูเหมือนคนหมดไฟ เดินช้า เคลื่อนไหวอืดอาด ดูไร้ชีวิตชีวา ไร้พลังมากเกินไป บางครั้งการกระตุ้นตัวเองและคนอื่นให้มีความคึกคัก ทำอะไรอย่างรวดเร็ว คล่องแคล่ว ว่องไวซะบ้างก็ทำให้รู้ว่าตัวเองมีความเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่นที่มีพลังไฟแรง เป็นการใช้เวลาคุ้มค่า และมีความสนุกสนานอยู่ในตัวได้ดีนะ
3. ซื่อสัตย์กับคนอื่นเสมอ
พูดและบอกความจริง ให้ความบริสุทธิ์ใจกับผู้อื่นอยู่เสมอ ถ้าเราอยากได้ความจริงใจกับคนอื่น เราก็ต้องให้ความจริงใจกับเขาก่อนเช่นกัน เราย่อมรู้สึกดีกับคนที่ตรงไปตรงมากับเรา มากกว่าคนที่ดีกับเราต่อหน้า แต่ลับหลังกลับแสดงออกอีกอย่าง เมื่อรู้ว่าใครหน้าไหว้หลังหลอก หรือไม่จริงใจกับเราแล้ว เราก็ไม่อาจะเชื่อและสนิทใจกับคนๆ นั้นได้อีก หรือถ้าเราไม่ซื่อสัตย์กับคนอื่นจะทำอะไรก็ต้องเป็นกังวลตลอดเวลา และใช้ชีวิตยากด้วย ดังนั้นการไม่มีลับลมคมในกับใครจะเป็นชีวิตที่มีความสุขกว่ากันเยอะเลยนะ
4. พูดและทำดีๆ ในเชิงบวกกับผู้อื่น
คนบางคนชอบคิดลบกับผู้อื่น จึงมีการแสดงออกในด้านลบไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาหยาบคายใส่ พูดด้วยการดูถูกถากถาง พูดด้วยอารมณ์ที่เหมือนโมโหเกรี้ยวกราดอยู่ตลอดเวลาอีก ธรรมชาติของคนเราใครทำไม่ดีกับเรา เราก็ไม่อยากทำดีกลับด้วยอยู่แล้ว การใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเองเลยสักนิด แต่แค่เปลี่ยนความคิดเป็นด้านบวกแทน มองคนอื่นในแง่ดี พูดดีทำดีกับคนอื่น อย่างน้อยเขาก็จะต้องทำดีคืนกับเราเหมือนกัน แค่นี้ก็มีความสุขมากกว่าแล้ว
5. ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
อดีตที่ผ่านไปแล้วเราก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีก และอนาคตเองเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรเหมือนกัน แต่ผลจากการกระทำของปัจจุบันนั้น ย่อมส่งผลกับอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าหากว่าเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ย่อมจะส่งผลที่ดีต่ออนาคตได้เหมือนกัน จึงเป็นเหตุผลว่าเราควรที่จะให้ความสำคัญกับปัจจุบันให้มากที่สุดนั่นเอง
6. พร้อมรับความไม่แน่นอน
เรื่องราวต่างๆ ที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่เราไม่มีความพร้อมพอที่จะยอมรับมันได้ด้วย มีเกิดก็ต้องมีจบ มีพบก็ต้องมีจาก เรื่องราวเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสัจธรรมของชีวิตเลย ดังนั้นมีสติให้มั่น พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่างเข้มแข็งไว้ ไม่ว่าจะประสบกับอะไรคุณจะสามารถผ่านมันไปได้เสมอ
7. ปล่อยวาง ช่างมัน
หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างในชีวิตนั้น เราก็ไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้ และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บมันมาคิดให้หนักอกหนักใจด้วย โดยเฉพาะอารมณ์ร้ายๆ ของคนอื่น คำพูดไม่ดีจากคนอื่น ที่ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีแต่จะทำร้ายเรามากเท่านั้น โดยเฉพาะถ้าคำพูดเหล่านั้นมาจากคนที่ไม่มีความประสงค์ดีกับเราด้วย อย่าให้สิ่งเหล่ามาทำให้ชีวิตหนักเกินไป ปล่อยวาง และช่างมันซะบ้าง แล้วจิตใจของคุณจะเป็นสุขกว่ากันเยอะ
cr. https://petrel.jp/article/1d751bfc76b211e98ac00ad0a06fea74
พลังด้านลบมากจะทำให้จิตใจเศร้าหมองท้อแท้ หดหู่กับชีวิต มันเป็นเรื่องทรมานใจมากนะ หากจะเก็บเรื่องแย่ๆ มาสุมเอาไว้ในจิตใจมากจนเกินไป ดังนั้นเราควรรักษาสมดุลของจิตใจเอาไว้ด้วยการมีพลังบวกเอาไว่ก่อน เพื่อที่จะได้ทัดทานกับพลังลบที่จะต้องพบเจอทุกวันได้ โดยที่ไม่ส่งผลแย่กับชีวิตของคุณมากจนเกินไปด้วย
คุณสามารถรักษาพลังด้านบวกเอาไว้ได้ดีสักแค่ไหน?
บทความ โดย : Akine_noxx
ฝากติดตาม กดให้ดาว กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