ลดน้ำหนักภายใน 7 วัน ไม่ดียังไง ทำไมถึงไม่ควรลอง
สาวๆ น่าจะเคยเห็นสูตรการลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนภายใน 5 วัน 7 วัน กันมาบ้างใช่ไหมล่ะคะ รวมถึงแล้วอาจจะเคยทดลองกับตัวเองมาด้วย แล้วได้ผลกันหรือเปล่าคะ? เชื่อว่าก็น่าจะได้ผลจริงๆ ใช่ไหมล่ะ ไม่มากก็น้อย บางทีก็ลดได้ทันใจสัปดาห์ละ 2-3 โลเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีขนาดนั้น รู้หรือเปล่าว่าการลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ไม่ใช่วิธีการลดความอ้วนอย่างแท้จริงนะคะ แถมยังมีข้อเสียต่างๆ กับร่างกายตามมามากมายที่คุณสาวๆ ควรรู้เอาไว้เพื่อไม่เอาไปทำตามด้วยค่ะ
1. การเผาผลาญจะมีปัญหาเอา
เนื่องจากการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนสูตรระยะสั้นแบบนี้ มักจะกำหนดทั้งในส่วนของปริมาณอาหารรวมถึงแคลอรี่ที่ต่ำเอามากๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ทำให้ลดน้ำหนักได้แน่ๆ เนื่องจากสารอาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันมันต่ำเกินกว่าร่างกายต้องใช้นั่นเอง ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะการเอาตัวรอด จึงต้องดึงเอาพลังงานอื่นๆ ไปใช้ไปแทน โดยเฉพาะการค่อยๆ สลายโปรตีนในกล้ามเนื้อ เพื่อมาใช้เป็นพลังงานทดแทน ในขณะที่ก็จะพยายามเก็บสะสมไขมันเอาไว้ใช้ให้ได้นานที่สุด มิหนำซ้ำกล้ามเนื้อที่สูญเสียไป ทำให้ร่างกายลดการเผาผลาญให้น้อยลงไปด้วย ยิ่งถ้าทำไปเป็นระยะเวลานานๆ แทนที่จะผอมกลับกลายเป็นว่าได้ร่างกายที่อ่อนแอลงไปแทน โดยเฉพาะระบบเมตาบอลิซึ่มที่ถูกทำให้ลดลงด้วย ถ้ามันเสียขึ้นมาก็ต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนนานพอดูเลยกว่าจะกลับมาเป็นปกติด้วยนะ

2. น้ำหนักที่ลดคือการสูญเสียน้ำ
หลายๆ คนรู้สึกดีใจเมื่อเห็นน้ำหนักตัวบนตาชั่งหายไปอย่างรวดเร็ว แต่แท้ที่จริงแล้วนั้นการบริโภคอาหารที่น้อยจนเกินไป รวมถึงการรับประทานอาหารที่เร่งการเผาผลาญอย่างกาแฟดำ หรืออาหารที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายโยเกิร์ตและผักผลไม้นั้น ทำให้อาหารที่ตกค้างอยู่ในลำไส้นั้นออกจากร่างกายไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังขับน้ำออกจากร่างกายมากขึ้นไปด้วย แต่พอกลับมากินอาหารตามปกติ ร่างกายก็จะกลับมากักเก็บน้ำและอาหารไว้เช่นเดิม ทำให้อ้วนเท่าเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แค่ตัวเลขบนตาชั่งเบาขึ้น ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหุ่นดีขึ้นเสมอไปนะ ถ้าลดแบบหวังแค่ตัวเลขอย่างนี้ เธอไม่ใช่นักมวยที่ต้องทำน้ำหนักเพื่อขึ้นชกบนเวทีสักหน่อยนะ
3. ที่หายไปไม่ใช่มวลไขมันแต่เป็นกล้ามเนื้อ
การลดความอ้วนที่แท้จริง ไม่ได้หมายถึงการทำให้น้ำหนักเบาเพียงเท่านั้น เพราะตราบใดที่คุณไม่ได้ลดที่ไขมันสะสมในร่างกายลงได้อย่างแท้จริง จะไม่ถือว่าการลดความอ้วนของคุณนั้นประสบความสำเร็จเลย จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมน้ำหนักลดแล้วก็ยังกลับมาอ้วนได้อีกง่ายๆ ก็เพราะยังมีมวลไขมันที่ยังถูกเก็บสะสมไว้อยู่ ในขณะกล้ามเนื้อเองก็ย่อยสลายไปเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานอีก การที่ร่างกายมีกล้ามเนื้อน้อยจะส่งผลให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายมีต่ำลง ดังนั้นแล้วคนที่อยากลดความอ้วนจริงๆ จึงเร่งเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีเยอะขึ้นและลดมวลไขมันลงต่างหาก ซึ่งไม่สามารถจะทำได้จากการอดอาหารเพียงอย่างเดียวเลยนั่นเอง

