เรื่องความเข้าใจไม่ตรงกันของสังคมไทย

        ตัวเราเอง ถ้าเปรียบเป็นต้นไม้ ก็รากงอกแล้ว คือจากเมืองไทยเมื่ออายุ 32 ขวบ (จะไม่ขอพูดละ ว่าผิดหวังอะไร ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว)

บากหน้ามาอยู่ อเมริกา ด้วย "วีซ่าท่องเที่ยว" คนเดียวที่ ลอสแองเจลิส ถึงขณะนี้ (พ.ศ.2563 / ค.ศ.2020) อายุ 75 แล้ว. ก็หวังว่ายังไม่ใกล้ฝั่งจนเกินไป ด้วยมี ย่าทวด อายุกว่า 100 ปี เมื่ออายุได้ ประมาณ 2-3 ขวบ ไปขอสตางค์ทีละ 10 สตางค์ เพื่อให้การ ปฎิบัติภาระกิจ ราบรื่น เวลาไปขอ ต้องทําเสียงให้น่ารัก ... แม่ ขอ "จิบ" ตังค์ ..แล้วคอยสังเกตุ หน้าแม่ .. เมื่อได้สตางค์มาแล้ว ก็กําอยู่ในมือ ย่าทวดเดินมาใกล้ ๆ มองเราด้วยหางตา แล้วพูดว่า "มึงอ่ะ ใช้เงินเปลือง" สมัยกู "ใช้ ทีละเฟื้อง - ทีละไพ".

การที่อยู่ในประเทศไทย และที่อเมริกา ทั้ง 2 ประเทศ นานพอสมควร จึงทำให้เห็นความแตกต่าง ทางสังคม / แนวคิด ระหว่าง 2 ประเทศอยู่บ้าง.

* ทั้ง 2 ประเทศปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย (ความจริงจะเป็นระบบ ระบอบอะไรก็ได้ ถ้าเอาส่วนที่ดีมาใช้ มาประยุกต์ จำ "แมวดำ - แมวขาวได้ไหม?")

* การปกครองระบบประชาธิปไตย หมายถึงทุกคนเกิดมามี ศักดิ์ศรี - มีสิทธิ์เท่ากันทุกคน ไม่มีการแบ่งชนชั้น, เชื้อชาติ, เพศ, ผิวสี, ฐานะทางสังคม, อายุ, การศึกษา ตั้งแต่เกิด ฯ.

* การปกครอง และ บริหารประเทศ "เป็นของ / หรือมาจากประชาชน - โดยประชาชน - เพื่อประชาชน" เท่านั้น ไม่มีการ "อ้าง - อ้อม" ตลบหลัง (ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศต้องมาก่อนเหนือสิ่งอื่นใด สำคัญกว่าประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง หมู่คณะ ไม่นำผลประโยชน์ของชาติไปตอบแทนบุญคุณใครเป็นส่วนตัว (ใน อเมริกา จะรัก จะชอบ - ไม่ชอบ อะไร ถือเป็นสิทธิส่วนตัว ห้ามก้าวก่าย )...จะประท้วงอะไร ก็ต้องมีเหตุ มีผลว่า.....อะไรไม่ถูกต้อง..ไม่เป็นธรรม..ถูกเอาเปรียบ..สิ้นเปลืองงบประมาณ อย่างไม่สมควร ไม่คุ้ม ฯลฯ ( เขาถือว่าทรัพย์สินทุกอย่างของประเทศ เป็นของประชาชนทุกคน ) จะมีข้อเสนอแนะอย่างไร ที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งปัจจุบัน และในอนาคต ไม่ใช่่เอาแต่ ต๋าหนิ ติเตียน ไม่ช่่วยกัน คิดแก้ไข หาทางออกที่ดี ! ซํ้าร้าย บางทีเอาคําที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศขึ้นมาด้วย แล้วจะให้เข้าไปร่วมด้วยอย่างไร ? .....ต้องไม่พูดเท็จ, หยาบคาย, ทําลาย ทรัพย์สิน ฯ ( ล้อเลียนได้ ) ... ที่อเมริกา เขาไม่อ้างบุญคุณย้อนหลังกัน เพราะถือว่าไม่สุภาพ .

ลึกๆอยู่ในใจ คนอเมริกันรักและเคารพสิทธิของตัวเอง และระวังไม่ก้าวก่ายในสิทธิของคนอื่น.

* ผลประโยชน์ระหว่างประเทศ เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ พี่น้องงง!!!

