มาแก้อาการปวดหัวโดยการไม่พึ่งยาแก้ปวดกันดีกว่า
ปวดหัวเรื้อรัง การกินแต่ยาแก้ปวดหัว ไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป
อาการปวดหัวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน แต่การที่ปวดหัวอยู่เป็นประจำ ปวดหัวบ่อยๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ทั้งยังบั่นทอนสุขภาพกายใจได้ด้วย คนที่ปวดหัวมากๆ มักจะหาทางออกด้วยการกินยาแก้ปวดอยู่เป็นประจำ บางคนก็ติดถึงขนาดกินทุกวันเลย ซึ่งจะส่งผลไม่ดีต่อตับเอาเลยนะ ดังนั้นแล้วเราควรที่จะมาลองแก้ปวดหัวด้วยวิธีอื่นแทนการกินยากันดูดีกว่า
/canva
13. ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะ
เพราะว่าการดื่มน้ำเปล่า จะช่วยให้ร่างกายของคนเราทำงานได้อย่างเป็นปกติดียิ่งขึ้น เนื่องจากเลือดไม่ข้นเหนียวจนเกินไป การดื่มน้ำจะทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตมันดี ขึ้นนำพาออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี การขาดน้ำเรื้อรังจะทำให้เกิดอาการปวดหัว เพราะกล้ามเนื้อเกร็งมีการปวดหัวไมเกรน ดังนั้นในแต่ละวันแล้วจึงควรดื่มน้ำเปล่าให้พอเพียง หรือรับประทานอาหารที่มีน้ำเยอะ อย่างเช่น แตงโม ส้ม เพื่อป้องกันการขาดน้ำ และส่งเสริมระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายเป็นปกติได้
12. ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ถึงแม้ว่าเราควรจะดื่มน้ำให้เยอะๆ แต่ว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้สูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ทั้งเสียเหงื่อเยอะ และปัสสาวะบ่อย จนอาจนำไปสู่สภาวะการขาดน้ำที่ทำให้อาการปวดหัวแย่ลงได้ อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้บางคนยิ่งปวดหัว กล้ามเนื้อเกร็งหนักมากขึ้นอีกด้วย
11. พักผ่อนให้เพียงพอ
มีการศึกษาวิจัยพบว่า ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวรุนแรงเป็นประจำ พบว่าอาสาสมัครที่นอนหลับได้รวมกันไม่ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน มักจะมีอาการปวดหัวรุนแรง และบ่อยกว่าอาสาสมัครกลุ่มที่นอนหลับเป็นเวลานานกว่า แต่ว่าคุณก็ควรใช้เวลาในการนอนหลับอย่างพอดี คือวันละ 8-10 ชั่วโมง แต่การนอนหลับที่ใช้เวลานานจนเกินไปไม่ได้ช่วยแก้อาการปวดหัว แต่ก็ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและปวดหัวได้เช่นเดียวกัน
10. งดอาหารที่มีสาร Histamine สูง
Histamine คือสารที่เป็นตัวเร่งเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ระบบการย่อยอาหาร และระบบประสาท หากได้รับสารตัวนี้มากจะเกิดอาการภูมิแพ้ พบได้ในอาหารจำพวกหมักดอง ปลารมควัน เบียร์ ไวน์ เนื้อสัตว์ เนื้อหมักเกลือตากแห้ง ผู้ที่ไวต่อฮีสตามีน หรือว่าร่างกายไม่สามารถย่อยสารตัวนี้ได้ตามปกติ จะมีแนวโน้มปวดหัวได้บ่อยๆ ดังนั้นแล้ว การงดบริโภคอาหารที่มีสารฮีสตามีนสูง ก็อาจจะช่วยแก้ปวดหัวในคนที่มีอาการปวดหัวเป็นประจำได้
9. ใช้ของเย็นประคบ
การประคบเย็น ไม่ว่าจะเป็นการใช้แผ่นเจลความเย็น หรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณลำคอหรือศีรษะเป็นเวลา 15 ถึง 20 นาที สามารถช่วยลดการอักเสบ ชะลอการปวดประสาท ยับยั้งการไหลเวียนของโลหิตที่รุนแรง ซึ่งช่วยลดการกระตุ้นอาการปวดหัวลงได้ เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อเกิดอาการปวดหัวแล้ว ลองไปหาแผ่นเจลความเย็น มาปิดช่วงบริเวณลำคอ และศีรษะดูน่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้
8. ลองดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
อาจจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ ในคนที่ติดการดื่มชา กาแฟ เมื่อไม่ได้ดื่มจะรู้สึกปวดหัว และไม่สดชื่น แต่หากได้ดื่มชาหรือกาแฟแล้ว ก็จะรู้สึกทำให้อาการปวดหัวดีขึ้นได้ ทั้งนี้ก็เพราะทั้งชาและกาแฟจะสามารถช่วยเร่งการไหลเวียนของเลือด ทำให้ตื่นตัวและได้รับออกซิเจนมากขึ้นลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรรับคาเฟอีนแต่พอดี เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดสภาวะถอนคาเฟอีน หรือว่ามีอาการลงแดง เมื่อไม่ได้รับคาเฟอีน เพราะนั่นจะทำให้คุณปวดหัวหนักกว่าเดิมได้
7. บริโภคโคเอนไซม์ Q10
