หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สัตว์ใกล้ตัวที่กำลังจะสูญพันธุ์ก่อนที่เราจะรู้ตัว

เนื้อหาโดย Noxx

อยากให้ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์อยู่เหมือนเดิม ให้เรากับสัตว์ร่วมโลกอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่ลดจำนวนและสูญพันธุ์ไปอย่างนี้เลย

สัตว์ต่างๆ ที่เรามีโอกาสได้พบและเห็นตามธรรมชาติในยุคปัจจุบันนี้ หลายๆ ชนิดเราคงจะคาดไม่ถึงว่ามันมีจำนวนลดลงอย่างน่าใจหาย แม้ในตอนนี้เราจะยังมีโอกาสได้พบได้เห็นอยู่ แต่การลดจำนวนของมันก็อาจจะทำให้พวกมันเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ หากไม่ได้รับการดูแลแก้ไขอย่างทันท่วงที มีสัตว์อะไรบ้างที่เราอาจจะคาดไม่ถึงว่ามันใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ลองมาดูกันเลยค่ะ

1. นกแก้วมาคอว์

นกที่มีสีสันจัดจ้านจากป่าอเมซอน โดยเฉพาะชนิดที่เป็นสีฟ้าอย่าง Spix's Macaw และ Hyacinth Macaw ซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดการซื้อขายสัตว์ป่าเป็นอย่างมาก ทำให้นกแก้วมาคอร์ถูกได้อย่างผิดกฎหมาย เพื่อนำมาขายเป็นสัตว์เลี้ยงไปทั่วโลก ในช่วงปี 2016-2018 ได้มีการสำรวจที่บราซิลกลับไม่พบร่องรอยของนกแก้ว Spix's Macaw ตามธรรมชาติ คาดการณ์ว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปจากแหล่งที่อยู่ธรรมชาติแล้ว สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากการถูกจับไปเป็นสัตว์เลี้ยง และการถูกทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติเพื่อทำการเกษตร ส่วน Hyacinth Macaw ก็เชื่อว่ายังเหลืออยู่ในผืนป่าธรรมชาติไม่ถึง 5,000 ตัว ยิ่งถูกขายด้วยราคาที่สูงมากก็ยิ่งทำให้ทั้งตัวนกและไข่ของนกชนิดนี้ ถูกตามล่าอย่างหนักเพื่อนำไปขายราคาสูงในตลาดมืดอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะพอทำการเพาะพันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวนได้บ้าง แต่ก็เป็นสัตว์ที่หาได้ยากในป่าธรรมชาติลงทุกที

cr. https://spotlight.it-notes.ru/images/ecd4a91d17698a8ed11df9d6ff39c9d3

2. หิ่งห้อย

สำหรับเด็กที่เกิดในช่วงปี 90 ยังพอจะมีโอกาสได้เห็นและเล่นกับเจ้าหิ่งห้อยในยามพลบค่ำและกลางคืนกันมาบ้าง หิ่งห้อยคือแมลงที่สามารถเปล่งแสงด้วยตัวเองได้ในตอนกลางคืน แต่ก็มีจำนวนลดน้อยลงในธรรมชาติจนยากที่จะหาเจอกันแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ตามที่ต่างๆ ทั่วโลกเองก็พบหิ่งห้อยน้อยลงเช่นเดียวกัน แม้แต่แหล่งที่ขึ้นชื่อว่าไปเที่ยวชมหิ่งห้อยอย่างอัมพวาที่สามารถพบหิ่งห้อยได้ตามต้นลำพู ก็กำลังลดจำนวนลงเรื่อยๆ เพราะตามธรรมชาติแล้วหิ่งห้อยจะอยู่ในที่ที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ มีน้ำสะอาดซึ่งสถานที่เหล่านี้ก็มีจำนวนน้อยลงไปเรื่อยๆ ทำให้หิ่งห้อยหายไปจากธรรมชาติด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงโลกเราก็เริ่มมีความสว่างในยามค่ำคืนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หิ่งห้อยมีการจับคู่ผสมพันธุ์ในตอนกลางคืนน้อยลง หรือต้องใช้เวลาในการจับคู่นานขึ้น แม้ตอนนี้จะยังพบหิ่งห้อยในธรรมชาติได้อยู่บ้าง แต่ก็มีจำนวนลดลงมากกว่าสมัยก่อนอยู่เยอะเลย ถ้าไม่ช่วยกันอนุรักษ์รักษาธรรมชาติแล้วล่ะก็ หิ่งห้อยอาจจะสูญพันธุ์ภายใน 5-10 ปีข้างหน้านี้แน่ๆ

