มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน หนีหอ
ชีวิตเด็กหอใครว่าดี…ใครว่าสนุก
ซึ่งถ้าใครคิดแบบนั้นเราก็อยากแนะนำให้มาอยู่บ้างจะได้รู้ว่ามันไม่ได้สนุกเสมอไป
เราชื่อ นิก เป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของมหาลัยแห่งหนึ่ง
ต้องบอกก่อนว่านักศึกษาที่ มอ นี้เขาไม่ได้บังคับว่าปีหนึ่งจะต้องอยู่หอในทุกคน ใครจะอยู่หอนอกก็ได้แล้วแต่ความสะดวก
เราเองก็ไม่ได้อยากอยู่ไรเลย แต่พ่อแม่เราอยากให้อยู่เพราะคิดว่ามันปลอดภัย มันมีเวลาเข้าออกที่เป็นระเบียบเขาจึงบังคับให้เราอยู่ เราจึงตัดสินใจอยู่เพื่อความสบายใจของพวกเขา
และพอเราเลือกอยู่หอพัก เราก็มีรูมเมทคนหนึ่งชื่อจอย
จอยเป็นเหมือนเด็กดื้อคนหนึ่งที่พ่อแม่บังคับให้มาอยู่หอในเหมือนเราซึ่งด้วยความดื้อของจอยนี้แหล่ะที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เราทั้งสองได้พบเจอเรื่องแปลกๆของหอนี้
โดยเรื่องมันมีอยู่ว่า…วันหนึ่งมันมีงานรับน้องของหอใน เรากับจอยก็ไปร่วมงานเช่นกัน และพอเลิกงานต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับห้องเพราะรุ่นพี่กำชับว่าห้ามอยู่เกินเที่ยงคืน
เรากับจอยก็กลับห้องตามที่พี่บอก แต่ตอนกลับมาที่ห้องก็เป็นเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่า ซึ่งตอนนั้นจอยได้ชวนเราออกไปเที่ยวเพราะจอยนัดเพื่อนไว้
ตอนแรกเราก็ขัดจอยอยู่หรอก แต่พอขัดไปมามันขัดไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องไปกับจอย และให้จอยสัญญากับเราว่าต้องกลับให้ทันก่อนเที่ยงคืน
จอยเองก็รับปาก เราทั้งสองจึงแอบหนีออกจากหอตอนคนเฝ้าหอเผลอแล้วออกไปเที่ยวทันที
และมันก็แน่นอนละว่า พออกไปเจอไฟแสงสีมันก็เพลินไป ทำให้เวลามันเลยเที่ยงคืนมาละ เราทั้งสองกลับมามันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้ว
เราแอบซีเรียสนิดหน่อยว่า..ถ้าประตูหอปิดซวยแน่นอน
แต่บนความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อเรามาถึงหอ คนปิดประตูแอบหลับอยู่ เรากับจอยจึงแอบเข้าไปได้แบบหวุดหวิด
ซึ่งพอแอบเข้าเราก็เดินขึ้นบันไดกันไปตามระเบียบเพราะลิฟท์เขาปิดการใช้งานไปล่ะ
ในขณะที่เดินขึ้นจอยก็หัวเราะแบบสะใจ
“ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
ดีใจที่สามารถเข้าหอมาแบบที่ไม่มีใครจับได้…และในขณะที่จอยหัวเราะอยู่ดีๆไฟที่ทางเดินก็ดับๆติดๆแถมยังมีเสียงหัวเราะต่อจากเสียงที่จอยหัวเราะไป แต่เสียงหัวเราะนั้นมันจะแหลมๆเล็กๆซึ่งต่างจากเสียงจอยเลยสิ้นเชิง
ในขณะนั้นจอยกับเราก็หยุดเดินแล้วมองหน้ากัน
ในตอนนั้นเราเริ่มกลัวมาละ จับแขนจอยแน่น แต่จอยก็ปลอบเรากลับมาว่า
“ ไม่มีไรหรอก มันคงเป็นแค่เสียงแอคโค”
และพอจอยพูดจบเราก็จับแขนจอยเดินท่ามกลางไฟที่ดับๆติดๆเรื่อยๆ จนกระทั่งเดินมาถึงชั้น 4 เป็นชั้นของห้องเรา ซึ่งไฟมันก็ไม่ได้ดับๆติดๆล่ะ แต่ไฟมันไม่ติดเลย
ซึ่งเป้าหมายเรากับจอยคือต้องเดินฝ่าความมืดจากบันไดไปยังอีกฝั่งหนึ่งของหอ
และในขณะที่เรากำลังเดินก็เหมือนมีอะไรวิ่งผ่านไปมาวูปมาอยู่ทางด้านหลัง จนเราสองคนต้องหันควบไปมองพร้อมกัน
แต่พอหันมามองก็ไม่เจออะไรเลยนอกจากถังขยะที่ตั้งอยู่ตรงมุม
