หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

#ถูกที่ถูกเวลา"จากคนขายปลาล้มละลาย สู่มหาเศรษฐีเจ้าของไดโซะ (Daiso)"

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

"จากคนขายปลาล้มละลาย สู่มหาเศรษฐีเจ้าของไดโซะ (Daiso)"

คุณยาโนะ ฮิโรทาเคะ (Hirotake Yano) ประธานบริษัท 'ไดโซะ ซังเงียว' ร้านค้าที่ขายสินค้าราคา 60 บาททุกชิ้น หรือร้าน 100 เยนในประเทศญี่ปุ่น

กล่าวว่า

"ผมล้มเหลวมาหลายครั้ง มันทำให้ผมคิดว่า ไม่ว่าผมจะพยายามทำอะไรก็ตาม มันก็คงจะไม่สำเร็จ ยิ่งในช่วงยุคเงินเฟ้อ ผมคิดหลายครั้งว่าจะเลิกทำมันซะ มันดูไร้สาระที่จะขายของในราคาเดียว แต่ผมก็เดินหน้าต่อไปเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรที่ผมทำได้อีกแล้ว”

.

ก่อนจะมาเป็น Daiso ที่มีชื่อเสียงเช่นทุกวันนี้

คุณยาโนะเคยล้มละลายจากการทำบริษัทเพาะเลี้ยงปลาสายพันธุ์ฮามาชิหรือปลาหางเหลืองมาก่อน ซึ่งเป็นบริษัทที่รับช่วงต่อมาจากพ่อตาในช่วงที่คุณยาโนะมีอายุ 26 ปี การล้มละลายครั้งนี้สร้างหนี้สินเป็นจำนวนกว่า 7 ล้านเยน (ซึ่งตีเป็นเงินไทยประมาณ 2 ล้านกว่าบาท) คุณยาโนะและภรรยาตัดสินใจพาลูกหนีจากฮิโรชิม่าและหนี้สินที่มี มุ่งหน้าเข้าสู่โตเกียว

สมัครงานตามบริษัทเอกชนต่างๆ เช่น พนักงานโบว์ลิ่ง พนักงานขายสารานุกรม ที่ซึ่งก็ทำได้ประมาณ 3 เดือนแล้วก็เลิกเพราะเขาคิดว่าเขาไม่เหมาะกับสายงานนี้ แล้วก็ย้ายไปทำงานในบริษัทรีไซเคิลขยะ ซึ่งก็ถือว่าได้รับค่าตอบแทนดี เขาสามารถทยอยจ่ายหนี้ที่ติดค้างไว้อยู่ได้บ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องกลับไปที่ฮิโรชิม่าเมื่อพ่อตานั้นขอมา ทำให้เขาต้องหางานใหม่ แต่เขาก็โยกจากงานนั้นไปงานนี้ เปลี่ยนงานไปเรื่อย นับรวมๆก็มากกว่า 9 งาน จนวันหนึ่งได้มาพบกับผู้ที่ขายสินค้าบนรถจักรยาน เขารู้สึกสนใจในงานด้านนี้จึงขอเข้าร่วมเพื่อศึกษาเรียนรู้

ในปีค.ศ.1972 เมื่อคุณยาโนะมีอายุ 29 ปี เขาเปิดร้านที่ชื่อว่า "Yano Shoten" หรือร้านยาโนะ ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไป ยกสินค้าจากท้ายรถบรรทุกที่ภรรยาเป็นคนขับออกมาตั้งโต๊ะขายอยู่แถวๆหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง เขาซื้อสินค้าจำนวนมากในราคาถูกจากบริษัทและโรงงานต่างๆที่พยายามจะระบายสินค้าที่คนไม่ค่อยนิยมหรือด้วยปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ได้สินค้ามาในราคาถูก ซึ่งก็เอาสินค้าพวกนี้ไปขายต่อโดยมีกำไรเล็กน้อย

เขาแทบจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง ทั้งการเลือกสินค้า การตั้งราคาสินค้า การจัดวางสินค้า การเลือกสถานที่ตั้งร้าน หลังจากทำไปได้สักพักเขาก็เกิดความคิดที่จะปรับให้สินค้านั้นมีราคาเท่ากันทั้งหมด เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ โดยเฉพาะเรื่องการทำป้ายราคาสินค้าที่ทำให้ปวดหัว สุดท้ายจึงกลายมาเป็นร้าน 100 เยน ร้านที่ขายสินค้าทุกอย่างในราคา 100 เยนเท่ากันทั้งหมด

ในปีค.ศ.1977 เขาได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Daiso และได้ทำการจดทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย และชื่อของร้าน 100 เยนก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น

แต่ผลตอบรับในช่วงแรกก็ไม่ได้ดีมากนัก ด้วยความที่สินค้านั้นมีราคาถูก ทำให้ลูกค้าหลายคนเชื่อว่าสินค้าเหล่านี้นั้นไม่มีคุณภาพ เมื่อคุณยาโนะได้ทราบเช่นนั้นก็ไม่ลังเลที่จะปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้สูงขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจในเรื่องของคุณภาพสินค้าของร้าน 100 เยน โดยเพิ่มต้นทุนของสินค้าให้สูงขึ้นไปอีกถึงแม้จะได้กำไรน้อยลงก็ตาม เรื่องคุณภาพนั้นสำคัญที่สุด เป้าหมายของเขาก็คือจะไม่ขายของที่มีคุณภาพต่ำ สินค้าจะต้องดูดีและมีคุณภาพ

