หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รากฟันเทียม คืออะไร เหมาะกับใคร มีข้อดีและข้อจำกัดในการรักษาอย่างไรบ้าง

เนื้อหาโดย treewriter

เมื่อฟันบางซี่หลุดหายไป ย่อมทำให้เกิดความไม่มั่นใจเมื่อต้องเข้าสังคม ตลอดถึงการใช้ชีวิตตามปกติ ดังนั้น การฝังรากฟันเทียมจึงเป็นทางแก้ปัญหาดังกล่าวที่ได้ผลดี ซึ่งการใส่รากฟันเทียมนั้นมีข้อดีมากกว่าการใส่ฟันปลอมหลายประการ ดังนั้น เราจึงอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักวิธีการฝังรากฟันเทียมให้มากขึ้นเพื่อใช้เป็นทางเลือกในการรักษาฟันที่หลุดหายไป ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีและเพิ่มความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น

รากฟันเทียม คืออะไร

รากฟันเทียม คือการใช้วัสดุทดแทนฟันจริงที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้อย่างแนบสนิท ซึ่งวัสดุที่นำมาใช้ในการทำรากฟันเทียมก็คือ ไททาเนียมซึ่งเป็นวัสดุที่ได้รับการยอมรับว่ามีความแข็งแรงทนทาน และสามารถยึดติดเข้ากับเนื้อเยื่อในร่างกายของมนุษย์ได้ดี โดยการฝังรากฟันเทียมนั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการรักษาฟันทดแทนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดวิธีหนึ่ง

รากฟันเทียม เหมาะกับใคร

การทำรากฟันเทียม แม้จะเป็นการรักษาเพื่อทดแทนฟันที่หลุดหายไปที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง แต่อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน ดังนั้น หากคิดจะรักษาฟันด้วยวิธีการฝังรากเทียม ควรพิจารณาตามความเหมาะสมในการรักษา ซึ่งคนไข้ควรเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

การทำงานของรากฟันเทียม

สำหรับการรักษาด้วยรากฟันเทียมนั้น ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อนำวัสดุทดแทนรากฟันฝังลงไปในตำแหน่งฟันเดิมที่หลุดหายไป จากนั้นก็ใช้ฟันปลอมที่ทำขึ้นมาใหม่ยึดเข้ากับรากฟันเทียมที่ฝังลงไปแล้ว ทำให้มีความแน่น ไม่เลื่อนหลุดออก จึงให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่ฟันปลอมแบบธรรมดา

ส่วนประกอบของรากฟันเทียม

รากฟันเทียมประกอบด้วย 3 ส่วนคือ 

  1. ส่วนที่มีลักษณะคล้ายน็อตหรือสกรูที่ฝังลงไปในขากรรไกร หรือที่เรียกกันว่าเป็นส่วนรากเทียมที่ฝังลงไปในกระดูก ทำหน้าที่ในการยึดติดกับกระดูกขากรรไกรแบบเดียวกับรากฟันธรรมชาติ
  2. ฟันเทียม ที่ใช้ทดแทนฟันปกติที่หลุดหายไป 
  3. ที่ยึดรากฟันเทียมและฟันเทียมเข้าด้วยกัน โดยเป็นวัสดุที่ทำมาจากเซรามิคหรือไทเทเนียมที่จะช่วยในการยึดฟันเทียมเข้ากับรากฟันเทียมได้อย่างสนิทแนบแน่น ไม่หลุดง่าย

ชนิดของรากฟันเทียม

รากฟันเทียมสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้

  1. Conventional Implant เป็นวิธีการฝังรากเทียมที่มีการวางแผนการรักษาเอาไว้ล่วงหน้า โดยจะมีการนัดพิมพ์ฟันและในบางรายอาจมีการทำ CT Scan ร่วมด้วยเพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันตแพทย์จะทำการฝังรากเทียมให้กับผู้รับการรักษาและรอเวลาอย่างน้อย 3-4 เดือนเพื่อทำการยึดฟันเทียมเข้ากับรากฟัน วิธีนี้มักใช้กับคนที่กระดูกขากรรไกรบางหรือมีการสูญเสียกระดูกขากรรไกรในบริเวณที่จะฝังรากเทียม โดยแพทย์อาจะแนะนำให้ทำการปลูกกระดูกก่อนที่จะทำรากฟันเทียม
  2. Immediate implant เป็นการฝังรากเทียมที่ทำในทันทีหลังจากที่มีการถอนฟันธรรมชาติออกไป ซึ่งมักใช้กับตำแหน่งฟันหน้าหรือฟันกรามน้อย มีข้อดีคือ ช่วยลดโอกาสที่เหงือกจะร่นและใช้เวลาในการฝังรากเทียมน้อยลง แต่อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้วิธีนี้ โดยมักจะใช้กับผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรดี
  3. Immediate loaded implant เป็นการต่อฟันเทียมเข้ากับรากฟันทันทีหลังจากที่ทำการฝังรากฟันแล้ว