* คนอเมริกันรักเสรีภาพ และความเสมอภาค มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งประเทศ เห็นได้จากประธานาธิบดีคนแรกคือ จอร์จ วอชิงตัน ปฏิเสธการเข้ารับตำแหน่ง "พระเจ้าแผ่นดิน" ของประเทศอเมริกา .

* ด้วยความที่เชื่อมั่นในระบบการปกครองประเทศเป็นของประชาชน ที่ประชาชนเป็นผู้ให้ เราจึงเห็นการกระจายอำนาจในสังคมอเมริกัน แทบทุกหน่วยงานปกครอง ( ที่ต้องมี - และใช้อํานาจ , เขาไม่ต้องการให้ใครมีอำนาจมากเกิน เดี๋ยวจะลุแก่อำนาจ เห็นผิดเป็นชอบ สร้างความเดือดร้อนให้สังคม)

* ผู้ว่าการรัฐ (Governor) เปรียบเหมือนผู้ว่าราชการจังหวัดของไทยก็มาจากผลการเลืกตั้งของประชาชน ของแต่ละรัฐ , กฏหมาย ของแต่ละรัฐ อาจไม่เหมือนในรายละเอียด เช่่น สัดส่วนในการเรียกเก็บภาษี คดีอาญา บางรัฐมีโทษถึงประหารชีวิต ( เหมือนเมืองจีน ) บางรัฐก็ไม่มี ... แต่ทุกรัฐ ทุกสเตท ของอเมริกา หัวหน้าทุกหน่วยงาน ต้องรับผิดด้วย หากรองผู้บังคับบัญชา "ที่ใกล้ชิด" กระทําความผิด แทนในนาม . (ห้างร้าน เอกชน ก็เหมือนกัน / ที่เมืองไทยก็คงเหมือนกัน) .

* ส่วนตำรวจ ( ไม่ใด้ถูกส่งมาจากส่วนกลาง เหมือนเมืองไทย ) ทางเทศบาลประจำท้องถิ่น จะเป็นผู้จ้างตำรวจเอง เทศบาลก็บริหารโดยผู้ได้รับเลือกจากประชาชนในท้องถิ่น เหมือนในเมืองไทย, คิดดูก็เหมือนกับประชาชนเป็นนายจ้างของตำรวจ นั่นเอง, โลโก้ (logo) ของตํารวจ ที่ ลอสแองเจลิส คือ protect & serve ( ปกป้องคุ้มครอง และ ช่่วยเหลือ - บริการ ) ทราบมาว่า "อาชีพ ตํารวจ" ที่อเมริกา เป็นอาชีพสุจริต มีรายได้ และ สวัสดิการที่ดี สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างดี , แต่หาก ผิดพลาดขึ้นมา ไม่มีการย้ายไปประจําที่อื่น หากผิดจริงก็จะถูกดําเนินตามกฏหมาย. ขอพูดในฐานะคนนอก ( ไม่ใช่่ตํารวจ หรือทหาร ) กิจการ ของทหาร มีบางส่วนคล้าย ตํารวจ . หน้าที่ของตํารวจต้องใก้ลชิดกับประชาชน จํานวนกําลังพลต้องพิจารณา แน่ละ รายได้ / สวัสดิการ ก็ควรได้รับการปรับปรุง อย่างเร่งด่วน ให้คุณภาพชีวิตครอบครัวข้าราชการตํารวจดีขึ้น แล้วกําลังพลล่ะ ? โน่นเอามาจากทหารโน่น ให้สิทธิ์โอน ปรับยศ ตําแหน่ง ให้เหมาะสม "พุงพลุ้ย ไม่เอา" ไม่เคยเห็นตํารวจ ลอสแองเจลิส "พุงพลุ้ย" ..... กําลังพลทหารจะต้องเพิ่มขึ้นไหม ? คําตอบคือไม่ต้องเพิ่ม ! เราต้องการกองทัพ ที่ "จิ๋ว" แต่แจ๋ว !!! ใครไคร่ "เรียน" เป็นทหารอาชีพ เรียน ,ใครไคร่ เรียน "วิชาชีพ" ขณะประจําการทหาร "เรียน" มีเงินช่่วยเหลือ สําหรับคน "เบี้ยน้อย-หอยน้อย".....แล้วจะ "เอาเงิน" มาจากไหน ?..... เอามาจาก เงินที่ประหยัดได้จาก กําลังพลที่ลดลง , เอามาจากการ ประหยัด ไม่ซื้ออาวุธเตรียมทําสงครามนอกประเทศ ทุกชนิด !!!!! ถ้าประเทศไหนบอก ... ถ้าไม่ซื้ออาวุธสงคราม ... เราไม่เป็นเพื่อนกันนะ . ก็เห็นจะต้องฝึกให้คนไทยทั้งประเทศ พูดภาษาอังกฤษ ว่า "so what"? ไม่เท่านั้น ... ตั้งแต่นี้เราเรียน ทําทุกอย่างเอง เริ่มเข้ารูปโลหะ วัสดุสังเคราะห์ เอง (ไม่ใช่่รับจ้างประกอบ) ระวังเรื่อง "มลพิษ และ ขยะ" ให้ดี เพราะพื้นที่ประเทศไทยเป็นที่ลุ่ม . หลับตา มองเห็นภาพ คนไทยน่าจะทําเองได้อย่างดี เช่่น เรือเร็วตรวจน่านนํ้า ติดเรด้าร์ ตรวจวัสดุแปลกปลอม ตรวจจับฝูงปลาอพยบ ติดไฟส่องสว่างแรงสูง พร้อมห่วงชูชีพให้มากพอ กรณีย์มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเรือลําอื่น, ติดอุปกรณ์ gps ติดตั้งเครื่องเสียงกําลังสูง ติดกล้องถ่ายรูป ที่ใช้งานได้ ทั้งกลางวัน กลางคืน พร้อม เพาเว่อร์ ซูมเลนส์ ติดปืนกลแรงสูง พร้อมกล้องเล็ง ใช้ได้ ทั้งกลางวัน - กลางคืน และมีพลแม่นปืน (sniper) ประจําเรือ .

