เสรีภาพในการแสดงออก Freedom of Expression
เสรีภาพในการแสดงออกและความคิดเห็นที่หลากหลายเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาประเทศและสังคมให้สงบร่มเย็น พื้นที่เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนทั่วโลกกำลังถูกบีบให้หดแคบ กฎหมายหลายฉบับออกใหม่โดยรัฐบาลหลายประเทศ เพื่อปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนที่จะคิด พูด พิมพ์ หรือเขียน แม่บ้านถูกตั้งข้อหาเพราะโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก นักกิจกรรมถูกจับเพราะยืนชูป้ายนิ่งๆ หน้าสถานที่ทำการรัฐบาล นักข่าวถูกจับเพราะเขียนบทความวิจารณ์สังคม นักศึกษาถูกจับเพราะแจกใบปลิวกิจกรรม ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย แต่เป็นแนวโน้มขาลงของเสรีภาพในการแสดงออกทั่วโลก
รัฐบาลไม่ว่าของประเทศใด ต่างประกาศพันธสัญญาที่จะคุ้มครองเสรีภาพของประชาชน และสร้างบทบัญญัติกฎหมายเพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก แต่ในทางปฏิบัติ เป็นที่ชัดเจนว่าไม่เป็นเช่นนั้น ประชาชนทั่วโลกหลายต่อหลายคนถูกโยนเข้าคุกเพราะแสดงความเห็นที่ไม่เข้าหูผู้มีอำนาจ เราอาจเคยชินกับการเซ็นเซอร์ตัวเองในการแสดงความเห็นประเด็นทางสังคมบางประเด็นในพื้นที่สาธารณะหรือบนโลกดิจิทัล โดยอาจไม่เคยเอะใจ ว่าการเซ็นเซอร์การแสดงออกของตัวเองเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เราควรจะยอมรับหรือไม่ เราอาจจะพอทนกับการเซ็นเซอร์ตัวเองในขณะนี้ แต่ในอนาคต เพื่อนบ้านของเรา เพื่อน หรือบุคคลที่เรารัก อาจจะตกอยู่ในอันตรายจากการถูกจับกุมหรือถูกตั้งข้อหาเพียงเพราะการแสดงออกอย่างสงบก็เป็นได้ แล้วเราจะมีหนทางเปลี่ยนวิถีที่ไม่ควรจะถูกต้องเหล่านี้อย่างไร
สิทธิของบุคคลทุกคนที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการแสดงความคิดเห็น เป็นสิทธิในระดับสากลที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายระหว่างประเทศ เสรีภาพในการแสดงออกเป็นพื้นฐานของความเจริญของสังคมและความงอกงามของปัจเจกบุคคล คุณภาพการศึกษา การสร้างและพัฒนาเทคโนโลยี ความก้าวหน้าของภาคธุรกิจ และการเข้าถึงความยุติธรรม ล้วนมีพื้นฐานจากการที่บุคคลทุกคนในสังคมมีเสรีภาพที่จะพูด เขียน แลกเปลี่ยน หรือถกเถียงความคิดความเห็นต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้ความคิดเหล่านั้นพัฒนาต่อยอดนำไปสู่ความรุ่งเรืองของสังคม