โคเอนไซม์ Q10 เป็นสารที่มีหน้าที่ช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน และช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ จากการศึกษาค้นพบว่า ในอาสาสมัครจำนวน 80 คนที่รับประทานอาหารเสริมที่มีโครเอนไซม์ Q10 วันละ 100 มิลลิกรัม จะมีอาการปวดหัวไมเกรน และอาการวิงเวียน คลื่นไส้ ที่มักเกิดร่วมกับการเป็นไมเกรนได้น้อยลงด้วย
cr. https://pixabay.com/photos/people-man-guy-frustration-2568886/
6. ลองฝังเข็มดู
เป็นศาสตร์โบราณที่มีมาตั้งแต่ช้านานแล้ว ทั้งนี้ได้มีการวิจัยกว่า 22 ฉบับ ซึ่งได้อาสาสมัครเข้าร่วมกว่า 4000 คน ค้นพบว่าการฝังเข็มจะสามารถรักษาอาการปวดไมเกรนได้ดี ไม่แพ้การกินยาเลย ทั้งยังได้ผลดี และปลอดภัยกว่าการกินยากันชักแก้อาการเสียด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ดีการรักษาด้วยการฝังเข็ม ก็ควรทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น
5. นวดอโรม่าผ่อนคลาย
การนวดผ่อนคลายที่บริเวณไหล่คอ และขมับประมาณ 2-3 นาที ก็สามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดหัว หรือปวดหัวจากความเครียดได้ ยิ่งถ้าเป็นการนวดแบบใช้น้ำมันผ่อนคลายด้วยแล้วล่ะก็ จะยิ่งได้ผลดีมากขึ้นด้วย
4. เล่นโยคะ
การฝึกโยคะ เป็นการช่วยผ่อนคลายความเครียด ลดอาการเกร็ง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย ก็สามารถช่วยลดความรุนแรงและความถี่ในการปวดหัวได้ด้วย ในงานวิจัยได้อาสาสมัครที่มีอาการปวดหัวไมเกรนเรื้อรังกว่า 60 คน พบว่ากลุ่มที่รักษาอาการปวดหัวด้วยยาแผนปัจจุบันร่วมกับการเล่นโยคะ สามารถลดอาการปวดหัวได้ดีกว่าคนที่รับประทานยาเพียงอย่างเดียว
3. หมั่นออกกำลังกาย
โดยเฉพาะการออกกำลังกายในลักษณะแอโรบิค เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ พวกนี้สามารถช่วยแก้ปวดหัวได้ เพราะการศึกษาวิจัยค้นพบว่า ผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนั้น จะเสี่ยงปวดหัวและปวดหัวเรื้อรังกว่าผู้ที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายจะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเพิ่มออกซิเจนให้ร่างกายรู้ดีและสดชื่นได้ แต่ว่าหลังจากออกกำลังกายแล้ว ก็ควรดื่มน้ำให้เพียงพอด้วย เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ และรู้สึกอ่อนเพลียทำให้ปวดหัวได้นั่นเอง
2. ใช้น้ำมันหอมระเหย
พบว่าการใช้น้ำมันหอมระเหย จะช่วยให้ประสาทสัมผัสรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้มีอาการปวดหัวน้อยลง น้ำมันหอมระเหยที่เป็นที่นิยม และมีฤทธิ์ช่วยแก้ปวดหัวได้นั่นได้แก่ น้ำมันยูคาลิปตัสจะช่วยลดอาการปวดหัวเพราะไซนัสได้ น้ำมันเปปเปอร์มินต์ มีส่วนช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อเกร็ง หรือปวดหัวจากความเครียดได้ น้ำมันดอกลาเวนเดอร์มีส่วน ช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้
1. เสริมธาตุแมกนีเซียม
แมกนีเซียม คือ แร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ส่งผลกับการทำงานของระบบประสาท มีหลักฐานชี้ชัดว่าในผู้ที่ปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง จะเกิดภาวะขาดแมกนีเซียมมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ปวดหัว เมื่อได้รับอาหารเสริมแมกนีเซียมซิเตรท วันละ 600 มิลลิกรัม จะช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ แต่ในบางคนที่กินอาหารเสริมประเภทแมกนีเซียม ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้นั่นก็คือ อาการท้องเสียดังนั้นแล้ว ควรเริ่มจากปริมาณยาน้อยๆ ดูก่อน
cr. https://pixabay.com/photos/desperate-thinking-stressed-out-5011953/
โดยวิธีทั้งหลายที่แนะนำมานี้ หากทำอยู่เป็นประจำแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อคนที่มีอาการปวดหัวเรื้อรัง ที่ไม่ต้องมาเผชิญกับอาการปวดหัวบ่อยๆ และยังไม่ต้องแก้ปัญหาด้วยการกินยาให้ตับแย่ลงอีกด้วย เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุซึ่งจะได้ผลดีมากกว่ากันเยอะ
คุณมีอาการปวดหัวอยู่เป็นประจำหรือไม่?
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดโหวต กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