. นอกนั้น ก็สร้างเรือหาปลา ขายชาวประมง เรือท่องเที่ยวขนาดเล็ก เรือบันทุกขนาดเล็ก หรือใหญ่ ( ในภายหลัง ) ... อ้อ "อย่า" สร้างเรือดํานํ้า เพราะเข้าใจผิดกันได้ง่าย หรือถูกหลอกล่อ จากประเทศใด ประเทศหนึ่ง ใช้เรือ อะไร ก็ไม่รู้ รุกลํ้าเข้ามาในน่านนํ้า ให้เรายิง เพื่อจะได้เอาเป็นข้ออ้าง ... กรุณา อย่าคิด เอาไม้จิ้มฟัน ไปงัดไม้ซุง ! เก็บ "ความกล้าหาญ" ของท่าน หันมาทํา "สงครามการค้า" ยังพอเห็นทางชนะ... สิ่งที่ไม่เหลือบ่าฝ่าแรงที่คนไทยจะทําเองได้ มีจาระไน ไม่หมด...รถยนตร์ ใช้ไฟฟ้า ( ev)นั่นก็ใช่่ เครื่องจักร์ ที่ใช้ในโรงงาน ในสวน - ไร่ - นา ( ออกแบบรถ แทร๊คเตอร์ ดิดแอร์ คอนดิชั่น ให้ชาวไร่ ชาวนาไทย จะได้ไหม ? ), เครื่องประดับ เสื้อผ้า เครื่องสําอางค์ เครื่องครัว เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องอีเล็คทรอนิค ต่าง ๆ ยารักษาโรค อาหาร ต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องบิน ที่ไม่ต้องใช้คนขับ ( drone) ติดกล้อง เราทําเองได้ทั้งนั้น ... รัฐต้องเข้าช่่วยเหลือ ส่งเสริม เอกชน เหมือนประเทศจีน แต่อย่าไปทําเอง (ขอร้อง) . ต้องส่งเสริมคนรุ่นใหม่ ( เด็ก ) ทุกวิถีทาง ให้เก่งกว่าคนรุ่นเก่า ( แก่ ) มิฉนั้นจะพังกัน ทั้งประเทศ , คนหนุ่ม / สาว มี หนทางที่ยาวไกล ที่จะฟันฝ่านำพาประเทศ ให้ผ่านพ้นความยากลําบาก สําเร็จ .

