Megaprojects ที่น่าประทับใจที่สุดในโลก

29 เมษายน 2563

วิดีโอ โดย Fred Mills 

ความคิดว่าผู้โดยสารจะนั่งในฝักที่เดินทางด้วยความเร็วเท่าสายการบินผ่านหลอดที่ปิดผนึก โดยใช้แรงขับไฟฟ้าและการลอยตัวด้วยแรงของแม่เหล็กทำให้เกิดไฮเปอร์ลูป ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเดินทางบนพื้นผิวโลก

ความคิดครั้งแรกของ Elon Musk เกิดขึ้นในปี 2013 ความคิดนั้นเปิดกว้างและได้รับต้อนรับจากบริษัท ต่าง ๆทั่วโลกให้พัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้

นับตั้งแต่นั้นมาเศรษฐี วิศวกรและรัฐบาลได้แข่งขันกันเพื่อเปิดระบบปฏิบัติการนี้เป็นคนแรกและทั้งหมดนี้คือการแข่งขันเรื่องการขนส่งที่ก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนรุ่นต่อไป

 

บน:เซอร์ริชาร์ด แบรนสันในการเจรจากับรัฐบาลของอินเดียและซาอุดิอาระเบียเพื่อสร้าง hyperloop ระบบแรก (ภาพจาก Virgin Hyperloop One)

ดูเหมือนว่ามีเพียงไม่กี่ประเทศที่มีแนวโน้มที่จะสร้างระบบไฮเปอร์ลูปได้เป็นแห่งแรกเร็วมากไปกว่าอินเดีย

Virgin Hyperloop One ซึ่งเป็นผู้นำในกลุ่มนี้ได้สร้างเส้นทางทดสอบเต็มรูปแบบครั้งแรกของโลกในทะเลทรายเนวาดา ประกาศอย่างเป็นทางการด้วยข้อเสนอของพวกเขาในการสร้างเส้นทางระหว่าง Pune และ Mumbai มูลค่า10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะที่จะมีผู้โดยสารเดินทาง 75 ล้านคนระหว่างสองเมืองในแต่ละปี แต่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 130 ล้านคนในปี 2026

ระบบไฮเปอร์ลูปจะลดเวลาการเดินทางด้วยรถยนต์จาก 3 ชั่วโมงครึ่งลงเหลือเพียง 35 นาที

แม้ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจและการจัดซื้อ จัดจ้างสาธารณะแล้ว แต่รัฐคาดว่าเห็นโครงเริ่มขึ้นในต้นปี 2020

ด้านบน: ก้าวกระโดดครั้งสำคัญนับตั้งแต่ บริษัท Virgin เริ่มทำการทดสอบที่โรงงานในเนวาดา ( ภาพจาก Virgin Hyperloop One )

ความกังวลเกี่ยวกับที่ว่าอินเดียเป็นจะผู้บุกเบิกระบบเป็นประเทศแรกหรือไม่ เมื่อมีการลงทุนในการขนส่งรูปแบบนี้เกิดขึ้นในที่อื่น ๆ

เซอร์ริชาร์ด แบรนสัน แห่งบริษัท เวอร์จินได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่งของอินเดียเพื่อนำเสนอเส้นทางอื่น คือเส้นทางเชื่อมต่อนิวเดลีกับมุมไบ

 

ด้านบน: ภาพวิดีโออธิบาย "Hyperloop" ของ B1M แสดงให้เห็นแนวคิดว่าทำงานอย่างไรและเป็นวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก hyperloop 

ประเทศซาอุดิอาระเบียยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ Virgin Hyperloop One พร้อม ๆกับอินเดียเพื่อเปิดระบบแรกโดย บริษัท เตรียมที่จะสร้างโรงงานผลิตและเส้นทางทดสอบระยะทาง 35 กิโลเมตรทางตอนเหนือของเจดดาห์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ประเทศนี้ได้ตกลงที่จะศึกษาความเป็นไปได้ก่อนการใช้งานระบบไฮเปอร์ลูปครั้งแรก ซึ่งจะดำเนินการในระดับชาติที่ใดก็ได้ในโลก

เป้าหมายของซาอุดิอาระเบีย คือการเชื่อมต่อเมืองสำคัญในอ่าวเปอร์เซียและช่วยให้ผู้โดยสาร 45 ล้านคนต่อปีเข้าถึงกันและกันได้ภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง

ด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ด้านนอกของฝัก โครงการดังกล่าวจะสอดคล้องกับกลยุทธ์พลังงานสะอาด 50% ภายในปี 2050 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) 

Hyperloop Transportation Technologies (Hyperloop TT) กำลังวางแผนระบบในตะวันออกกลางและเสนอราคา 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับระยะทาง 150 กิโลเมตรระหว่างดูไบและอาบูดาบีซึ่งจะทำให้ไปถึงกันได้ภายใน 15 นาที