cr. http://www.fireflyexperience.org/photos/

3. ผึ้ง

แมลงที่เราเคยพบเห็นกันได้มาตั้งแต่เด็กๆ และน้ำผึ้งเองก็เป็นอาหารที่เรากินกันอยู่ทั้งเป็นอาหารและยาอยู่ในทุกวันนี้ กำลังจะหายไปจากโลกจริงๆ น่ะหรือ ถ้ายังจำกันได้ช่วงปี 2006-2007 เกิดปรากฏการณ์ที่ผึ้งหายไปจากโลกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือรวมถึงยุโรปอีกหลายๆ ประเทศ ซึ่งผึ้งได้หายไปจำนวนถึง 40%-90% เลย ซึ่งผึ้งที่หายไปส่วนมากคือผึ้งงาน ซึ่งถ้าไม่มีผึ้งงานคอยทำงานเติมน้ำผึ้งให้กับรัง รังของผึ้งก็จะล่มสลายไปด้วย ส่งผลทำให้ประชากรผึ้งไม่มีการกำเนิดเพิ่มได้ ที่น่ากังวลก็คือ ถ้าผึ้งหายไปก็จะไม่มีการผสมพันธุ์ของเกสรดอกไม้ ทำให้การเจริญเติบโตของพืชและผลไม้ลดลงตามไปด้วย คาดว่าการลดจำนวนของผึ้งนั้นอาจจะเกิดมาจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการใช้ยาฆ่าแมลงในวงการเกษตรกรรม หรือสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไวรัสในแมลงบางชนิดอีกด้วย หากขาดผึ้งไปก็อาจทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลในการขยายพันธุ์พืชได้ เพราะแม้แต่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังยังเคยกล่าวเอาไว้ว่า "หากผึ้งหายไปจากโลก มนุษย์เองก็จะเหลือเวลาในการมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 4 ปี" ฟังแล้วดูน่ากลัวเลยใช่ไหมล่ะ?

cr. http://www.gardenersworld.com/plants/features/wildlife/plants-for-bees/1107.html

4. กบ

เรามักจะเห็นกบเป็นจำนวนมากหลังจากที่ฝนตก แต่ในปีหลังๆ มากบคือสัตว์ที่ต้องเผชิญกับการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในพื้นที่บางแห่ง อย่างเช่นที่ ปานามาและยุโรปบางพื้นที่ จำนวนกบลดลงในพื้นที่ธรรมชาติเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพบสิ่งที่ทำให้กบต้องตายเป็นจำนวนมากซึ่งเกิดจากเชื้อราที่มีชื่อว่า Barachochytrium dendrobatidis ที่คาดการณ์ว่ามาจากคนและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่ถูกเคลื่อนย้ายจากทวีปหนึ่งมาสู่อีกทวีปหนึ่งทางการขนส่งจากเครื่องบิน ซึ่งก็ทำให้เชื้อโรคหรือเชื้อราที่ไม่เคยมีในแถบบริเวณนี้เกิดขึ้นมาได้ ทำให้กบที่ไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อราชนิดนี้พากันล้มตายเป็นจำนวนมาก จนกบพื้นเมืองมีเหลืออยู่เพียงแค่ในศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเพียงเท่านั้น นอกเหนือจากนี้กบที่หายากก็เริ่มหาไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดกบถือว่าเป็นสัตว์ที่อยู่รอดจากการสูญพันธุ์ในช่วงยุคไดโนเสาร์มาแล้วยังอยู่ไม่ได้ เชื่อว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคนก็คงอยู่บนโลกไม่ได้เช่นเดียวกัน หากกบต้องสูญพันธุ์ไปจริงๆ

cr. http://www.dailymail.co.uk/news/article-2201057/Jumping-bandwagon-Two-lazy-tree-frogs-hop-friend-lift.html