4. เสี่ยงต่อโยโย่เอฟเฟกต์
เมื่อมีระบบการเผาผลาญที่เริ่มต่ำไปเรื่อยๆ จากการกินอาหาร ในปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวันน้อยเกินไปตอนไดเอตแบบเร่งรัด พอเมื่อร่างกายกลับมารับพลังงานจากอาหารที่รับประทานแบบปกติแบบกระทันหัน แต่การเผาผลาญยังมีน้อยเท่าเดิมก็ทำให้อ้วนง่ายขึ้น แถมร่างกายจะยิ่งกลัวอดอยากจึงพยายามเก็บไขมันสะสมไว้ในร่างกายไว้มากกว่าเอามาใช้นั่นเอง จึงเป็นเหตุผลของการเกิดโยโย่เอฟเฟ็คที่มาจากการลดน้ำหนักแบบผิดๆ จนร่างกายเผาผลาญน้อยลง และเลือกที่จะเก็บไขมันมากกว่านำไขมันมาใช้นั่นเองค่ะ
5. ทำแล้วอ้วนวนลูปไปเรื่อยๆ
เนื่องจากการลดน้ำหนักแบบนี้ทำให้ลดได้ง่าย แต่ว่าก็จะกลับมาอ้วนง่ายเช่นเดียวกัน เพราะส่วนใหญ่แล้วในตอนที่เข้าโปรแกรมลดนั้น เราจะถูกบังคับให้กินอาหารได้น้อยมาก รวมถึงมักจะเป็นอาหารจืดชืดที่ไม่ได้อร่อยเลยด้วย เมื่อออกจากโปรแกรมไดเอท 3-7 วันแล้ว เราก็มักจะโหยหาของอร่อยที่มีแคลอรี่สูง อยากกินของหวานของโปรดและไม่สามารถหักห้ามใจไว้ได้ จึงกลับมาอ้วนเหมือนเดิม พออ้วนก็กลับไปลดแบบเร่งด่วน พอออกจากไดเอตก็โหยหิวกินหนักเหมือนเดิม เป็นวัฎจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอมารู้ตัวอีกทีก็เริ่มลดไม่ไหวมีแต่อ้วนเพิ่มขึ้นง่ายๆ มากกว่าลดไปทุกทีแล้วใช่ไหมล่ะ?

6. เมื่อไม่ได้ผลก็หมดกำลังใจในการควบคุมน้ำหนักไปเลย
คนเรามักจะเกิดความกังวลง่ายเมื่อน้ำหนักเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นแบบง่ายดาย ทั้งๆ ที่ตอนลดก็ยากลำบากใช้ความอดทนสูงมาก ต่อสู้กับความหิวโหย กับการต้องทนกินอาหารที่น้อยมากๆ ไม่ทำให้ท้องอิ่มแถมไม่อร่อยด้วยมันไม่สนุกเลย แถมคนเราก็ไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ไปได้ตลอดไปด้วย ก็ทำให้ท้อแท้ หมดกำลังใจ คิดว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากเกินไป เนื่องจากตอนที่ลดก็ใช้วิธีแบบหักดิบ Extreme ซะขนาดนั้น ภาพจำของการไดเอตมันโหดร้ายเกินจะทน พอทำไปก็กลับมาอ้วนอีกเหมือนๆ เดิม แถมยิ่งอดก็ไม่ได้ผอมลงง่ายๆ แบบช่วงแรกๆ ที่เคยทำอีกต่อไป ลดไปก็ทรมานเปล่าๆ เลิกทำดีกว่าอ่ะ หลายๆ คนถอดใจเพราะเหตุนี้กันเลยจริงๆ
มาลดน้ำหนักให้ถูกต้องกันเถอะ
ฉะนั้นถ้าหากอยากจะลดความอ้วนจริงๆ คุณต้องโฟกัสที่การลดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย รวมถึงพยายามเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับตัวเอง พยายามใช้พลังงานให้มากกว่าที่กินเข้าไป แต่ก็ต้องไม่น้อยเกินกว่าที่ร่างกายต้องได้รับในแต่ละวันด้วย เพื่อที่ระบบเผาผลาญจะได้ไม่เสีย ซึ่งคุณสามารถคำนวณได้จากส่วนสูงและน้ำหนักของตัวเอง ที่เรียกว่าค่า BMR และค่า TDEE ให้ได้รู้ว่า แต่ละวันคุณใช้พลังงานแค่ไหน ต้องกินให้ได้เท่าไหร่ที่จะไม่น้อยหรือมากเกินไป รวมถึงอาหารที่กินต้องเป็นอาหารคุณภาพ กินแล้วไม่อ้วน เสริมสร้างร่างกายให้มีสุขภาพที่ดีด้วย แม้จะลดน้ำหนักลงได้ช้า แต่ก็จะลดได้แบบมีคุณภาพ หุ่นไม่พัง สุขภาพไม่แย่ในระยะยาวด้วยค่ะ

มาปรับวิธีการไดเอทโดยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตการกินและออกกำลังกายของตัวเองดีกว่า แทนที่จะต้องฝืนลดน้ำหนักแบบหักโหมแบบหลักสูตรเร่งรัดที่แม้จะได้ผลเร็ว แต่ไม่ดีกับร่างกายแบบนี้อยู่เลย แล้วคุณจะรู้สึกว่าการไดเอตไม่ใช่เรื่องยาก และทำให้เครียดได้ขนาดนั้น คุณยังสามารถหุ่นดีสวยได้แบบไม่โทรมและเสียสุขภาพด้วยค่ะ
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้าน
เรื่องราวสุดประทับใจของ คาร์ลอส เฟรสโก (Carlos Fresco) และ มอนตี้ (Monty) สุนัขพันธุ์ลาบาดูดเดิลแสนรักวัย 10 ปี
Trip “พม่า ท่าขี้เหล็ก” ฉบับคนไปทำงาน
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
ปรับทัศนคติให้ถูกทาง
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568