ซึ่งในตอนที่เรายืนมองถังขยะ ก็เหมือนมีคนมายืนอยู่ข้างหลังเราสองคน
ในตอนนั้นเราจับมือจอยแน่นมาก ความรู้สึกเหมือนเริ่มอึดอัดอยากจะกรี๊ด แต่ก็กรี๊ดไม่ได้เพราะกลัวคนรู้ว่าหนีเที่ยว
จังหวะนั้นเราก็จอยก็หันควับกลับมาพร้อมกันอีกที แต่ก็ไม่เจออะไร
จอยจึงหันมองเราแล้วบอกให้รีบไปเถอะ เรากับจอยจึงตัดสินใจวิ่งทันที
แต่ในขณะที่วิ่งดูเหมือนเราจะวิ่งกันแบบผ่านไปแค่ห้อง 1 2 3 4…และก็วนมา 1 2 3 4 โดยไม่ถึง 5 สักที จนเราเริ่มเหนื่อยแล้วดึงจอยให้หยุดวิ่ง
พอเราหยุดวิ่งเราทั้งสองก็ได้ยินเสียงหัวเราะ
“ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ดังมาจากข้างหลังดังมาก เสียงหัวเราะเหมือนคนสะใจอะไรสักอย่าง
ตอนนั้นเรากลัวมากแทบจะร้องไห้แต่จอยจับมือเราเน้นพร้อมบอกว่าให้วิ่งต่อ เราจึงตัดสินใจหลับตาวิ่งต่อท่ามกลางเสียงหัวเราะของอะไรก็ไม่รู้
แต่รอบนี้การวิ่งของเราสำเร็จ เราวิ่งมาจนถึงห้องเราและทั้งสองรีบเข้าห้องไปทันที
พอเข้าห้องได้เราทั้งสองก็ทรุดนั่งที่ประตูพร้อมกับอาการหอบ
แต่ก็นั่งหอบได้ไม่ถึงสิบวิ เพราะจอยทุบมือเราแล้วชี้ไปข้างหน้า ตอนนั้นเราก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงมองตามไปที่นิ้วจอยที่ชี้ไปจนพบว่าข้างหน้าเรานั้นมีผู้หญิงผมยาวค่อยๆคลานลงมาจากเตียงพร้อมๆกับมองมาที่เรา
ซึ่งในตอนนั้นเราทั้งสองไม่มีแรงจะวิ่งหนีละ บวกกับสิ่งที่เห็นข้างหน้ามันทำเอาเราทั้งสองช็อคมาก เพราะผู้หญิงผมยาวที่คลานลงมาจากเตียงกระโจนมาหาเราสองคนอย่างรวดเร็วจนเราทั้งสองต้องปล่อยเสียงกรี๊ดดดดดดไปดังสนั่นหอ
และเสียงกรี๊ดของเรานี้ละที่ทำเอาคนทั้งหอตื่นแล้ววิ่งมาดูพวกเรา
ซึ่งพอมาถึงพวกเขาก็รีบพยุงเราลุกขึ้นและค่อยๆประครองจอยให้ลุกเช่นกันเพราะตอนนี้จอยสลบไปเลย
เราเองดีใจมากที่มีคนมาช่วย และก็แปลกใจมากเช่นกันที่เรากับจอยไม่ได้อยู่ห้องตัวเองแต่เป็นห้องเก็บของที่อยู่ริมบันไดซะงั้น
ตอนนั้นสงสัยมากว่า เราเข้าห้องเรามานิ แต่ทำไมอยู่ดีๆมาโผล่ห้องเก็บของได้
และพอออกจากห้องนั้นมาได้ เราก็โดนรุ่นพี่ด่าหนักมาก และมีรุ่นพี่คนหนึ่งยอมเล่าประวัติหอให้ฟังว่า
“ ที่ห้ามไม่ให้ขึ้นหอเกินเที่ยงคืนก็เพราะแบบนี้แหล่ะ เพราะเคยมีคนเจอแบบนี้หลายเคสแล้ว ซึ่งผีที่เห็นก็เป็นผีรุ่นพี่ที่เคยไล่ตามรุ่นน้องที่หนีหอ
แต่บังเอิญตอนไล่โรคหัวใจกำเริบและตายไปเลย มันจึงเป็นเหมือนสิ่งที่ฝังใจเขาตลอดมา ทำให้เวลามีเด็กหนีหอจะเจอดีทุกราย”
เรายอมรับว่าตอนที่เราฟังเราก็กลัวนะ กลัวจนนั่งสั่นอะ เพราะตอนที่เจอจริงๆมันน่ากลัวมากจนคิดว่าตัวเองจะไม่รอดอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราก็แอบดีใจที่เรากับจอยไม่ได้เป็นอะไร
และหลังจากนั้นเรื่องทีเราหนีเที่ยวในวันนั้นก็ดังไปทั้งหอ เราทั้งสองก็ถูกทำโทษไปตามระเบียบ แต่มันก็ดีที่การเจอครั้งนี้มันเป็นบทเรียนหลายๆอย่าง แม้กระทั่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เรากับจอยขอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแบบกะทันในทันที
สามารถรับชมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/38Y9QeY