ภาพถ่ายวินเทจอันน่าทึ่งของสัตว์เลี้ยงที่สวมหน้ากากกันแก๊สพิษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ภาพถ่ายวินเทจอันน่าทึ่งของสัตว์เลี้ยงที่สวมหน้ากากกันแก๊สพิษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
เป้นที่ทราบกันดีว่า ม้า ล่อ และลา มากกว่าแปดล้านตัว รวมไปถึงสุนัขอีกหนึ่งล้านตัว ต้องเสียชีวิตลงในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 นั่นก็เพราะสัตว์เหล่านี้ต้องทำหน้าที่สนับสนุนการสงครามในทุกๆด้าน พวกมันเป็นเพื่อนและแรงงานที่สำคัญของทหารแนวหน้า ถือเสบียงและอาวุธทางด้านหน้าและด้านหลัง รวมไปถึงร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่มนุษย์มาช้านาน ถึงแม้ว่าในบางครั้งผู้คนจะหลงลืมที่จะนึกถึงความสำคัญของเหล่าสัตว์ผู้กล้าเหล่านี้
สงครามโลกครั้งที่ 1 ยังเป็นที่รู้จักกันคือ "สงครามโลกครั้งแรก" หรือ "มหาสงคราม" มนุษย์ใช้รถไฟในการบรรทุกอาหารและกระสุนจำนวนหลายล้านตันไปยังฐานที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์ ดังนั้นม้า ล่อ และลา จึงเป็นตัวเชื่อมช่องว่างในการขนส่งเหล่านี้ แม้ว่าวิศวกรจะตั้งทางรถไฟขนาดเล็กและสายการผลิตรถยนต์ (กองทัพเยอรมันยังคงใช้ม้าลากเป็นส่วนใหญ่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 )
ชาวเยอรมันใช้สุนัข 30,000 ตัวในแนวรบด้านตะวันตก และอีกประมาณ 20,000 ตัว ที่เลี้ยงไว้เพื่อเป็นหน่วยสนับสนุน สุนัขบางตัวดึงปืนกลหนักบนรถเข็น ส่วนสุนัขบางตัวใช้ความรู้สึกที่ดีในการดมกลิ่นและการได้ยินสำหรับงานยามและงานสอดแนม
ในช่วงระหว่างปีพ. ศ. 2459 ถึง พ.ศ. 2461 ฝ่ายเยอรมันเริ่มมีการใช้อาวุธเคมีจำพวกก๊าซคลอรีนในการรบ ม้าจำนวน 2,200 ตัว ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และมนุษย์ 211 คน ต้องเสียชีวิตลง เพราะสาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะการสัมผัสกับเคมีในพื้นที่อันตราย ดังนั้นการคิดค้นหน้ากากป้องกันแก๊สพิษจึงถือกำเนิดขึ้น จากนั้นเหล่าสัตว์ก็เริ่มได้รับหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ ทหารหลายคนก็ติดหน้ากากของมนุษย์...