ระยะเวลาในการทำรากฟันเทียม

ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาแบบฝังรากฟันเทียม จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา ดังนี้

ขั้นตอนในการทำรากฟันเทียม

  1. ทันตแพทย์จะตรวจสภาพกระดูกขากรรไกรบริเวณที่จะฝังรากเทียมด้วยการ X-ray จากนั้นจะทำการพิมพ์ฟันเพื่อวางแผนการรักษา
  2. เมื่อเริ่มการฝังรากฟันเทียม ผู้รักษาจะได้รับการฉีดยาชาเฉพาะที่ก่อนทำหัตถการ
  3. หลังจากฝังรากฟันเทียมแล้ว จะรอให้รากฟันยึดติดกับกระดูกเป็นเวลา 3-6 เดือน ก่อนจะนัดมาทำการครอบฟัน
  4. การทำครอบฟันจะมีการพิมพ์บริเวณรากฟันเทียมและส่งทำครอบรากฟันเทียม ใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะนัดมาทำการใส่ครอบฟันเทียม ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการรักษา

ข้อดีของการทำรากฟันเทียม

  1. สามารถทดแทนฟันที่หลุดหายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถใช้งานได้ตามปกติ และมีความคงทนถาวรมากกว่าการใส่ฟันปลอมทั่วไป 
  2. เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น เนื่องจากมีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่ต่างจากฟันจริง
  3. มีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารได้เป็นอย่างดี
  4. ช่วยลดการสูญเสียฟันและเนื้อเยื่อข้างเคียงฟันที่หลุดหายไป
  5. สามารถพูดและออกเสียงได้ตามปกติ เนื่องจากหลายคนที่ใส่ฟันปลอมทั่วไปอาจเจอปัญหาการออกเสียงไม่ชัด แต่สำหรับคนที่ฝังรากเทียมจะไม่มีปัญหาในการพูดและการออกเสียงดังที่กล่าวมา
  6. ไม่ต้องกังวลเรื่องฟันเลื่อนหรือหลุดเมื่อขยับปากเหมือนกับการใส่ฟันปลอมธรรมดา

ข้อจำกัดของการทำรากฟันเทียม

การรักษาฟันที่หลุดหายไปด้วยวิธีการฝังรากเทียมนั้น ถือเป็นวิธีที่ได้ผลดีและมีความเป็นธรรมชาติสูง ซึ่งผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยการฝังรากเทียมจะมีความมั่นใจมากขึ้นและสามารถใช้งานฟันได้ตามปกติไม่ต่างจากฟันธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ก็ต้องปรึกษากับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคำนึงถึงข้อจำกัดต่างๆ ก่อนทำการรักษา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพบกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์และทำให้การรักษามีประสิทธิภาพดีที่สุด

เนื้อหาโดย: treewriter
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
treewriter's profile


โพสท์โดย: treewriter
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
30 VOTES (5/5 จาก 6 คน)
VOTED: yuri boyka, สัปเหร่อนอกโลก, Tä Köhler, มีร่า, มยุริญ ผดผื่นคัน, Vaishya
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทำไมเขมรถึงชอบเคลมของประเทศไทย?นี่คือวงเวียนในเขมร ที่ใช้งบประมาณไปกว่า 70 ล้านบาทในการก่อสร้าง!ประเทศที่นิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในโลกมาวางแผนการเงินกันเถอะ"ปิงปอง" ทำถึงมาก! คัฟเวอร์เป็น "ลาบูบู้"..แบบนี้ลิมิเตดแน่นอน!!ชาวญี่ปุ่นออกตามล่าหาลิงแปลก ในป่าลึก3 ราศีที่เป็นเสือซุ่ม ฉลาดแต่ไม่ชอบอวดครูไพบูลย์ เจ้าของฉายากงยูเมืองไทย อวดหล่อโชว์ซิกแพก กล้ามแน่น ทำเอาสาวแห่กรี๊ด!!😆 ชวนเข้ามาดูภาพถ่ายอันน่าทึ่ง พิสูจน์ว่าไม่มีใครสามารถรู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับโลกได้ 😉
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ตำรวจจีนพานักพนันและฉ้อโกงกว่ากลับจากเขมรครบแล้วทำไมเขมรถึงชอบเคลมของประเทศไทย?"ปิงปอง" ทำถึงมาก! คัฟเวอร์เป็น "ลาบูบู้"..แบบนี้ลิมิเตดแน่นอน!!คนเขมรกล่าวว่า ประเทศเขมรจะเหมือนประเทศญี่ปุ่นเข้าไปทุกวัน ?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ศัลยกรรม ความงาม แฟชั่น
ดูแลเล็บอย่างไรให้สวย"พรีมพร้อม" โชว์การแต่งหน้าในสไตล์อโยธยา..คนดังหลายคนแห่ทำตามเหตุผลที่ผู้ชาย อยากฝังมุก เพื่อ??สาเหตุและการดูแลสิวที่หน้าอก
ตั้งกระทู้ใหม่