ข้าวแกงบ้านสวน (ฉันหรือเธอที่เผลอใจ)
สำหรับคนที่เดินทางค่อนข้างประจำ หรือประจำ ออกจากกรุงเทพ มุ่งเหนือหรืออีสาน (ศัพท์สุภาพ:คุณสาน) ผมเชื่อว่าหลายคนวางแผนที่จะฝากท้องไว้ ไม่มื้อเช้าก็มื้อเที่ยง ที่เป้าหมาย ร้านข้าวแกงบ้านสวน ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ที่ขายข้าวแกงเป็นหลัก รสชาติแน่นอนต้องถูกใจหลายคน รวมทั้งผมด้วย ไม่งั้นจะแวะบ่อยๆ หาสวรรค์วิมานอะไร แม่น บ่ แม่น
ใช่ครับ ข้าวแกงธรรมดา ราคาปกติ 30-40 บาท รสชาตินับว่าถูกปาก
ผมเป็นคนนึงที่เดินทางประจำ และแวะประจำเป็นเวลานับ 10 ปี ต่อเนื่อง ไม่เคยปันใจเป็นอื่น
ประวัติคร่าวๆที่มีคนเล่าต่อๆกันมา ถูกผิดก็ไม่รู้อะ ฟังเขามาอีกหลายทอด ถ้าผิดมาช่วยแก้ให้ด้วยก็แล้วกันนะโยม
ร้านดั้งเดิมของข้าวแกงบ้านสวน ตั้งอยู่ในอู่ซ่อมรถเล็กๆ ริมถนนพหลโนธิน มุ่งหน้าเข้าสู่สระบุรีนั่นละ ปรากฏว่าขายดิบ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า (ไม่ใช่เททิ้งนะจ๊ะ อ่านดีๆ) จนต้องขยับขยายมาหาที่แปลงใหม่ ห่างออกมาจากจุดเดิมไม่ไกล
แรกๆผมขับรถผ่านบริเวณนั้นยังแอบนึกในใจ ใครวะ ลงทุนถมที่นาข้างถนน จะสร้างอะไรกัน มันจะคุ้มไหม ห่างไกลชุมชนเสียขนาดนั้น ตามปกติวิสัยของคนช่างเสือก เอ้ย ของคนขี้สงสัยแบบผม
ผ่านไปไม่นาน ป้าย “ข้าวแกงบ้านสวน สาขา2” ขนาดใหญ่ก็ปรากฏโฉมให้เห็น แม่เจ้า ผมร้องอุทานให้หิ่งห้อยข้างทางฟัง น่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาชีพขายข้าวแกง มันจะสามารถสร้างความรุ่งเรืองได้ถึงขนาดนี้
ครับผมแวะแทบทุกครั้งที่มีโอกาส ข้าวสวยร้อนๆ ราดผัดเผ็ดหมูป่า แซ่บๆ ไข่ต้มบ้าง ไข่ดาวบ้าง อย่างน้อยสองจานทุกครั้ง จนพุงปลิ้น จึงออกเดินทางต่อ อ้อแล้ว ซิกเนเจอร์ของที่นี่อีกอย่างคือ เค้กบ้านสวน ขายดีมาก เข้าใจว่าน่าจะซื้อไปฝากกันเสียมากกว่า เพราะหน้าตาน่ารับทาน หีบห่อสวยงาม แต่สารภาพว่าผมไม่ค่อยชอบรสชาติเท่าไร เอาเป็นว่าขายดีก็แล้วกันนะ
ลูกค้าที่แวะประจำจะพูดตรงกันว่าข้าวแกงที่นี่ขายดีมาก ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถทัวร์เป็นสิบ และหลายสิบคัน แวะจอดอย่างต่อเนื่อง ปัญหาที่ตามมาคือที่จอดรถไม่พอ อุเหม่ จะขายดีอะไรปานนั้นจ้ะที่รัก
เริ่มมีการถมที่นาข้างๆขยายออกไปเรื่อยๆ เพื่อทำที่จอดรถ และขยายร้านขายของต่างๆตามมา ตามการเจริญเติบโตของธุรกิจขายข้าวแกง
ต่อมามีการเปิดสาขาที่3 ในฝั่งตรงกันข้ามของถนน คือฝั่งขาเข้ากรุงเทพ แหม ไม่แน่จริง เลียนแบบไม่ได้นะจ้ะ
แต่ แต่ อย่าเพิ่งเพลินไป วันนึงก็มีเหตุให้น่าจดจำ
หลังจากผมห่างเหินการเดินทางไปหลายปี แล้วจู่ๆก็ต้องเดินทางผ่านจุดนั้น ก็นึกถึงคนรกเก่าขึ้นมาในบัดดล สายๆวันนี้ฉันจะแวะไปหาที่รักของฉันที่ท่าน้ำ ที่เก่าเวลาเดิม เมื่อมาถึงจอดรถเสร็จสรรพ ก็ไม่ต้องมองซ้ายมองขวาให้เสียเวลา พุ่งตรงไปที่จุดขายข้าวแกงที่คุ้นเคยมาหลายปี พระเจ้า ผมอุทานให้หิ่งห้อยข้างทางให้ได้ยินอีกครั้ง ข้าวแกงฉันหายไปไหน ทำไมมีแต่ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ ข้ามันไก่ มาแทนที่ ฮือๆๆๆๆ หันซ้ายหันขวา ขยี้ตาอีกแปดรอบ ภาพนั้นก็ยังตอกย้ำเหมือนเดิมคือ ไม่มีแล้วข้าวแกงแฟนเก่าของฉัน เธอร์ไม่มายืนรอที่ท่าน้ำเหมือนที่เคยให้สัญญากันไว้ ข้าวแกงบ้านสวน เธอร์ เปลี่ยนไป ดังคำโบราณกล่าว่า สามวันจาก นารีเป็นอื่น ฉันผิดเองที่ไม่เชื่อคำโบราณ
วันนั้นเลยต้องซดก๋วยแทบแทนด้วยความฝืดคอ และทำท่าคอตกเตรียมเดินกลับมาขึ้นรถ
เดินผ่านร้านขายไอติม อดถามไม่ได้ พี่ๆ ทำไมเขาไม่ขายข้าวแกงแล้วละ เขารวยแล้วเลิกขาย ไปอยู่เมืองนอกแล้วเหรือ คุณพี่เจ้าของซุ้มไอติ้ม หันมาค้อนทีนึง แล้วชี้นิ้วให้ดูป้ายยักษ์ ด้านบน ที่เขียนบอกว่า "ร้านข้าวแกงย้ายไปอยู่อาคารใหม่" แป่วววว
แม่มมม ก็ผิดเองที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดินไม่เงยหน้าดูฟ้าดูดินกับใครเขา ตกลงที่กิจการเขาดีตลอดเวลา ขยายแม่มตลอดจนตรูตามไม่ทันแล้วเว้ยเฮ้ย
รอบหน้าจะมาแก้แค้นใหม่นะจ๊ะที่รัก