10 สิงหาคม "วันขี้เกียจสากล" สิ่งที่ควรทำในวันนี้
สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน รู้หรือไม่ วัน 10 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันที่ชาวโลกมีฉันทามติร่วมกันให้เป็น “วันขี้เกียจสากล” ยิ่งในวิถีชีวิตแบบโลกปัจจุบันแล้ว การทำงาน การดำเนินกิจกรรม ล้วนหมุนไปด้วยความเร่งรีบ แข่งกับเวลา จนเรา “ไม่มีเวลา” ให้กับการหยุดคิดไตร่ตรองถึงชีวิต และการผ่อนคลาย จะดีแค่ไหนหากวันนี้ เราจะได้มีข้ออ้างให้กับการขี้เกียจบ้าง โดยที่คำว่า “ขี้เกียจ” ใช่ว่าจะหมายความในด้านลบเสมอไปนะครับ
กับคนที่มีนิสัยเสพติดการทำงาน จริงจัง มุมานะ กับชีวิต การปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจบ้างถือเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งครับ การพักผ่อนที่เพียงพอการันตีว่าส่งผลดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน เช่น ทำให้ร่างกายมีพลังงานเหลือในการทำกิจกรรม การหลับเต็มอิ่มทำให้ช่วยห่างไกลโรค และป้องกันสมองจากการถูกทำลาย คุณจะพบว่าเพียงแค่คุณนอนหลับเต็มที่อย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะรู้สึกเฟรช และความจำดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในวันขี้เกียจสากล ผู้เขียนขอแนะนำให้คุณทำ 5 สิ่งเพื่อให้รางวัลกับตัวเองที่ตรากตรำร่ำเรียนทำงานหนักมาตลอดทั้งปีครับ
1.นอนเล่นบนเตียง
แน่นอนว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ เป็นวันทำงาน แต่เราอยากให้คุณแบ่งเวลา หลังเลิกงานเมื่อกลับถึงบ้าน วางภาระทุกอย่างลง อย่าเพิ่งซักผ้า ล้างจาน หรือทำกิจกรรมอะไรที่คุณทำเป็นประจำ ขอเพียงล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ๆ จะลืมตาโพลงหรือหลับตาพริ้มก็ได้ ขอแค่ปล่อยใจปล่อยสมองให้ว่างเปล่า ลอยล่อง เพราะคุณมีความคิดวุ่นวายยุ่งเหยิงมาทั้งวันแล้ว
2.นอนฟังเพลงโง่ ๆ
ใส่หูฟัง เปิดยูทูป ปล่อยให้เพลงไหลผ่านหูไปพร้อมจังหวะดนตรีที่ขยับตรงกับเสียงของหัวใจ ไม่ต้องจดจำทำนองหรือเนื้อร้อง ให้รับรู้ถึงแค่ความไพเราะ ฟังเพลงแบบขี้เกียจๆ ที่ไม่ต้องเปลืองสมอง แต่ช่วยเพิ่มสุนทรีย์ให้กับสมองและร่างกาย
3. ปิดโทรศัพท์
ข้อนี้ฟังดูขัดแย้งกับข้อ 2 แต่เราหมายถึงให้คุณตัดการติดต่อสื่อสารออนไลน์ทุกช่องทางชั่วคราว เพระในโลกดิจิตอล การติดต่อเป็นไปอย่างง่ายดายจนหลายครั้งการทำงาน ปฏิสัมพันธ์จากผู้คนที่เรารูัจัก รุกล้ำเข้ามาเกาะกินพื้นที่ชีวิตจนเราไม่สามารถสลัดออกได้ ลองตัดฉับสิ่งเหล่านั้น และให้เวลาคุณอยู่กับตัวเองชั่วคราว ทบทวนสิ่งที่อยากนึก ดื่มด่ำทุกวินาทีแห่งความสุขที่มีแต่ตัวคุณ
4.กินอาหารอร่อยๆ
ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีความสุข และความขี้เกียจใด จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการปล่อยตัวตามใจปาก ขอสักวันให้คุณได้กินอาหารที่อยากกินโดยไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องคำนวณแคลรอลี่ หรือความอ้วน
เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นครับ เราลองใช้ความขี้เกียจให้เต็มเหนี่ยว ชาร์ตพลังตัวเองให้เต็มที่ แล้วกลับไปเป็นคนคึกคักในวันพรุ่งนี้ด้วยกันครับ