 

ด้านบน: เส้นทางทดสอบไฮเปอร์ลูปในฝรั่งเศส ( รูปภาพนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก Hyperloop TT )

บริษัท ซึ่งมีเส้นทางทดสอบเต็มรูปแบบของตัวเองในประเทศฝรั่งเศสได้ประกาศแผนการที่จะเริ่มการทดสอบผู้โดยสารภายหลังปี 2020 โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2023

แต่ในขณะที่ข้อเสนอของตะวันออกกลางดูสดใส แต่โอกาสที่ดีที่สุดของ Hyperloop TT ในการชนะการแข่งขันอยู่ในสหรัฐอเมริกา (US)ในปลายปี 2019 บริษัท ได้ทำงานร่วมกับหน่วยประสานงาน Areawide Coordinator Agency (NOACA) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐโอไฮโอในการเผยแพร่สิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการศึกษาความเป็นไปได้หลายมิติที่กว้างขวางที่สุดจนถึงปัจจุบัน

เส้นทาง Great Lakes มองเห็นโอกาสของการเดินทางของผู้คนหลายสิบล้านครั้งที่จะเกิดขึ้นระหว่างเมืองและคาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและค่าระวางในอีก 25 ปี

การเดินทางด้วยไฮเปอร์ลูปจากชิคาโกไปยังคลีฟแลนด์จะใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงซึ่งจะช่วยส่งเสริมภูมิภาคมิดเวสต์และอาจสร้างตลาดแรงงานแบบครบวงจรที่ผู้คนสามารถอาศัยอยู่ในเมืองหนึ่ง แต่ไปทำงานในที่อื่นได้

 

ด้านบน: ฝักที่อาจเป็นอนาคตของการเดินทางระยะไกล ( ภาพจาก Hyperloop TT )

โครงการนี้กำลังดำเนินการตามการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและภายใต้การอนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งรวมถึงกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกา Hyperloop TT หวังว่าจะสามารถดำเนินการเส้นทางได้ภายในปี 2028

ที่อื่น ๆ ในอเมริกาเหนือมีข้อเสนอในการสร้างไฮเปอร์ลูประหว่างเม็กซิโกซิตี้และกวาดาลาฮารา - เพื่อลดการเดินทางด้วยรถยนต์จาก 6 ชั่วโมงลงเหลือ 38 นาที

 

ด้านบน: การทดสอบแรงขับกำลังดำเนินการในยุโรป (รูปภาพของ Hardt Hyperloop)

พันธมิตรดังกล่าวประกอบด้วย Hardt Hyperloop จากเนเธอร์แลนด์, Hyper Poland, TransPod (บริษัทแคนาดาที่มีสำนักงานในอิตาลีและฝรั่งเศส) และ Zeloros ของสเปน เครือข่ายศูนย์วิจัยจะตั้งขึ้นเพื่อเริ่มดำเนินการในประเทศเหล่านี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Hardt Hyperloop เป็นผู้นำด้วยศูนย์ Hyperloop ยุโรปใน Groningen พร้อมการก่อสร้างที่จะแล้วเสร็จในปี 2022

ศูนย์แห่งนี้จะเป็นศูนย์ทดสอบความเร็วสูงแห่งแรกในยุโรปและห้องปฏิบัติการที่นักพัฒนาสามารถแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและประสบการณ์

 

ด้านบน: สถานี Hyperloop สามารถเชื่อมต่อเมืองต่างๆทั่วยุโรปในไม่ช้า (ภาพจาก Hardt Hyperloop)

Hardt วาดภาพอนาคตที่ทุกเมืองสำคัญในยุโรปจะเชื่อมต่อกันด้วยไฮเปอร์ลูปและการเดินทางระหว่างฮับสำคัญ ๆ เช่นอัมสเตอร์ดัมและแฟรงค์เฟิร์ต

ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการคิดแบบมีส่วนร่วมจากนักประดิษฐ์หลายคนทั่วทั้งทวีปและด้วยการสร้างศูนย์วิจัยและสถานที่ทดสอบที่มีการรวมตัวกันอย่างรวดเร็วโอกาสของไฮเปอร์ลูปแรกที่เกิดขึ้นในยุโรปก็ไม่ควรถูกสบประมาท

สำหรับเทคโนโลยีที่ Elon Musk เคยกล่าวไว้ว่าจะมอบประสบการณ์ให้ผู้โดยสารที่ “ราบรื่นเหมือนกระจก” จนถึงปัจจุบันไฮเปอร์ลูปยังไม่เป็นเช่นนั้น

แต่ด้วยความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีและการทดสอบและด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกความคาดหวังของระบบไฮเปอร์ลูปแรกของโลกที่จะต้อนรับผู้โดยสารในทศวรรษหน้านั้นจะไม่ได้เป็นเพียงท่อแห่งความฝันอีกต่อไป