* อย่างที่ทราบ ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของอเมริกาคือ ตำแหน่งประธานาธิบดี จะมีการเลือกทุกๆ 4 ปี ในยามปกติ ประธานาธิบดี จะดำรงค์ตำแหน่งไม่เกิน 2 เทอม ผู้ชิงตำแหน่งจะต้องผ่านการคัดเลือก จากพรรคตัวเองก่อน และต้องประกาศชื่อผู้ที่จะมาเป็น "รอง" ประธานาธิบดีให้รู้ล่วงหน้าก่อนวันเลือกตั้ง รองประธานาธิบดีมีได้เพียง 1 คน / รองนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทยมีหลายคน , ผู้สมัคร รับเลือกตั้ง ควรต้องเป็นคน มีความสามารถ สภาพจิตใจที่ดี ชีวิตครอบครัว เป็นที่น่าเชื่อถือ ... ไม่นอกใจคู่สมรส (ทั้งหญิง / ทั้งชาย) .. พูดง่าย ๆ ก็คือ "มีเมียน้อย" ไม่เป็นไร (คือมีเมียคนเดียว) ถ้ามีมากกว่าหนึ่ง ในเวลาเดียวก้น เขาถือว่าเป็น "คนที่กล้า ทรยศ ต่อคนที่รัก" ยังทําได้ นับประสาอะไรกับคนอื่น เขาจะไม่ทํารึ ? , แล้วจะให้มีอํานาจ , ยกย่อง เป็นผู้นําได้อย่างไร .

* การโหวต (VOTE) เลือกผู้นำ (นายกรัฐมนตรี / หรือชื่ออื่น) โดยประชาชนโดยตรงดูจะดีกว่าแบบเดิมที่ถูก "ล้อเลียน" ว่าประชาชนมีสิทธิ์ เพียงแค่ 4 วินาทีตอนหย่อนบัตรที่หน่วยเลือกตั้ง นอกนั้นเป็นสิทธิ์ ของนายหมู, หมา, กา, ไก่, เสือ, สิงห์, กระทิง, แรด, เขี้ยวลากดิน. กระซู่, จระเข้, ไดโนซอร์ เกล็ดแตกลายงา...ฯ มาเป็น "ตาอยู่" คว้าเอาพุงปลาไปกิน , และยัง ( เป็นเกียรติ แก่วงศ์ตระกูล อีกต่างหาก ) การเลือกผู้นำจากประชาชนโดยตรง น่าจะเป็นผู้นำประเทศที่ค่อนข้างดีกว่า, เพราะประชาชนรู้ล่วงหน้า, และถ้าได้ผู้นำเป็นคนทีทัศนคติกว้างไกล, กล้าหาญ, ฉลาด รับฟังความเห็นแตกต่าง, คิดทางบวก, และยินดีฟันฝ่าอุปสรรคของประเทศ (ซึ่งต้องมีและมากด้วย) ไปด้วยกันอย่างไม่ย่อท้อ ก็ถือว่าเป็นบุญของประเทศ, และ(ไม่ต้องไปกลัวการถูก "เลื่อยขาเก้าอี้" เพราะมีประชาชนเป็น "กันชน" ป้องกันให้จากพรรคฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ "แทงข้างหลัง" จากผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย .

* ตัวแทนในสภา (ส.ว. / ส.ส.) ทั้งหมดควรทำหน้าที่ ออกพระราชบัญญัติ ผ่านร่างกฎหมายอย่างเดียว การแย่งกันรักชาติ จนปากเป็นมัน - นํ้าลายเยิ้ม ควรหมดไปเสียที .

ถ้านายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน.... (ซึ่งเท่ากับ"ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"... อุ๊ฟ... ประทานโทษ)

* เมื่อนายก "ได้อํานาจ จากประชาชนโดยตรง การทํางาน / บริหาร แรงกดดันที่ไม่สมควรจะมี ก็น้อยลง" นายกรัฐมนตรีก็สามารถเลือกผู้บริหาร กระทรวงต่างๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ซึ่งอาจจะเป็นชาวต่างชาติก็ได้ ( เพราะบางที หาคนไทยที่จะถ่ายทอด เทคโนโลยี สมัยใหม่ไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่่ ของแปลก ) หากเราเปิดใจ เปิดประเทศ ให้เร็ว ให้มาก ก็จะเป็นผลดีต่อเราเท่านั้น ประเทศอื่น ๆ เขาทําก่อนหน้าเรานานแล้ว . (ยัดเยียด) ให้สัญชาติไทยเขาไปเลย ... ทีคนที่มาจากประเทศ เพื่อนบ้านเข้ามาเป็นแสน ยังเข้ามาได้.

ขอบคุณ,
Monty Patana

ข้อความอื่นๆ....
1 " ขุดคลองไทย ? "
      https://board.postjung.com/1261605
2 "การกระจาย และ ถ่วงดุล อำนาจ"
      https://board.postjung.com/1260107
3 "เรื่องความเข้าใจไม่ตรงกันของสังคมไทย"
      https://board.postjung.com/1237942
4 "ประเทศไทยนั้นเป็นเมืองแม่"
      https://board.postjung.com/1222755
5 "ประเทศไทยนั้นเป็นเมืองแม่, ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่ให้โอกาส"