ในช่วงปีค.ศ.1990 บริษัทไดโซะได้มีการเปิดสาขาตามห้างสรรพสินค้า (ลักษณะเหมือนปัจจุบันที่เราจะพบร้านไดโซะ) ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็คือช่วงที่เกิดวิกฤตฟองสบู่แตก ทำให้หลายบริษัทต้องปิดตัวลง แต่ไม่ใช่กับร้านไดโซะ ร้านไดโซะได้รับการตอบรับที่ดีมากจนรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บวกกับสื่อต่างๆที่ให้ความสนใจกับร้านแห่งนี้ ทำให้ร้านมีชื่อเสียงโด่งดังและกลายเป็นที่จดจำต่อคนทั้งประเทศเพียงในเวลาสั้นๆเท่านั้น

ต่อมาบริษัทไดโซะได้มีการเพิ่มสาขา และเพิ่มสินค้าให้เยอะมากขึ้นไปอีก ซึ่งสินค้านั้นมาจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นเซรามิกจากอิตาลี แก้วจากอังกฤษ ฝรั่งเศส และเกาหลี ขวดโหลจากออสเตรีย ตะกร้าไม้ไผ่จากเวียดนาม และสินค้าอีกมากมายจากจีน ผ้าขนหนู ชา กาน้ำชา เครื่องสำอาง น้ำหอม อุปกรณ์อาบน้ำ ซองปากกา ดอกไม้ปลอม ขนตาปลอม นาฬิกา ที่เขี่ยบุหรี่ ถาดเก็บของ อุปกรณ์เครื่องครัว ถังขยะ และ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และอื่นๆอีกมากมาย

ธุรกิจร้านไดโซะยังได้ถูกขยายไปยังต่างประเทศอีกด้วย แต่คุณยาโนะมีแผนที่จะค่อยๆขยายธุรกิจไปที่ตลาดต่างประเทศอย่างช้าๆแทนที่จะขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพราะเขาเชื่อว่าร้านไดโซะนั้นคือศตรูของเขา เขาต้องบริหารด้วยความหวาดกลัว เขากลัวความโลภจะเข้าครอบงำ เพราะนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในการทำธุรกิจ เขาจึงต้องคอยระวังและรักษาหลักการที่เรียบง่ายของเขาอย่างเคร่งครัด นั่นก็คือการอ่อนน้อมถ่อมตน ทำงานหนัก และขยันหมั่นเพียร

คุณยาโนะ ฮิโรทาเคะกล่าวว่า

"ธุรกิจก็เหมือนกับการปีนภูเขาลูกหนึ่ง บทเรียนของการปีนเขาที่จะได้เจอก็คือความยากลำบาก และการที่จะต้องดิ้นรน และเมื่อคุณได้ขึ้นไปถึงยอดสูงสุด คุณจะรู้สึกขอบคุณภูเขาลูกนั้น"

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึกบทเรียนราคาแพง 111 ล้าน เมื่อความเชื่อใจกลายเป็นช่องโหว่ให้คนสนิทฉกฉวยเมื่อจีนอยากทำหนัง The Shallows เป็นของตัวเอง จะเป็นยังไง"มัดหมี่ พิมดาว" แฉกลลวงสูญเงิน 8 ล้านบาท จากแรงศรัทธาแม่บ้านเดทตอลมหาภัยถูกจับกลางรายการ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจวางยาเด็ก เข้าใจผิดคิดว่าเป็นนม พร้อมขอโทษผู้เสียหายเปิด 2 ข้อหาหนัก "ป้าแอน" แม่บ้านทคดีผสมเดทตอลในขวดนมเด็ก พบประวัติอาชญากรรมเมื่อปี 67จารกรรมพันธุ์พืชเปลี่ยนโลก ปฏิบัติการขโมย "ชา" จากแผ่นดินมังกรสู่อินเดียเปิดอายุแท้จริงของ น้องจินนี่ ลูกสาว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดเบสท์ คำสิงห์ เปิดใจข่าวซุบซิบกับ บิ๊ก ผญบ.ฟินแลนด์จับแม่ค้าออนไลน์ "แก้ไขวันหมดอายุ" แล้วเอามาขายใหม่ไม่ปวกเปียกเป็นปลาป่วย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึกLuxuriate อนุญาตให้ตัวเองมีความสุขแบบไม่ต้องรู้สึกผิดความหวังใหม่ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ชายออสเตรเลียคนแรกของโลกที่ใช้หัวใจเทียมทั้งหมดเมื่อจีนอยากทำหนัง The Shallows เป็นของตัวเอง จะเป็นยังไง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
กระดูกครีบวาฬ เหมือนแขนมนุษย์มาก หลักฐานวิวัฒนาการที่เห็นได้ชัดๆ“มาม่า” จาก “เอกลักษณ์ท้องถิ่น” สู่ “ความฟินระดับโลก”ประโยชน์ของ "แก้วมังกร" ที่มีมากมาย ทั้งลดน้ำหนัก-ลดเสี่ยงมะเร็งกระท่อมที่สร้างขึ้นด้วย "กระดูกแมมมอธ" จำนวน 149 ชิ้น อายุ 15,000 ปี
ตั้งกระทู้ใหม่