5. ม้าลาย

ส่วนใหญ่เราจะมีโอกาสได้พบกับม้าลายตามสวนสัตว์และในสารคดี โดยที่เราไม่รู้ว่าม้าลายก็มีอยู่ 2 สายพันธุ์ ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อยู่ในตอนนี้คือ พันธุ์ Grevy’s Zebra และพันธุ์ Mountain Zebra ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากโดนลุกล้ำแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งหากิน เพราะมีคนบุกรุกที่เพื่อทำการปศุสัตว์โดยการปล่อยฝูงสัตว์จำนวนมากให้กินหญ้าในทุ่ง ทำให้หญ้าเกิดใหม่มีไม่เพียงพอสำหรับเป็นอาหารให้กับม้าลาย รวมถึงปัญหาภัยแล้งรุนแรงที่โลกนี้เริ่มเผชิญขึ้นมากขึ้นทุกๆ ปี ทำให้พวกมันต้องเดินทางหาแหล่งน้ำตามธรรมชาติไกลยิ่งขึ้น เสี่ยงต่อการถูกนักล่าโจมตีหมายเอาชีวิต ทำให้จำนวนม้าลายที่มีน้อยอยู่แล้วในตามธรรมชาติยิ่งลดจำนวนลงไปอีก หรือแม้แต่ม้าลายที่อยู่ตามประเทศที่มีสงครามก็ส่งผลทำให้เกิดอาหารขาดแคลน ทำให้คนในพื้นที่เหล่านั้นหันมาล่าและบริโภคม้าลายกันมากขึ้น ทำให้จำนวนม้าลายลดลงไปด้วย ถือเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าการลดลงของจำนวนสัตว์ในธรรมชาตินั้น เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์โดยตรงจริงๆ เราควรมีการเปลี่ยนแปลงและรีบอนุรักษ์เอาไว้ ก่อนที่สัตว์เหล่านี้จะหลงเหลืออยู่เพียงภาพวาด รูปถ่าย หรือสารคดีให้เราได้ดูเพียงเท่านั้น

cr. https://www.theguardian.com/environment/gallery/2018/oct/08/patterns-in-nature-2018-rsb-photographer-of-the-year-shortlist-in-pictures

6. ยีราฟ

สัตว์คอยาวที่เป็นขวัญใจของน้องๆ หนูๆ ในยามที่ไปเที่ยวสวนสัตว์ เป็นสัตว์ที่เราเองก็ไม่คุ้นเคยกับการมีอยู่ตามธรรมชาติของพวกมัน เนื่องจากมันจะอาศัยอยู่กันในแอฟริกาเป็นส่วนใหญ่ การลดจำนวนลงของยีราฟเกิดจากการล่าแบบทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย การเผชิญภัยแล้ง การถูกบุกรุกที่อยู่อาศัย ยีราฟเป็นสัตว์ใหญ่ที่ร่างกายของมันสามารถเป็นประโยชน์ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่มีปริมาณมาก ความต้องการกระดูกมาทำงานแกะสลัก แต่ก็ยังพอมีข่าวดีมาสำหรับเหล่าคนรักยีราฟ เมื่อทาง CITES ได้ประกาศคุ้มครองยีราฟเป็นครั้งแรกช่วงสิงหาคมปี 2019 ที่ผ่านมา ทำให้ยีราฟจะได้เพิ่มการคุ้มครองและมีการเข้มงวดต่อการล่า การส่งออก นำเข้ามากยิ่งขึ้น ทำให้สัตว์ที่ไม่เคยมีคนสนใจในการลดจำนวนลงของพวกมัน ได้มีการหันมาดูแลใส่ใจกับสัตว์ร่วมโลกชนิดนี้กันมากขึ้นด้วย

ยีราฟป่าลดจำนวน ฮวบลง 40% ตั้งแต่ 1985 GLAND, SWITZERLAND

การลดลงของจำนวนสัตว์ในธรรมชาตินั้น ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นแล้วเพื่อให้โลกเรายังน่าอยู่เราควรช่วยกันดูแลเริ่มต้นจากตัวเราที่จะใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ทำลายโลกลดลง ดูแลธรรมชาติ เพื่อที่สัตว์และมนุษย์จะได้อยู่ร่วมกันได้ต่อไป คงเหลือสัตว์ต่างๆ เอาไว้ให้ลูกหลานได้ดูและรู้จักกันแบบตัวเป็นๆ ไม่ใช่จากเพียงภาพวาด และวีดีโอเพียงเท่านั้น

บทความ โดย : Akine_noxx

เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper

ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ

เนื้อหาโดย: Noxx
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Noxx's profile


โพสท์โดย: Noxx
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: มีร่า
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มกล้ามโตจีบสาว สาวไม่เล่นด้วย เลยจับสาวทุ่มลงพื้นสรุปดราม่า "กุสุมา สันป่าเหียง"นักเรียนมุสลิมในเยอรมันเผย "ศาสนาของเรา อยู่เหนือกฎหมาย!!"เผยภาพลับ "ไบร์ท-เนเน่" ที่นิวซีแลนด์ ปลายปีที่แล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดวิธีทำให้บ้านเย็นไม่ใช้แอร์คดีฆ่ๅชำแหละยัดถุงดำ เป็นฝีมือชาวญี่ปุ่นเอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
detain: กักขัง ควบคุมตัวยังจำ " คลิปแรก " ของโลกบน YouTube กันได้ไหม”ดอนเมือง“ ถูกยก สนามบินดีที่สุดในโลกอันดับ 10 ของสายการบินต้นทุนต่ำวิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุด
ตั้งกระทู้ใหม่